เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
แต่ไม่ทันที่จะถึงตัวบ้าน พวกเขาเหล่านั้น
ก็แข้งขาอ่อนล้มคว่ำไปทันที ไม่พอแค่นั้น
ท่อนควยของพวกเขาก็ต่างฟองโต
ไม่นานนักน้ำเงี่ยนก็แตกกระเซ็น สุดท้าย
คนที่ตั้งใจจะมาต่อสู้กลับต้องมาน้ำแตกนอนหมดแรงสิ้นสติอยู่บนพื้น
จะมีก็แต่เพียงชายผมแดงที่น้ำแตกกับเขาเช่นกัน
เพียงแต่ว่าเขายังเป็นคนเดียวที่ยังพอรักษาสติอยู่ได้
เขาจึงเป็นคนเดียวที่พบสาเหตุน้ำแตกของคนทั้งหมด
นั่นก็คือเพราะคนเหล่านั้นได้สัมผัสกับ
ไอสีเขียวเข้มแปลกประหลาดที่ปกคลุมไป ทั่วพื้น
ไอคล้ายๆกันนี้เขาก็เคยเห็นมาบ้าง
มันคือไอมาน่าของพวกผู้ที่มีพลังเวทย์
แต่ต่างกันก็คือเขาไม่เคยเห็นไอมาน่าของใคร
จะสีเข้มและกระจายเป็นวงกว้างได้ ขนาดนี้มาก่อน
แต่ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยอะไรต่อ ประตูบ้านก็ถูกเปิดออก
เผยให้เห็นต้นตอของพลังมาน่าเหล่านี้
ต้นตอที่มาจากร่างเปลือยเปล่าสุดเซ็กซี่ของหญิงสาวผมสีดำขลับ
หญิงสาวที่พึ่งผ่านการอัพเลเวลขึ้นไปอีกขั้น
จนกลายเป็นแวมไพร์ชั้นขุนพลที่สง่างามแต่ก็แผงไว้ด้วยความน่ากลัว
จนแม้แต่เจ้าชายผมแดงยังต้องแตกตื่นหวาดหวั่น
มีเหงื่อกาฬผลุดขึ้นเต็มหน้า
แต่ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร หญิงสาวผู้นั้นก็ชิงถามขึ้นมาก่อนแล้ว
"เจ้าพาลาดินนั่น ไปทางไหน"
"ตูมๆๆๆๆๆๆ"
ห่างออกจากตัวเมืองไปไม่ไกลนัก ในป่าใหญ่แห่งหนึ่งมีเงา 2 สาย
ไล่ล่ากันไปตามทาง ทั้ง 2
ต่างก็ซัดลูกไฟเวทย์ที่มีอานุภาพไม่แพ้กันเข้าใส่อีกฝ่าย
จนเกิดเสียงระเบิดดังลั่นไปหมด
แมกไม้แถบนั้นต่างก็ลุกท่วมด้วยเปลวเพลิง ก่อนที่เพลิงจะขยายวง
จนกลายเป็นไฟป่าขนาดใหญ่
"ดีแต่ลอบกัด ออกมาซิว่ะ"
เงาสายหนึ่งเป็นของพาลาดินแห่งไฟ เบิร์น
"ร้องตะโกนเป็นตุ๊ดเลยเหรอเนี่ย" แต่เงาอีกสายนี่สิ
กลับเป็นของแวมไพร์สาวที่เคยโดนจับเป็นเชลย
"แต่จะว่าไปก็เหมาะดีน่ะ เพราะพ่อของเจ้าก็ร้องเป็นตุ๊ดแบบนี้นี่แหละ"
"เวโรนิก้า !!!!" เบิร์นตวาดลั่นอย่างเดือดดาดสุดขีด
ก่อนจะซัดลุกไฟที่มีอานุภาพรุนแรงระดับเลเวล 9 เข้าใส่ทันที
"โล่พิทักษ์ธาตุไฟ เลเวล 9"
แต่แวมไพร์สาวกลับไม่ตื่นตกใจใดๆเลย
เธอร่ายเวทย์ป้องขึ้นมากำบังทันที
เวทย์ธาตุเดียวกันเลเวลเดียวกันนั้น
สามารถหักล้างซึ่งกันและกันได้พอดิบพอดี
"เลเวล 9 งั้นแปลว่าไอ้พวกสวะเหล่านั้น"
"อย่าไปเรียกพวกนั้นว่า สวะ สิไอ้หนู"
เวโรนิก้ากล่าวเย้ยหยัน
"เพราะอีกเดี้ยวเจ้าก็ต้องตายด้วยมือข้าเหมือนพวกมันอยู่แล้ว"
"อย่ามากปากดีน่ะเวโรนิก้า" เบิร์นตวาดลั่น
"คิดว่าใช้เวทย์เลเวล 9
ได้ก็จะสู้ข้าได้งั้นเหรอ คิดผิดแล้วเว้ยยยยย"
"ดินแดนเพลิงพระกาฬ .... รวมศูนย์"
เจ้าพาลาดินร่ายเวทย์ประจำตัว
ทั่วร่างของมันลุกท่วมไปด้วยไฟ ก่อนที่จะระเบิดออก
กลายเป็นลูกไฟขนาดย่อมลอยอยู่ในมือ
"ลูกแก้วกลืนตะวัน" แต่แวมไพร์สาวก็ไม่หวั่นเกรง
เธอร่ายเวทย์ขึ้นมาหนึ่งบทเพื่อรับมือเช่นกัน
พลังธาตุไฟในอากาศปริมาณมหาศาลถูกดึงดูดเข้าร่างเธอ
ก่อนที่จะควบแน่นจนกลายเป็นลูกแก้วทรงกลม
ที่ส่องประกายแสงสีแดงเจิดจ้าลอยเด่นอยู่บนสองมือของเธอ
"ทำอะไรว่ะนังโง่ เวทย์ของข้า
มีพลังทำลายสูงสุดในหมู่เวทย์เลเวล 9
แล้วคิดเหรอว่าเวทย์กระจอกๆนั่นจะช่วยเจ้าได้"
"งั้นเหรอ ..... งั้นก็ลองซัดมันใส่ข้าดูสิ"
"ว่าไงน่ะ" เจ้าพาลาดินร้องลั่นอย่างเกรี้ยวกราด
"ท้าทายข้าเหรอ เจ้ากล้าท้าทายข้าเหรอ !! ได้
ถ้าเจ้าอยากลงนรกนักข้าก็จะสงเคราะห์ให้ ตายไปซะ อีกระหรี่ !!"
เจ้าพาลาดินขว้างลูกไฟนั้นเข้าจู่โจมทันที
ลูกไฟนี้ร้อนแรงยิ่งกว่าลูกไฟไหนๆ
เล่นเอาเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำรอบด้านถูกแหวกเป็นสาย
สมแล้วกับที่ได้ชื่อว่า เป็นราชาในหมู่เวทย์เปลวเพลิงระดับเดียวกัน
แม้ว่าแวมไพร์สาว จะพึ่งเลเวลอัพ
จนเธอสามารถใช้เวทย์เพลิงเลเวล 9 ได้เช่นกัน
แต่ก็ยังดูไม่ออกเลยว่า เธอจะมีเวทย์ใดมารับมือเวทย์เพลิงบทนี้
ชั่วเสี้ยววินาทีที่ลูกไฟดวงนี้จะเข้าถึงเธอ
แวมไพร์สาวก็ซัดลูกแก้วออกไปเช่นกัน
แต่ที่น่าแปลกก็คือแทนที่เธอจะซัดลูกแก้วไปข้างหน้า
เธอกลับเลือกที่จะซัดขึ้นไปบนฟ้ามากกว่า !!
แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ลูกไฟอัคคีของเจ้าพาลาดินที่
กำลังจะพุ่งมาเผาร่างของเธอกลับเลี้ยวหักศอก
ขึ้นด้านบนเช่นกัน ราวกับว่าเจ้าลูกไฟ
เปลี่ยนเป้าหมายมาไล่ตามลูกแก้วสีแดงนั่นแทน
ก่อนที่เวทย์ทั้งสองจะปะทะกันบนฟ้า
แล้วระเบิดออกกลายเป็นลูกไฟขนาดยักษ์ !! ไม่แค่นั้น
เปลวไฟที่โหมไหม้ป่าแห่งนี้ก็พวยพุ่งขึ้นฟ้า
ราวกับจะถูกดูดจากลูกไฟยักษ์ ไม่นานนักไฟที่ไหม้ก็มอดดับ
เหลือเพียงลูกไฟยักษ์ที่ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า
"นี่มันบ้าอะไรกันว่ะ !!!" เจ้าเบิร์นร้องลั่นอย่างไม่เชื่อสายตา
"มหัศจรรย์ใช่ไหมล่ะ เวทย์ของพวกวิซาร์ต"
เวโรนิก้าเอ่ยขึ้นในขณะที่แหงนมองดูลูกไฟดวงนั้นอย่างพึงพอใจ
"ลึกล้ำ เหนือจินตนาการ แต่ในขณะเดียวก็ซับซ้อน
และเข้าใจยากยิ่งกว่าเวทย์บทไหนๆ"
"นั่นเป็นเวทย์ไฟเลเวล 9 ที่วิซาร์ตคนนึงเคยสอนข้า"
แวมไพร์สาวพูดจบก่อนจะละสายตา
มายังเจ้าพาลาดินตรงหน้า
"ตามปกติเวทย์ทั่วไปจะดูดกลืนพลังธาตุมาเป็นพลังงาน
แต่ลูกแก้วนั้นไม่ใช่
ลูกแก้วนั้นจะดูดกลืนทุกอย่างที่เกี่ยวกับธาตุไฟ
ทั้งธาตุไฟในอากาศ เปลวไฟของจริงในธรรมชาติ
ลูกไฟเวทย์ของศัตรู .... รวมทั้ง ร่างเพลิงของเจ้าด้วย"
สิ้นคำของแวมไพร์สาว
เจ้าพาลาดินก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติในร่างกาย
ตัวมันสั่นเทิ้มอย่างหนักราวกับ
กำลังแรงมหาศาลบางอย่างดูดร่างมันอย่าง รุนแรง
เล่นเจ้าพาลาดินต้องใช้เจาะลึกเข้าไปในเนื้อดิน
เพื่อยึดร่างมันไว้ แต่ยิ่งฝืน
แรงดูดก็ยิ่งเพิ่มขึ้น จนพื้นที่มันยึดไว้เริ่มปริออก
และร่างของมันก็เริ่มลอยขึ้นสู่อากาศ เมื่อเป็นเช่นนี้ต่อไป
อีกไม่นานร่างของมันจะต้องถูกดูดเข้าไปในดวงไฟลุกนั้นเป็นแน่
"ย๊ากกกกก" เจ้าพาลาดินร้องดังลั่น
พริบตานั้นร่างเพลิงของมันก็พลันสลาย
กลายเป็นเพียงร่างเนื้อธรรมดา ใช่แล้ว
เพียงเท่านี้มันก็รอดพ้นจากการดูดได้อย่างง่ายดาย
"ถุยยยยย !! นี่เหรอว่ะ เวทย์ของเจ้า สวะฉิ...."
ไม่ทันที่เจ้าพาลาดินจะพูดจบประโยค
เงาร่างของแวมไพร์สาวก็พุ่งเข้าหามันทันที
ก่อนที่จะซัดหมัดลุ่นๆเข้าดั้งจมูกมันอย่างจัง
เล่นเอาเจ้าพาลาดินหน้าหงาย
ปลิวกะเด็นตามแรงหมัดไปไกล
"สะใจเป็นบ้า" แวมไพร์สาวเอ่ยร้องก่อนจะแลบลิ้น
เลียหยดเลือดของเจ้าพาลาดินที่เปื้อนบนหมัด
"นังสารเลว" เจ้าพาลาดินร้องลั่นอย่างเดือดดาด
มันปาดเลือดที่อาบเต็มจมูกแล้วพรุ่งเข้าใส่ทันที
แม้มันในตอนนี้จะไม่อาจใช้เวทย์ไฟที่ถนัด
แต่สำหรับพาลาดินแล้ว สิ่งที่ชำนาญที่สุดก็คือศิลปะการต่อสู้
เพลงมวยของเจ้าเบิร์นก็เช่นกัน
เป็นเพลงมวยที่กระบวนท่าพลิกแพลงหลากหลาย
อีกทั้งพลังทำลายก็รุนแรงชนิดที่ว่าถ้าโดนจังๆก็อาจถึงแก่ชีวิตได้
แต่กระนั้นแวมไพร์สาวก็สามารถตั้งรับได้อย่างรัดกุม
ทำให้ไม่ว่าจะซัดมาจากทางไหนเธอก็ป้องกันได้หมด
และเมื่อป้องกันหมัดเหล่านั้นได้
แวมไพร์สาวก็ตอบโต้ด้วยการดักต่อยเป็นระยะ
จนในครั้งสุดท้าย เธอก็ปล่อยฮุคขวาเข้าเต็มหน้า
จนสามารถส่งร่างเจ้าพาลาดินลงไปกองได้อีกครั้ง
แต่นั่นก็ยังไม่อาจจะสยบมันลงได้
เจ้าพาลาดินลุกขึ้นพร้อมกับโทสะที่พุ่งขึ้นสุดขีด
มันพุ่งร่างปล่อยหมัดเข้าใส่แวมไพร์สาวด้วยความเร็วสูง
แต่เธอก็แค่เบี่ยงตัวออกแค่เล็กน้อย
ก่อนจะกระแทกเข่าเข้าชายโครงมันเต็มๆ
เข่าดอกนี้เล่นเอาเจ้าพาลาดินจุกเสียดไปทั่วร่าง
จนมันเสียจังหวะท่าร่างช้าลง
จุดนี้แวมไพร์สาวจึงไล่มันทันที
ทั้งหมัดทั้งเท้าถูกประเคนเข้าใส่ร่างเจ้าพาลาดินไม่ยั้ง
จนมันในตอนนี้กลายสภาพเป็นกระสอบทรายดีๆนี่เอง
ก่อนที่จังหวะสุดท้ายแวมไพร์สาว
จะหมุนตัวเตะจระเข้ฟาดหางเต็มแรง
โดนเข้ากกหูมันอย่างจัง เพียงเท่านี้เจ้าพาลาดินก็สิ้นฤทธิ์
ล้มทั้งยืนลงไปกองบนพื้น
"กะ ... แก ... นัง..." แต่ไม่ทันที่เจ้าพาลาดินจะพูดจบ
แวมไพร์สาวก็ยืนหันหลังค่อมหัว
ก่อนจะแอ่นหีเข้าประกบปากมัน
"เก็บปากไว้เลียหีข้าดีกว่า"
แวมไพร์สาวพูดจบก็โน้มกายลง
ก่อนจะเอาปากงับไปที่ท่อนเอ็นของเจ้าพาลาดิน
ทำให้ตอนนี้ทั้งเขาและเธออยู่ในท่า 69
หมายความว่าแวมไพร์สาวคิดจะปิดศึกนี้ด้วยการเย็ดนั่นเอง
ตรงนี้ทำให้เจ้าพาลาดินยิ้มออกมาทันที
ถึงแม้มันจะแพ้ในเรื่องพลังเวทย์ รวมไปถึงการต่อสู้มือเปล่า
แต่ถ้าเป็นเรื่องเย็ด มันมั่นใจว่ามันไม่แพ้ใครแน่