Your Wishlist

ดินแดนมหัศจรรย์ (ดินแดนมหัศจรรย์)

Author: xxx555

เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland

จำนวนตอน :

ดินแดนมหัศจรรย์

  • 07/08/2568

แต่ไม่ทันที่จะถึงตัวบ้าน พวกเขาเหล่านั้น

ก็แข้งขาอ่อนล้มคว่ำไปทันที ไม่พอแค่นั้น

 ท่อนควยของพวกเขาก็ต่างฟองโต 

 

 

 

ไม่นานนักน้ำเงี่ยนก็แตกกระเซ็น สุดท้าย

 คนที่ตั้งใจจะมาต่อสู้กลับต้องมาน้ำแตกนอนหมดแรงสิ้นสติอยู่บนพื้น

 

จะมีก็แต่เพียงชายผมแดงที่น้ำแตกกับเขาเช่นกัน

 เพียงแต่ว่าเขายังเป็นคนเดียวที่ยังพอรักษาสติอยู่ได้

 เขาจึงเป็นคนเดียวที่พบสาเหตุน้ำแตกของคนทั้งหมด

 

 นั่นก็คือเพราะคนเหล่านั้นได้สัมผัสกับ

ไอสีเขียวเข้มแปลกประหลาดที่ปกคลุมไป ทั่วพื้น

 ไอคล้ายๆกันนี้เขาก็เคยเห็นมาบ้าง 

 

มันคือไอมาน่าของพวกผู้ที่มีพลังเวทย์

 แต่ต่างกันก็คือเขาไม่เคยเห็นไอมาน่าของใคร

จะสีเข้มและกระจายเป็นวงกว้างได้ ขนาดนี้มาก่อน

 

แต่ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยอะไรต่อ ประตูบ้านก็ถูกเปิดออก

 เผยให้เห็นต้นตอของพลังมาน่าเหล่านี้

 ต้นตอที่มาจากร่างเปลือยเปล่าสุดเซ็กซี่ของหญิงสาวผมสีดำขลับ

 

 หญิงสาวที่พึ่งผ่านการอัพเลเวลขึ้นไปอีกขั้น

 จนกลายเป็นแวมไพร์ชั้นขุนพลที่สง่างามแต่ก็แผงไว้ด้วยความน่ากลัว

 

 จนแม้แต่เจ้าชายผมแดงยังต้องแตกตื่นหวาดหวั่น

 มีเหงื่อกาฬผลุดขึ้นเต็มหน้า

 

 

แต่ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร หญิงสาวผู้นั้นก็ชิงถามขึ้นมาก่อนแล้ว

 

"เจ้าพาลาดินนั่น ไปทางไหน"

 

"ตูมๆๆๆๆๆๆ"

 

ห่างออกจากตัวเมืองไปไม่ไกลนัก ในป่าใหญ่แห่งหนึ่งมีเงา 2 สาย

 ไล่ล่ากันไปตามทาง ทั้ง 2

 ต่างก็ซัดลูกไฟเวทย์ที่มีอานุภาพไม่แพ้กันเข้าใส่อีกฝ่าย

 

 จนเกิดเสียงระเบิดดังลั่นไปหมด

 แมกไม้แถบนั้นต่างก็ลุกท่วมด้วยเปลวเพลิง ก่อนที่เพลิงจะขยายวง

 จนกลายเป็นไฟป่าขนาดใหญ่

 

"ดีแต่ลอบกัด ออกมาซิว่ะ" 

เงาสายหนึ่งเป็นของพาลาดินแห่งไฟ เบิร์น

 

"ร้องตะโกนเป็นตุ๊ดเลยเหรอเนี่ย" แต่เงาอีกสายนี่สิ

 กลับเป็นของแวมไพร์สาวที่เคยโดนจับเป็นเชลย

 

 "แต่จะว่าไปก็เหมาะดีน่ะ เพราะพ่อของเจ้าก็ร้องเป็นตุ๊ดแบบนี้นี่แหละ"

 

 

 

"เวโรนิก้า !!!!" เบิร์นตวาดลั่นอย่างเดือดดาดสุดขีด

ก่อนจะซัดลุกไฟที่มีอานุภาพรุนแรงระดับเลเวล 9 เข้าใส่ทันที

 

"โล่พิทักษ์ธาตุไฟ เลเวล 9" 

 

แต่แวมไพร์สาวกลับไม่ตื่นตกใจใดๆเลย

 เธอร่ายเวทย์ป้องขึ้นมากำบังทันที 

 

เวทย์ธาตุเดียวกันเลเวลเดียวกันนั้น

 สามารถหักล้างซึ่งกันและกันได้พอดิบพอดี

 

"เลเวล 9 งั้นแปลว่าไอ้พวกสวะเหล่านั้น"

 

"อย่าไปเรียกพวกนั้นว่า สวะ สิไอ้หนู"

 เวโรนิก้ากล่าวเย้ยหยัน 

"เพราะอีกเดี้ยวเจ้าก็ต้องตายด้วยมือข้าเหมือนพวกมันอยู่แล้ว"

 

"อย่ามากปากดีน่ะเวโรนิก้า" เบิร์นตวาดลั่น 

"คิดว่าใช้เวทย์เลเวล 9

 ได้ก็จะสู้ข้าได้งั้นเหรอ คิดผิดแล้วเว้ยยยยย"

 

"ดินแดนเพลิงพระกาฬ .... รวมศูนย์" 

 

เจ้าพาลาดินร่ายเวทย์ประจำตัว

 ทั่วร่างของมันลุกท่วมไปด้วยไฟ ก่อนที่จะระเบิดออก

 กลายเป็นลูกไฟขนาดย่อมลอยอยู่ในมือ

 

"ลูกแก้วกลืนตะวัน" แต่แวมไพร์สาวก็ไม่หวั่นเกรง

 เธอร่ายเวทย์ขึ้นมาหนึ่งบทเพื่อรับมือเช่นกัน

 พลังธาตุไฟในอากาศปริมาณมหาศาลถูกดึงดูดเข้าร่างเธอ

 

 ก่อนที่จะควบแน่นจนกลายเป็นลูกแก้วทรงกลม

 ที่ส่องประกายแสงสีแดงเจิดจ้าลอยเด่นอยู่บนสองมือของเธอ

 

"ทำอะไรว่ะนังโง่ เวทย์ของข้า

มีพลังทำลายสูงสุดในหมู่เวทย์เลเวล 9

 แล้วคิดเหรอว่าเวทย์กระจอกๆนั่นจะช่วยเจ้าได้"

 

"งั้นเหรอ ..... งั้นก็ลองซัดมันใส่ข้าดูสิ"

 

"ว่าไงน่ะ" เจ้าพาลาดินร้องลั่นอย่างเกรี้ยวกราด

 "ท้าทายข้าเหรอ เจ้ากล้าท้าทายข้าเหรอ !! ได้

 ถ้าเจ้าอยากลงนรกนักข้าก็จะสงเคราะห์ให้ ตายไปซะ อีกระหรี่ !!"

 

เจ้าพาลาดินขว้างลูกไฟนั้นเข้าจู่โจมทันที

 ลูกไฟนี้ร้อนแรงยิ่งกว่าลูกไฟไหนๆ

 เล่นเอาเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำรอบด้านถูกแหวกเป็นสาย

 

 สมแล้วกับที่ได้ชื่อว่า เป็นราชาในหมู่เวทย์เปลวเพลิงระดับเดียวกัน

 แม้ว่าแวมไพร์สาว จะพึ่งเลเวลอัพ

 จนเธอสามารถใช้เวทย์เพลิงเลเวล 9 ได้เช่นกัน 

แต่ก็ยังดูไม่ออกเลยว่า เธอจะมีเวทย์ใดมารับมือเวทย์เพลิงบทนี้

 

ชั่วเสี้ยววินาทีที่ลูกไฟดวงนี้จะเข้าถึงเธอ

 แวมไพร์สาวก็ซัดลูกแก้วออกไปเช่นกัน

 

 แต่ที่น่าแปลกก็คือแทนที่เธอจะซัดลูกแก้วไปข้างหน้า

 เธอกลับเลือกที่จะซัดขึ้นไปบนฟ้ามากกว่า !!

 

แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

 ลูกไฟอัคคีของเจ้าพาลาดินที่

กำลังจะพุ่งมาเผาร่างของเธอกลับเลี้ยวหักศอก 

ขึ้นด้านบนเช่นกัน ราวกับว่าเจ้าลูกไฟ

 

 เปลี่ยนเป้าหมายมาไล่ตามลูกแก้วสีแดงนั่นแทน

 ก่อนที่เวทย์ทั้งสองจะปะทะกันบนฟ้า

 แล้วระเบิดออกกลายเป็นลูกไฟขนาดยักษ์ !! ไม่แค่นั้น

 

 เปลวไฟที่โหมไหม้ป่าแห่งนี้ก็พวยพุ่งขึ้นฟ้า

 ราวกับจะถูกดูดจากลูกไฟยักษ์ ไม่นานนักไฟที่ไหม้ก็มอดดับ

 เหลือเพียงลูกไฟยักษ์ที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า

 

"นี่มันบ้าอะไรกันว่ะ !!!" เจ้าเบิร์นร้องลั่นอย่างไม่เชื่อสายตา

 

"มหัศจรรย์ใช่ไหมล่ะ เวทย์ของพวกวิซาร์ต"

 

 เวโรนิก้าเอ่ยขึ้นในขณะที่แหงนมองดูลูกไฟดวงนั้นอย่างพึงพอใจ

 

 "ลึกล้ำ เหนือจินตนาการ แต่ในขณะเดียวก็ซับซ้อน

และเข้าใจยากยิ่งกว่าเวทย์บทไหนๆ"

 

"นั่นเป็นเวทย์ไฟเลเวล 9 ที่วิซาร์ตคนนึงเคยสอนข้า"

 แวมไพร์สาวพูดจบก่อนจะละสายตา

มายังเจ้าพาลาดินตรงหน้า 

 

"ตามปกติเวทย์ทั่วไปจะดูดกลืนพลังธาตุมาเป็นพลังงาน

 แต่ลูกแก้วนั้นไม่ใช่

 

 ลูกแก้วนั้นจะดูดกลืนทุกอย่างที่เกี่ยวกับธาตุไฟ 

ทั้งธาตุไฟในอากาศ เปลวไฟของจริงในธรรมชาติ

 ลูกไฟเวทย์ของศัตรู .... รวมทั้ง ร่างเพลิงของเจ้าด้วย"

 

สิ้นคำของแวมไพร์สาว 

เจ้าพาลาดินก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติในร่างกาย

 

 ตัวมันสั่นเทิ้มอย่างหนักราวกับ

กำลังแรงมหาศาลบางอย่างดูดร่างมันอย่าง รุนแรง

 เล่นเจ้าพาลาดินต้องใช้เจาะลึกเข้าไปในเนื้อดิน

 

 

เพื่อยึดร่างมันไว้ แต่ยิ่งฝืน

 แรงดูดก็ยิ่งเพิ่มขึ้น จนพื้นที่มันยึดไว้เริ่มปริออก

 

 และร่างของมันก็เริ่มลอยขึ้นสู่อากาศ เมื่อเป็นเช่นนี้ต่อไป

 อีกไม่นานร่างของมันจะต้องถูกดูดเข้าไปในดวงไฟลุกนั้นเป็นแน่

 

"ย๊ากกกกก" เจ้าพาลาดินร้องดังลั่น

 พริบตานั้นร่างเพลิงของมันก็พลันสลาย

 

กลายเป็นเพียงร่างเนื้อธรรมดา ใช่แล้ว

 เพียงเท่านี้มันก็รอดพ้นจากการดูดได้อย่างง่ายดาย

 

"ถุยยยยย !! นี่เหรอว่ะ เวทย์ของเจ้า สวะฉิ...."

 ไม่ทันที่เจ้าพาลาดินจะพูดจบประโยค

 

 เงาร่างของแวมไพร์สาวก็พุ่งเข้าหามันทันที

 ก่อนที่จะซัดหมัดลุ่นๆเข้าดั้งจมูกมันอย่างจัง

 เล่นเอาเจ้าพาลาดินหน้าหงาย

 ปลิวกะเด็นตามแรงหมัดไปไกล

 

"สะใจเป็นบ้า" แวมไพร์สาวเอ่ยร้องก่อนจะแลบลิ้น

เลียหยดเลือดของเจ้าพาลาดินที่เปื้อนบนหมัด

 

"นังสารเลว" เจ้าพาลาดินร้องลั่นอย่างเดือดดาด

 มันปาดเลือดที่อาบเต็มจมูกแล้วพรุ่งเข้าใส่ทันที

 

 แม้มันในตอนนี้จะไม่อาจใช้เวทย์ไฟที่ถนัด

 แต่สำหรับพาลาดินแล้ว สิ่งที่ชำนาญที่สุดก็คือศิลปะการต่อสู้

 เพลงมวยของเจ้าเบิร์นก็เช่นกัน

 

 เป็นเพลงมวยที่กระบวนท่าพลิกแพลงหลากหลาย

 อีกทั้งพลังทำลายก็รุนแรงชนิดที่ว่าถ้าโดนจังๆก็อาจถึงแก่ชีวิตได้

 

 แต่กระนั้นแวมไพร์สาวก็สามารถตั้งรับได้อย่างรัดกุม

 ทำให้ไม่ว่าจะซัดมาจากทางไหนเธอก็ป้องกันได้หมด

 

และเมื่อป้องกันหมัดเหล่านั้นได้

 แวมไพร์สาวก็ตอบโต้ด้วยการดักต่อยเป็นระยะ 

จนในครั้งสุดท้าย เธอก็ปล่อยฮุคขวาเข้าเต็มหน้า

 

 จนสามารถส่งร่างเจ้าพาลาดินลงไปกองได้อีกครั้ง

 แต่นั่นก็ยังไม่อาจจะสยบมันลงได้

 เจ้าพาลาดินลุกขึ้นพร้อมกับโทสะที่พุ่งขึ้นสุดขีด

 

 มันพุ่งร่างปล่อยหมัดเข้าใส่แวมไพร์สาวด้วยความเร็วสูง

 แต่เธอก็แค่เบี่ยงตัวออกแค่เล็กน้อย

 ก่อนจะกระแทกเข่าเข้าชายโครงมันเต็มๆ

 

เข่าดอกนี้เล่นเอาเจ้าพาลาดินจุกเสียดไปทั่วร่าง

 จนมันเสียจังหวะท่าร่างช้าลง

 จุดนี้แวมไพร์สาวจึงไล่มันทันที

 

 ทั้งหมัดทั้งเท้าถูกประเคนเข้าใส่ร่างเจ้าพาลาดินไม่ยั้ง

 จนมันในตอนนี้กลายสภาพเป็นกระสอบทรายดีๆนี่เอง

 

 ก่อนที่จังหวะสุดท้ายแวมไพร์สาว

จะหมุนตัวเตะจระเข้ฟาดหางเต็มแรง

 

 โดนเข้ากกหูมันอย่างจัง เพียงเท่านี้เจ้าพาลาดินก็สิ้นฤทธิ์

 ล้มทั้งยืนลงไปกองบนพื้น

 

"กะ ... แก ... นัง..." แต่ไม่ทันที่เจ้าพาลาดินจะพูดจบ

 แวมไพร์สาวก็ยืนหันหลังค่อมหัว

 ก่อนจะแอ่นหีเข้าประกบปากมัน

 

"เก็บปากไว้เลียหีข้าดีกว่า"

 แวมไพร์สาวพูดจบก็โน้มกายลง

 

ก่อนจะเอาปากงับไปที่ท่อนเอ็นของเจ้าพาลาดิน

 ทำให้ตอนนี้ทั้งเขาและเธออยู่ในท่า 69

 หมายความว่าแวมไพร์สาวคิดจะปิดศึกนี้ด้วยการเย็ดนั่นเอง

 

ตรงนี้ทำให้เจ้าพาลาดินยิ้มออกมาทันที 

ถึงแม้มันจะแพ้ในเรื่องพลังเวทย์ รวมไปถึงการต่อสู้มือเปล่า

 แต่ถ้าเป็นเรื่องเย็ด มันมั่นใจว่ามันไม่แพ้ใครแน่

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป