**แปล Auto โดย AI จาก Raw ต้นฉบับ คำเรียก สรรพนาม ชื่อ อาจมีผิดเพี้ยน แต่ยังสามารถเข้าใจเนื้อหาโดยรวมได้** 796 ตอนจบ
**แปล Auto โดย AI จาก Raw ต้นฉบับ คำเรียก สรรพนาม ชื่อ อาจมีผิดเพี้ยน แต่ยังสามารถเข้าใจเนื้อหาโดยรวมได้** 796 ตอนจบ
ไม่เพียงแต่หลู่เจียงกับหลู่ซินที่ตื่นเต้นดีใจเท่านั้น แม้แต่เหลียงผิงกับป้าอี้ที่อยู่บ้านข้าง ๆ ก็ยังอดเหลียวตามองสวนครัวของบ้านหลู่เซิงไม่ได้อยู่เรื่อย
อย่างแรก — เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นพืชชนิดนี้มาก่อน รู้สึกแปลกตานัก
อย่างที่สอง — เพราะตั้งแต่เมล็ดพืชพวกนี้เพิ่งงอกเป็นต้นกล้า พวกเขาก็ช่วยดูแล รดน้ำ ถอนหญ้าแทบทุกวัน จึงอดภูมิใจไม่ได้เมื่อเห็นผลผลิตเบ่งบาน
“ไป ข้าพาพวกเจ้าขุดมันฝรั่งกัน” หลู่เซิงยิ้มพลางจับมือน้องทั้งสอง แล้วเดินไปที่แปลงผัก
นางหยิบตะกร้าหวายที่ลู่ต้าฮวาเคยสานไว้กับจอบเล่มเล็ก แล้วเริ่มขุดเบา ๆ อย่างคล่องแคล่ว “อาเจียง ไปหยิบตะกร้าอีกใบสิ แล้วช่วยเก็บมะเขือเทศที่สุกแดงหน่อย”
นางตั้งใจจะนำผลผลิตบางส่วนไปมอบให้ป้าอี้และหลี่เจิ้งเป็นของฝาก
ตลอดทั้งเช้า หลู่เซิงขุดมันฝรั่งไปพลาง พูดคุยกับเด็ก ๆ ไปพลาง เมื่อขุดเสร็จ เธอได้มันฝรั่งถึง สามตะกร้าใหญ่ ส่วนมะเขือเทศนั้นออกลูกดกจนบางต้นเริ่มโน้มลง เพราะมีทั้งผลแดงสดและเขียวปนกันเต็มไปหมด
หลู่เซิงเก็บมันฝรั่งตะกร้าหนึ่งใส่เข้าไปใน “กำไลมิติ” เก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์สำหรับฤดูกาลหน้า ส่วนอีกสองตะกร้านั้นตั้งใจจะมอบให้บ้านเหลียงกับบ้านหลี่
“หลู่เซิง ของพวกนี้คืออะไรหรือ?” ฟางซื่อเอ่ยถามพลางจ้องมะเขือเทศกลม ๆ สีแดงกับมันฝรั่งในมืออย่างสนอกสนใจ
“ของในตะกร้านี่เรียกว่ามันฝรั่งเจ้าค่ะ” หลู่เซิงยิ้มอธิบาย
“เอาไปต้มกินก็ได้ หรือจะเอาไปต้มกับซี่โครงหมู หรือจะฝานเป็นเส้นผัดก็อร่อย ส่วนผลสีแดงนี่เรียกว่า มะเขือเทศ กินเป็นผักก็ได้ เป็นผลไม้ก็ได้เจ้าค่ะ”
“ของพวกนี้เจ้าได้มาจากไหนกัน ข้าอยู่มาทั้งชีวิตยังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง” ฟางซื่อพูดพลางขมวดคิ้วด้วยความฉงน
“ตอนอยู่ในเมือง ข้าไปเจอชายรูปร่างประหลาดคนหนึ่ง เขาบอกว่าขายเมล็ดพืชกินได้ ข้าเลยซื้อมาเพราะอยากลองดูเจ้าค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะงอกจริง ๆ”
หลู่เซิงยิ้มบาง ๆ นางจำได้ดีว่าตอนค้นบันทึกในห้องของหลู่หรัน เคยเห็นข้อมูลเรื่องเรือค้าขายจากต่างแดน
ในยุคนี้ ชาวต้าซวนมีฝีมือการต่อเรือที่โด่งดัง การค้าทางทะเลเจริญรุ่งเรือง จึงมีคนจากแดนตะวันตกนำของแปลกเข้ามาไม่น้อย
ฟางซื่อพยักหน้าช้า ๆ “อ้อ... น่าจะเป็นพวกคนจากดินแดนตะวันตกนั่นเอง ของแปลกประหลาดพวกนี้มักมีจากถิ่นนั้นทั้งสิ้น”
เพราะสามีของนางเคยเป็นพ่อค้าเดินทางต่างเมือง ฟางซื่อกับหลี่เจิ้งจึงเคยเห็นของหายากไม่น้อย
หลังพูดคุยอีกครู่ หลู่เซิงจึงล่ำลาแล้วหิ้วตะกร้ากลับบ้าน ป้าอี้เคยลิ้มมะเขือเทศมาก่อน แต่ไม่เคยกินมันฝรั่งเลยสักครั้ง พอหลู่เซิงนำมาให้ นางก็ตื่นเต้นรีบเอาไปต้มชิมทันที
รสชาติของมันฝรั่งนุ่มร่วน มีแป้งมาก ป้าอี้เอ่ยชมไม่หยุดว่าหอมอร่อย แต่ก็บ่นว่านิดหน่อยติดคอเล็กน้อย
หลู่เซิงจึงหัวเราะเบา ๆ แล้วสอนวิธีทำ “มันฝรั่งผัดเส้นเปรี้ยวเผ็ด” ให้แทน
ช่วงหลังมานี้ เฉินซื่อภรรยาเหลียงผิงก็มักมาขอเด็ดพริกจากสวนของหลู่เซิงอยู่บ่อย จนตอนนี้คนทั้งบ้านเหลียงเริ่มกินเผ็ดได้เป็นปกติแล้ว
ค่ำวันนั้น หลู่เซิงจับกุ้งแม่น้ำกับปูในบ่อมาทำอาหาร มีทั้ง “กุ้งเผ็ดผัดซอส” กับ “ปูนึ่ง” — ปูเนื้อแน่นเต็มกระดอง สีเหลืองนวลเมื่อแกะออก หลู่เจียงกับหลู่ซินกินอย่างเอร็ดอร่อย นิ้วเล็ก ๆ เปื้อนซอสไปหมด
“พี่หญิงรอง พรุ่งนี้ขออีกนะ!”
“ข้าด้วย ข้าอยากกินอีก!”
เสียงหัวเราะของเด็กทั้งสองทำให้บรรยากาศในบ้านอบอวลด้วยความสุข
หลู่เซิงหัวเราะ “ถ้าอยากกินอีก พรุ่งนี้ตื่นเช้าเถิด ข้าจะพาเข้าเมืองด้วยกัน”
เด็กทั้งสองตาโตเป็นประกาย พวกเขาจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เข้าเมืองคือเมื่อสองเดือนก่อน ตอนที่ไปเยี่ยมเรือนจำ
ช่วงนี้ชาวบ้านไม่มีใครเอ่ยถึง “หลิวซื่อ” กับ “ลู่ต้าฮวา” อีกต่อไป และถึงจะยังมีเสียงซุบซิบอยู่บ้าง หลู่เซิงก็ไม่สนใจ
ตราบใดที่ไม่มีใครพูดต่อหน้าเด็ก ๆก็พอแล้ว
“พี่หญิงรอง ข้าได้ยินเจ้ากู้ตันพูดว่าบ้านเรามีผีจริงหรือ?” หลู่เจียงถามเสียงแผ่วขณะนอนบนเตียง
หลู่เซิงหัวเราะเบา ๆ “ไม่มีหรอก” นางยกมือแตะศีรษะเขาเบา ๆ “แต่ถึงจะมีก็ไม่ต้องกลัว เพราะพี่หญิงรองจับผีได้”
หลู่ซินหัวเราะคิก “พี่หญิงรองเก่งที่สุดเลย!”
“เอาล่ะ หลับเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” หลู่เซิงจัดผ้าห่มให้ทั้งคู่เรียบร้อย ก่อนเป่าไส้ตะเกียงดับแสง