**แปล Auto โดย AI จาก Raw ต้นฉบับ คำเรียก สรรพนาม ชื่อ อาจมีผิดเพี้ยน แต่ยังสามารถเข้าใจเนื้อหาโดยรวมได้** 796 ตอนจบ
                        **แปล Auto โดย AI จาก Raw ต้นฉบับ คำเรียก สรรพนาม ชื่อ อาจมีผิดเพี้ยน แต่ยังสามารถเข้าใจเนื้อหาโดยรวมได้** 796 ตอนจบ
บทที่ 82 : มาทันเวลาพอดี
คืนนั้นฟ้ามืดสนิท ไม่มีแม้แต่เงาเดือนให้เห็น หมู่ดาวเพียงหยิบมือหลบเร้นอยู่หลังเมฆหนาทึบ หมู่บ้านหลิ่วเยว่เงียบงัน มีเพียงเสียงหมาเห่าห่าง ๆ ดังลอยมาตามลม
“โอ๊ย! มือข้า” เสียงร้องเบา ๆ ดังขึ้น เมื่อชายคนหนึ่งถูกร่างที่ร่วงลงมาทับแขนจนขยับไม่ได้
“ผะ...ผี! บนกำแพงมีผี!!” ชายร่างใหญ่ที่เพิ่งตกลงมาได้สติรีบยันตัวลุกขึ้น แม้ข้อเท้าจะบิดแต่ก็ไม่สน รีบวิ่งหนีสุดชีวิต
“ผีอะไรของเจ้า อย่าพูดเพ้อไปหน่อยเลย!” หลู่ชวนตวาดพลางเบ้ปากไม่เชื่อ คิดว่าคงถูกขู่เล่น
แต่ไม่นานนัก — เสียงกรีดร้องของเขาก็ดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน!
คนที่อยู่ด้านล่างซึ่งได้ยินเรื่อง “ผี” มาก่อนก็เตรียมหลบไว้แล้ว พอเห็นเงาดำพรวดตกลงมาโดยไร้เสียงเบรก ทุกคนต่างถอยกรูดไปคนละทิศ
ครานี้หลู่ชวนไม่มีคนรองรับอย่างเมื่อครู่ ร่างใหญ่ตกลงมาฟาดพื้นเสียงดังสนั่น เขาพยายามจะอ้าปากร้อง แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา ดวงตาเบิกกว้างจ้องกำแพงตรงหน้าไม่กะพริบ
ไม่นานนัก แสงโคมไฟก็สว่างขึ้นรอบบริเวณ เหลียงผิงกับภรรยาเดินถือโคมออกมาดู เห็นเงาคนแน่นอยู่หน้าบ้านหลู่เซิง
เมื่อเหล่าชายที่มาด้วยกันเห็นท่าทีไม่ดี ต่างพากันวิ่งหนีอย่างไม่เหลียวหลัง ทิ้งไว้เพียงหลู่ชวนที่ยังนอนงกอยู่กับพื้น
“หลู่ชวน? เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” เหลียงผิงถามขึ้นพลางเหลือบตามองบันไดไม้พาดกำแพง สีหน้าของเขาแข็งกร้าวขึ้นทันที
หญิงสูงวัยคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ เอ่ยเสียงดัง “เมื่อครู่ข้าเห็นพวกคนแปลกหน้าหลายคนวิ่งหนีไป ไม่แน่ว่าหลู่ชวนอาจตั้งใจมาขโมยของของอาเซิงก็ได้”
“ผะ...ผี! ผี!” ทันทีที่หลู่ชวนเริ่มขยับได้ เขาก็ลุกพรวดขึ้นตะโกนลั่น พยายามจะหนีอีกครั้งแต่ถูกเหลียงผิงคว้าไว้ทัน
เสียงประตูบ้านหลู่เซิงเปิดดัง เอี๊ยด
นางถือโคมไฟเดินออกมาอย่างสงบ เมื่อเห็นคนมุงกันเต็มลาน นางทำท่าตกใจ “เกิดอะไรขึ้นรึ ข้าได้ยินเสียงร้องเลยออกมาดู”
“อาเซิง เจ้ามาพอดีเลย” เหลียงผิงผลักร่างหลู่ชวนที่สั่นระริกลงกับพื้น เอ่ยเสียงแข็ง “เจ้าหมอนี่พาคนแปลกหน้ามาหลายคน แถมยังเอาบันไดมาพาดกำแพง ข้าไม่รู้ว่าอยากขโมยอะไรในบ้านเจ้า”
หลู่เซิงปรายตามองญาติผู้พี่ที่นั่งตัวงออยู่บนพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น เขาพึมพำเพียงคำว่า “ผี...ผี” ซ้ำ ๆ จนน่าสมเพช
โดนข้าสั่งสอนตอนกลางวันยังไม่เข็ดสินะ... กล้าย่องเข้ามาอีกกลางดึก! หลู่เซิงคิดพลางขมวดคิ้ว
“นี่อะไรน่ะ” ภรรยาเหลียงผิงก้มลงเก็บขวดเล็ก ๆ ที่ตกอยู่ข้างกำแพงขึ้นมา
หลู่เซิงรับมาดู ก่อนยกขึ้นดมเบา ๆ แล้วหัวเราะหยัน “น้ำยาสลบ”
“น้ำยาสลบงั้นหรือ?!” เสียงอุทานดังขึ้นรอบวง
น้ำยาสลบ หมายถึงยาใช้วางยาคนให้หมดสติ ของพรรค์นี้ไม่ใช่ของคนดีจะมีได้ง่าย ๆ
“หลู่ชวน เจ้าจะว่ายังไงอีก” เสียงของหลี่เจิ้ง ผู้ใหญ่บ้านดังขึ้น เขารีบวิ่งตามมาหลังได้ยินเสียงตะโกนลั่น พอเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำด้วยโทสะ
“ข้า...ข้า...” หลู่ชวนอ้าปากตะกุกตะกัก มองกำแพงที่ว่างเปล่า ก่อนหันกลับมามองหลู่เซิง
แต่ในยามนั้นเขาเห็นหลู่เซิงถือโคมไฟยืนสงบนิ่ง และด้านหลังนางมีเงาดำหลายตนลอยอยู่ในแสงโคม!
“อ๊ากกกก!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง ดวงตาเขากลิ้งขึ้นขาวก่อนจะหมดสติล้มลงไปตรงนั้น
หลู่เซิงเพียงมองเขาเย็นชา แล้วหันไปบอกกับชาวบ้านที่มุงดู “คืนนี้ขออภัยจริง ๆ ที่ญาติของข้ามาก่อความวุ่นวาย ทำให้ทุกท่านต้องตื่นจากฝันดี”
ชายชราผู้หนึ่งเท้าสะเอวแล้วส่ายหน้าแรง “ไอ้หลู่ชวนมันเลวเกินทน! เป็นญาติกันแท้ ๆ ยังกล้ามาลักของกลางดึก ข้าว่าควรจับส่งขุนนางไปเลยจะดีกว่า!”
เมื่อเจิ้งซื่อกับหลู่ต้าหมิงซึ่งตั้งใจจะออกมาดูเหตุการณ์ได้ยินชื่อบุตรชายของตน ทั้งคู่ก็หน้าถอดสีทันที
“พอดีเลย ทั้งสองคนมาก็ดีแล้ว” หลี่เจิ้งหันไปจ้องทั้งคู่ด้วยแววตาเย็นเฉียบ
“หลู่ชวนเป็นลูกพวกเจ้าแท้ ๆ แต่กลับร่วมมือกับคนนอกมาย่องเบาในเรือนของญาติตัวเอง แถมยังพกน้ำยาสลบมาอีก มีอะไรจะอธิบายหรือไม่?”
ทั้งสองสะดุ้งเฮือก รีบคุกเข่ากับพื้น หลังเหตุการณ์เมื่อคราวก่อน พวกเขาก็รู้ดีแล้วว่าหลู่เซิงไม่ใช่หญิงอ่อนแอที่จะรังแกได้อีกต่อไป
แม้เคยเตือนลูกชายแล้วหลายหน แต่ไม่คิดว่ามันยังจะโง่เง่า ขืนดวงมืดมาสร้างเรื่องกับนางอีก!