เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
แวมไพร์สาวเอ่ยขึ้น และมันก็สร้างความตกตะลึง
แก่แวมไพร์ทุกตนในห้องอย่างที่นางคาดไว้
"การหาข่าวของพวกวอร์ริเออร์นั้นแม่นยำที่สุดแล้ว
โดยเฉพาะนี่เป็นข้อมูลที่หาโดยหน่วยที่เก่งที่สุด
ของพวกมันอย่างพวกพาลาดินอีก
ข้อมูลนี้จึงมีความน่าเชื่อถือสูงมาก .... เจ้าชายเพคะ
ข้อมูลที่ท่านเห็นตรงหน้านี้
เป็นข้อมูลละเอียดที่สุดของเมืองแซงจูรี่ย์
ที่ออกมายังโลกภายนอกในรอบหลายพันปี"
"ของจริงเหรอนี่" ทีโอดอร์เอ่ยขึ้น
พร้อมกับลุกขึ้นยืนกลางสระอย่างไม่รู้ตัว "ว่าต่อไปเวโรนิก้า"
"ก่อนมานี่ข้าได้ศึกษาข้อมูลเหล่านี้อย่างละเอียด
แผนผังของเมืองแซงจูรี่ย์นี้ถูกวางโครงสร้างมาเป็นอย่างดี
มีทั้งความสลับซับซ้อน
และสามารถเชื่อมโยงถึงกันเหมือนโครงสร้างใยแมงมุม
อีกทั้งระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่ก็มีความละเอียดสูง
จนยากที่คนนอกจะลอบเข้าไปได้เลย
จนพวกพรีสมันเรียกเมืองนี้ว่า นครแห่งเทพยดา
ที่มารร้ายอย่างพวกเราไม่สามารถย่างกรายเข้าไปได้"
"แต่สุดท้ายแล้วเมืองนี้ก็เป็นเมืองของมนุษย์ธรรมดา
ไม่ใช่เมืองของเทพอย่างที่พวกมันกล่าวอ้าง
เพราะที่สุดแล้ว แซงจูรี่ย์ก็ยังมีจุดอ่อนอยู่"
เวโรนิก้าพูดจบก็ชี้ไปที่ท้องฟ้าเหนือเมือง
"ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่
มีระยะทำการสูงสุดก็คือ 10000 เมตรรอบเมือง 360 องศา
ด้วยการป้องกันระดับนี้
จึงทำให้ไม่มีใครสามารถบุกโจมตีได้ เว้นแต่ว่า
จะมีของบางอย่างที่สามารถลอยได้ในระยะ 10000 เมตรเหนือผิวดิน
ลอยขึ้นไปอยู่เหนือเมืองนี้พอดี
จากนั้นก็ทิ้งตัวด้วยความเร็วสูง
จนสัญญาณเตือนของพวกพรีสไม่อาจจะเตือนได้ทัน
นั่นก็จะทำให้เราสามารถฝ่าแนวรับ
และเข้าโจมตีพวกมันอย่างไม่ทันตั้งตัว"
"และนั่นก็คือของที่เราต้องใช้อย่างที่ 2 เพคะเจ้าชาย ...... วังแอสการ์ด !!"
"เจ้ารู้เรื่องแอสการ์ดของเราได้ยังไงเวโรนิก้า !!!"
ชอลลี่ตวาดดังลั่น
แต่เวโรนิก้าก็ตอบคำถามนั้นด้วยการยิ้มเยาะน้อยๆเท่านั้นเอง
"แต่ถึงแม้เราจะบุกระยะประชิดเมืองแซงจูรี่ย์ได้ แต่ปัญหามันก็ยังไม่จบ"
วิคตอเรียเอ่ยเสียงเรียบ
"เพราะในตอนนั้นแอสการ์ด
ก็ต้องเผชิญหน้ากับพรีสนับหมื่น
ถึงตอนนั้นฝ่ายที่จะเสียหายยิ่งกว่าก็คือตัวแอสการ์ดเอง"
"3000 คน" เวโรนิก้าเอ่ยตอบ
"แท้จริงแล้วภายในแซงจูรี่ย์มีพรีสไม่มากนักหรอก
นั่นก็เพราะพวกมันเชื่อถือในตัวเมืองมากเกินไป
แถมใน 3 วันข้างหน้านี้จะเป็นช่วงเวลาสับเปลี่ยนกำลังพล
จะเป็นวันที่แซงจูรี่ย์จะมีพรีสประจำการอยู่น้อยที่สุด
ไม่เกิน 3000 นอกนั้นก็เป็นพรีสฝึกหัด
ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้
ซึ่งนั่นก็เป็นจำนวนที่ฝ่ายเราไม่เสียเปรียบนัก
วันนั้นจึงเป็นวันที่ดีที่สุดในการโจมตี"
"แต่ถึงแม้จะมีแค่ 3000 คน พอเกิดการปะทะกันขึ้นมาจริงๆ
มันก็จะกลายเป็นสงครามใหญ่ได้ไม่ยาก
ดังนั้นเราจึงต้องใช้อาวุธอย่างหนึ่งมาช่วย
และนั่นก็คือของที่เราจะใช้อย่างที่ 3 อนุภาคลูบินนอฟ"
สิ้นคำของเวโรนิก้า เหล่าแวมไพร์ทั้งหมด
ก็หันมาจ้องเขม็งที่ตัวเธอเป็นจุดเดียว
เพราะจะว่าไปแล้ว 'อนุภาคลูบินนอฟ'
นั้นเป็นความลับยิ่งกว่าเรื่องวังแอสการ์ดเสียอีก
แต่แวมไพร์สาวก็ไม่สนใจสายตาเหล่านั้น
เธอหันไปอธิบายสไลด์ต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน
"อนุภาคลูบินนอฟ
เป็นอาวุธที่พวกท่านพัฒนาขึ้นอย่างลับๆ
ความสามารถของมันสามารถหยุดยั้ง
การใช้เวทย์มนต์ได้อย่างสมบูรณ์
และจากที่ข้าได้ทราบมา
มันได้ผ่านการทดสอบในขั้นสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว
เหลือแค่เพียงนำมาใช้ในการสู้รบจริงเท่านั้น
ซึ่งข้าว่ามันถึงเวลาแล้ว"
"พวกพรีสมีจุดอ่อนอย่างร้ายแรงอยู่
นั่นก็คือพวกมันละเลยการฝึกการต่อสู้ทางกายภาพ
พวกมันมุ่งเน้นแต่การฝึกฝนการใช้เวทย์มนต์เพียงอย่างเดียว
ถ้าเราสามารถหยุดยั้งการใช้เวทย์มนต์ของพวกมันได้
พวกมันก็จะไม่ต่างกับโดนตัดแขนตัดขา
และโอกาสชนะก็จะเป็นของเราทันที"
"พอได้แล้วเวโรนิก้า !!"
วิคตอเรียตวาดลั่นก่อนจะลุกขึ้นยืนกลางสระ
"ที่เจ้าพูดมาเหมือนจะฟังดูดี แต่มันก็มีจุดบอด ....
เจ้ารู้ได้ยังไงว่าแผนผังในแผ่น CD ของเจ้าเป็นของจริง !!
ไม่ใช่เล่ห์กลที่พวกมนุษย์มันทำขึ้นมาหลอกเจ้า
ถ้าเจ้าจะให้พวกเราทำตามแผนพวกนั้นของเจ้า
เจ้าก็ต้องให้เราตรวจสอบข้อมูลใน CD เสียก่อน"
"กว่าจะตรวจเสร็จมันก็เลย 3 วันนั้นไปแล้ว !!
และถ้าเลย 3 วันข้างหน้านี้ไป
ข้าก็ไม่รู้แล้วว่าจะบุกตีได้อีกเมื่อไหร่"
เวโรนิก้าหันมาโต้ตอบอย่างเผ็ดร้อน
"จริงอยู่ที่ข้อมูลนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ 100 %
แต่ถ้ามันเป็นของจริงล่ะ
ถ้าเรามาลังเลแบบนี้
เจ้าชายจะพลาดโอกาสแสดงผลงานครั้งใหญ่
เจ้าชายเพคะ เชื่อข้าเถอะค่ะ ถ้าครั้งนี้เราทำสำเร็จ
ทุกอย่างจะเป็นผลดีต่อตัวท่าน
รวมไปถึงตำแหน่งรัชทายาทของท่านด้วย"
"หุบปากเดี้ยวนี้นังแวมไพร์ขยะ !! เจ้าอย่าบังอาจมาสามหาวใส่เจ้าชายน่ะ"
วิคตอเรียตะโกนอย่างเดือดดาด
"ลำพังแค่เจ้ารู้ข้อมูลลับของพวกเรา
เจ้าก็มีโทษมหันต์แล้ว ถ้าขืนเจ้ายังกล้ามาสามหาวใส่เจ้าชายอีก
ข้าจะสังหารเจ้าเสียเดี้ยวนี้"
"พอได้แล้ววิคตอเรีย" แต่แล้วเสียงทรงพลังก็เอ่ยขึ้น
ก่อนที่เจ้าของเสียจะยืนขึ้นแล้ว
วางมือไว้บนบ่าของแวมไพร์สาวตรงหน้า
เมื่อเป็นเช่นนี้วิคตอเรียจึงไม่กล่าวอะไรต่อ
และต้องนั่งคุกเข่าลงไป
"จริงอยู่ที่ในมิดแลนด์จะมีเพียงข้า
และท่านพ่อเท่านั้นที่มีพลังเวทย์ถึงเลเวล 12
แต่ข้าก็ยังไม่ได้รับการยอมรับในตำแหน่งรัชทายาทจากสภาสูงอยู่ดี
แม้ต่อหน้าพวกนั้นจะทำเป็นนอบน้อมข้า
แต่ลับหลังพวกมันก็ค่อนขอดว่าข้ายังเยาว์เกินไปมั่งล่ะ
หรือแม้แต่ข้ายังไม่มีผลงานที่สมกับเป็นรัชทายาทมั่งล่ะ
ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป วันใดที่ข้าได้ครองบัลลัง
มิดแลนด์แห่งนี้ก็จะเกิดปัญหา"
"เจ้าชาย ....." วิคตอเรียเอ่ยเสียงอย่างแผ่วเบา
"อย่างที่เจ้าพูดมา สิ่งที่ข้าต้องการที่สุด
ก็คือโอกาสที่จะสร้างผลงาน และสิ่งที่เจ้านำมาเสนอ
มันก็หอมหวนจนข้าไม่อาจจะปฏิเสธได้
ถ้าศึกครั้งนี้ข้าทำสำเร็จ ไม่เพียงแค่จะลบคำครหา
แต่ชื่อเสียงของข้าก็จะเลื่องลืมไปทั่วทั้ง wonderland"
"ข้าจะทำตามเจ้า เวโรนิก้า !!"
เจ้าชายแห่งแวมไพร์ประกาศเสียงดังกึกก้อง
"แต่เจ้าชายเพคะ ข้อมูลของนางยังไม่ได้รับการยืนยัน
โอกาสผิดพลาดมันก็...."
"ข้าตัดสินใจแล้ว วิคตอเรีย !!"
ทีโอดอร์มันมาจ้องตาแวมไพร์สาวอย่างดุดัน
จนนางต้องเงียบลงในทันที
โชคดีที่นางเป็นสนมคนโปรดของเจ้าชาย
ไม่งั้นนางอาจจะคอขาดไปแล้วก็ได้
"แล้วเรื่องที่นางนี่มันรู้ข้อมูลลับของเราล่ะคะ"
ชอลลี่เอ่ยเสียงเกรงๆ
"เรื่องนั้นไม่จำเป็น !!" ทีโอดอร์พูดเสร็จ
ก็ประกาศคำสั่งเสียงดังลั่น
"พวกเจ้าทั้งหมดจงฟัง จงแยกย้ายไป
ประกาศให้เหล่านักรบในแอสการ์ดเข้าประจำที่
แล้วแจ้งเรื่องการรบครั้งนี้ด้วย !!
วิคตอเรีย ติดต่อห้องขับเคลื่อน อีก 5 นาทีข้าจะไปถึง"
"เวโรนิก้า เจ้าไปกับข้า"
เนื่องจากตัวทีโอดอร์เองไม่ได้ศึกษาเวทย์ธาตุลม
ทำให้เขาไม่มีเวทย์บทไหน
ท่าจะช่วยเรื่องการเคลื่อนที่ย่นระยะได้
ดังนั้นตอนสร้างแอสการ์ด
เขาจึงวางระบบ ลิฟต์แก้ว
เอาไว้ใช้ทดแทน ลิฟต์แก้วนี้
จึงเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวก
ให้แก่เขาเป็นอย่างมาก เพราะมันทำให้เขา
สามารถเดินไปยังห้องขับเคลื่อน
ที่อยู่ใจกลางของปราสาทได้ ในเวลาไม่กี่นาที
สำหรับเวโรนิก้า นี่เป็นครั้งแรกที่เธอ
ได้เห็นห้องขับเคลื่อนเต็มสองตา
ภายในประกอบด้วยเครื่องมือ
ที่ได้มาจากการนำองค์ความรู้ต่างๆ
ในแต่ล่ะมิติมาประยุกต์ใช้ เข้าด้วยกัน
จนกลายเป็นเครื่องมือแบบใหม่
ที่มีความทันสมัยล้ำยุคไปไกลมาก
แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่า ก็คือบุคลากรภายใน
ที่ล้วนแล้วแต่เป็นวิศวกรชั้นหัวกระทิของมิดแลนด์ทั้งนั้น
เพราะมีทั้งเครื่องมือและบุคลากรเช่นนี้นี่เอง
แอสการ์ดแห่งนี้จึงสามารถสร้างสิ่งที่เหลือเชื่อ
อย่างปราสาทลอยฟ้า
และอนุภาคที่ปิดกั้นพลังเวทย์ออกมาได้
และการได้ติดตาม เจ้าชายแวมไพร์
เข้ามาในห้องขับเคลื่อนนี้ ทำให้เวโรนิก้า
ได้เห็นความลับของปราสาทลอยฟ้า !!
ลึกลงไปภายใต้แอสการ์ดแห่งนี้
มีเตาพลังงานขนาดใหญ่
ที่สามารถส่งพลังงานความร้อน
ไปยังท่อไอพ่นน้อยใหญ่นับร้อยโดยรอบ
ให้สามารถยกปราสาทแห่งนี้ให้ลอยขึ้นฟ้า
แต่การจะทำให้เตาพลังงานนี้ทำงานได้นั้น
จำเป็นต้องอาศัยพลังงานไฟฟ้าจำนวนมหาศาล
เพื่อเป็นตัวจุดระเบิด
เหล่าวิศวกรของแอสการ์ด