Your Wishlist

ดินแดนมหัศจรรย์ (ดินแดนมหัศจรรย์)

Author: xxx555

เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland

จำนวนตอน :

ดินแดนมหัศจรรย์

  • 31/07/2568

"ตอนนี้ชาร์ทถึง 36% แล้วครับ

 อีกไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็จะครบ 100%

 ถึงตอนนั้นเราก็เดินเครื่องทำงานได้แล้ว"

 

"1 ชั่วโมง ก็ยังดี อ๊ะ อุ๊ยยยยย"

 แต่แล้วขณะที่กำลังสนทนาเวโรนิก้าก็ต้องเผลอครางออกมาเบาๆ

 

"ท่านเวโรนิก้าเป็นอะไรเหรอครับ"

 เจ้าแวมไพร์แฟรงค์กินส์เห็นเข้าก็อดเอ่ยถามไม่ได้

 

แต่เวโรนิก้าก็หันมาทำหน้าดุใส่แทนคำตอบ

 เพราะอาการที่เกิดขึ้นมันก็เกิดจาก

เวทย์โลกนิมิตแดนฝันของเธอนั่นแหละ

 

 จิตในโลกแห่งความฝันกับความจริงมันจะเชื่อมถึงกัน

 โดนเย็ดในความฝันก็จะพลอยรู้สึกโดนเย็ดในโลกความจริงไปด้วย

 ดังนั้นเธอในตอนนี้ก็รู้สึกราวกับว่า

 

มีท่อนควยขนาด 8 นิ้วกำลังซอยเข้าออกในร่องสวาทของเธออย่างรุนแรง 

แต่ยังดีหน่อยที่จิตมันเชื่อมถึงกันแค่เป็นช่วงๆ

 ไม่งั้นเธอคงกลับมาถึงบริษัทไม่ไหวแน่

 

 

 

แวมไพร์สาวสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อพยามสงบอารมณ์

 ก่อนที่เธอจะหันไปสั่งงานกับแวมไพร์คู่ใจ

 

"แฟรงค์กินส์ ............ 

เรียกระดมพลแวมไพร์ทั้งหมดกลับมาที่บริษัท

 แล้วให้เปิดระบบพร้อมรบเต็มรูปแบบ

 อีกไม่นานเราจะมีแขกชุดใหญ่มาเยี่ยม"

 

ณ ถนนร้างห่างออกไป 

ที่ที่พึ่งผ่านการต่อสู้มาอย่างดุเดือดเมื่อ

 ตอนนี้ฝุ่นควันที่เกิดจากแรงระเบิดได้เบาบางลงไปแล้ว

 

 เผยให้เห็นร่างของหญิงสาว

ที่มีลำแสงสีขาวกางปกคลุมทั่วร่าง

 นับเธอโชคดีไม่น้อยเพราะชั่วขณะ

 

ที่เจ้าแวมไพร์มาโฮนมัวแต่ตกตะลึงเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกจุดระเบิด

 จนไม่ได้โจมตีเธอต่อ 

ทำให้เปิดโอกาสในเธอกางลำแสงเป็นบาเรีย

 

 เธอจึงรอดจากแรงระเบิดได้อย่างหวุดหวิด

 ส่วนเจ้าพาลาดินที่อยู่ห่างออกไป

 เกาะที่หุ้มกายมันอยู่ก็ปกป้องแรงระเบิดได้หมดเช่นกัน

 

 

 เรียกได้ว่าระเบิดเมื่อครู่ไม่สามารถ

ทำอันตรายพวกเขาทั้งสองได้เลย แต่ว่า ...

 ก็ทำให้พวกเขาคลาดจากนางแวมไพร์ไปจนได้

 

"อาร์ตตตต !!" วิเวียนร้องลั่นอย่างร้อนใจ

 ว่าแล้วเธอก็ใช้เวทย์เชื่อมจิตติดต่อชายหนุ่มทันที

 แต่ก็ไม่ได้ผล

 

 ชายหนุ่มโดนสะกดให้หลับอยู่จึงไม่สามารถติดต่อได้

 ครั้นจะแกะรอยตามไป นางแวมไพร์นั่นก็ไม่เหลือร่องรอยอะไรทิ้งไว้อีก

 ดูท่าเธอคงจะหาเขาไม่เจอแล้ว

 

"ใจเย็นน่าน้องสาว"

 สโตนเฮดปลดเกราะที่สวมอยู่ออกจนหมด

 ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบอย่างใจเย็น

 

 ทำเอาพรีสสาวต้องแปลกใจกับท่าทีของเขา

 เพราะการที่นายอาร์ตโดนแวมไพร์จับตัวได้แบบนี้

 จริงๆแล้วเจ้าพาลาดินก็ควรจะเดือดร้อนไม่แพ้เธอ

 

 

 

 

"ที่ที่มันจะพาตัวเจ้าหนุ่มนั่นไปมีอยู่ที่เดียว

 ก็คือรังใหญ่ของมันที่นี่ที่มันเรียกว่าบริษัท

 สถานที่ตั้งของมันพวกข้าสืบมาเรียบร้อยแล้ว

 อีกเดี๋ยวเราก็ค่อยไปลุยมันด้วยกัน"

 

 เจ้าพาลาดินพูดจบก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าราวกับกำลังหาอะไรบางอย่าง

 

"จะรอทำไม เรารีบไปตอนนี้เลยสิ" วิเวียนเอ่ยอย่างร้อนใจ

 

"ใจเย็น ลุยกันแค่สองคนมันเหงา"

 สโตนเฮดเอ่ยเสร็จก่อนจะปรายตามองมาที่พรีสสาวเล็กน้อย 

 

"ข้าพึ่งชี้พิกัดตรงนี้ไป

 เดี๋ยวอีกสักพักกำลังเสริมก็จะมาแล้ว"

 

"กำลังเสริม?"

 

"นั่นไง .... มาแล้ว !!" สโตนเฮดร้องลั่นก่อนจะชี้มือขึ้นท้องฟ้า

 พริบตานั้นก็มีดวงไฟสีฟ้าสว่างแว๊บขึ้นมา 3 ดวง

 ก่อนจะพุ่งตกลงมายังจุดที่พวกเขายืนอยู่

 

 และทันทีที่กระทบพื้นก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น

ติดต่อกัน 3 ครั้ง ตูม ! ตูม ! ตูม !

 

 

และเมื่อสิ้นเสียงระเบิด

 ก็มีเงาของชาย 3 คนยืนอยู่กลางกลุ่มควัน

 ชาย 3 คนที่มีพลังมาน่ามหาศาลไม่แพ้สโตนเฮด

 ชายที่เป็นเจ้าของโคดเนมพาลาดินอีก 3 ธาตุ

 

ไซโคลนแห่งลม

 

ไอซ์เอจแห่งน้ำ

 

โวลต์แห่งสายฟ้า

 

 

"เร็วๆเข้าโว้ยยยยยย !!"

 เสียงตะโกนของเหล่าแวมไพร์ดังลั่นอื้ออึงไปหมด

 เหล่าแวมไพร์ชั้นนักรบจากทุกสาทิศ

 

ต่างมารวมตัวกันหลังจากได้รับคำสั่งระดมพล

 จนตอนนี้ลานกว้างบริเวณชั้นล่างแน่นขนัดไปหมด

 แวมไพร์เหล่านี้โดนแบ่งออกตามธาตุประจำตัว

 

 แล้วแบ่งไปยืนในตำแหน่งตามที่ระบุค่ายกลพิชัยยุทธ์แห่งเวทย์

 เพื่อใช้ประโยชน์ในหลักแพ้ทาง

 เสริมแรงให้เวทย์มนต์แต่ละสายมีอานุภาพการโจมตีรุนแรงยิ่งขึ้น

 

 

ที่ชั้นบนสุดของอาคาร

 แวมไพร์แฟรงค์กินส์ยืนมองสถานการณ์อย่างพึงพอใจ 

ตอนนี้กำลังพลที่ประจำอยู่ทั่วทุกสารทิศโดนเรียกระดมพลมาหมดแล้ว

 

 แถมการจัดวางกำลังก็กำลังเป็นรูปเป็นร่าง

 เพียงพอที่จะต้านผู้บุกรุกไม่ว่าหน้าไหน

 ในขณะที่เครื่องข้ามมิติก็ชาร์ตกำลังไปที่ 69 %

 

 จนเครื่องข้ามมิติที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกระจกบานใหญ่

 เปล่งแสงสีฟ้าเรืองรอง

 เป็นสัญญาณว่าใกล้เวลาที่เครื่องจะพร้อมทำงานเข้าไปทุกขณะ

 

"ท่านเวโรนิก้า ตอนนี้ทุกอย่างใกล้พร้อมเต็มที่แล้วครับ"

 

 เจ้าแวมไพร์แฟรงค์กินส์

 รายงานความคืบหน้าต่อแวมไพร์สาวทันที

 เนื่องจากตอนนี้เธอเป็นผุ้นำสูงสุดของบริษัทแห่งนี้ไปแล้ว

 

"อืม" เวโรนิก้ารับคำเล็กน้อยก่อนที่จะหันสายตา

ไปจับจ้องชายหนุ่มที่หลับสนิทบนเตียง

 ที่ตั้งตระง่านบนด้านหน้าเครื่องข้ามมิติ

 

 ชายหนุ่มที่ตอนแรกโดนมนต์สะกดให้ต้องร่วมรัก

กับแวมไพร์สาวในความฝัน แต่หลังจากผ่านภาวะนั้นไปแล้ว

 ชายหนุ่มก็จะรับสนิทราวกับเจ้าชายนิทรา

 

 เป็นโอกาสในแวมไพร์สาวได้พินิจชายหนุ่มในระยะใกล้

 

'หน้าตาใช้ได้ แถมลีลาดีแบบนี้นี่เอง

 นังพรีสนั่นถึงทั้งรักทั้งหลง ยอมเสี่ยงตายขนาดนี้'

 

 เวโรนิก้ารำพึงเบาๆก่อนจะเอามือลูบไล้ไปตามผิวหน้าของชายหนุ่ม

 

แต่ชั่วขณะนั้นเอง !! 

เธอก็สัมผัสได้ถึงกลุ่มพลังมาน่าแปลกปลอม 5 กลุ่ม

 ที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามา

 

 ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเธอไปไม่น้อย

 เพราะเธอไม่คิดว่าพวกของวิเวียน 

จะมีกำลังเข้ามาเสริมได้เร็วขนาดนี้

 

"พวกมันมาแล้ว !!!" แวมไพร์สาวประกาศก้อง

 เป็นสัญญาณส่งไปถึงเหล่าแวมไพร์เบื้องล่างให้เตรียมตัวรับมือที่ 

 

แต่ไม่ทันที่เหล่าแวมไพร์จะพร้อมรบ 

เสียงระเบิดก็ดังสนั่นขึ้นเบื้องหน้า

 

ตูมมมม !!

 

 

สิ้นเสียงระเบิด หอกลำแสงด้ามหนึ่งก็พุ่งทะลวงด้านหน้า

 หอกลำแสงนี้เป็นเวทย์มนต์ระดับเลเวล 6

 ไม่มีทางเลยที่เหล่าแวมไพร์จะต้านทานไว้ได้ มิหนำซ้ำ

 

 ธาตุแสงก็เป็นธาตุที่เป็นปฏิปักษ์โดยตรงของเหล่าแวมไพร์

 ทำให้เจ้าแวมไพร์ที่โดนหอกลำแสงนี้ 

รวมไปถึงแวมไพร์บริเวณใกล้เคียง

 

สูญสลายกลายเป็นละอองขี้เถ้าฟุ้งกระจาย 

และทันทีละอองขี้เถ้าจางลง

 หญิงสาวผมสีเงินแวววาวก็ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าแล้ว

 

"ลำแสงสะเก็ดดาว ..... จ่อก่อร่างเป็นหอก"

 หญิงสาวรวมพลังแล้วร่ายเวทย์ทันที

 แสงในมือของเธอสว่างวาบ

 

ก่อนจะรวมร่างเป็นหอกลำแสงทั้งข้าง

 ทันทีที่ร่ายเวทย์เสร็จแล้วหญิงสาวก็ร้องลั่น

ก่อนจะซัดหอกลำแสงในมือเข้าใส่ฝูงแวมไพร์ตรงหน้าทันที

 

 จนเสียงระเบิดดังสนั่น หญิงสาวเธอไม่หยุดแค่นั้น

 เธอร่ายเวทย์และซัดหอกออกไปอย่างต่อเนื่อง

 แค่พริบตาเดียว

 

 

 เหล่าแวมไพร์ก็โดนเธอสังหารไปจำนวนมาก

 ก็เล่นเอาค่ายกลแวมไพร์ที่ตั้งไว้แตกขบวนไม่เป็นท่า

 

"รักษาตำแหน่ง อย่าแตกกลุ่ม !!"

 แวมไพร์แฟรงค์กินส์ตะโกนสั่งการมากจากด้านบน

 

 เหล่าแวมไพร์ที่ยังเหลือรอดอยู่ต่างหันมาจับกลุ่มกันใหม่

พร้อมกับเริ่มโต้กลับทันที

 เหล่าแวมไพร์ธาตุไฟซัดพลังเข้าตอบโต้

 

 โดยมีแวมไพร์ธาตุดินคอยเสริมพลัง

 ทำให้ได้เปลวไฟที่มีอานุภาพรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า .......

 แต่สุดไฟเวทย์ไฟนี้ก็ไม่ได้ผลอยู่ดีเมื่อมีร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งเข้ามารับไว้

 

สโตนเฮดนั่นเอง ตอนนี้เขามาในร่างหุ้มเกราะศิลาเต็มตัว

 เกราะศิลาที่สร้างขึ้นมาจากเวทย์มนต์ระดับ 9 

จึงไม่ระคายผิวจากเปลวไฟ

 

ที่เกิดจากเวทย์ต่ำชั้นกว่าหลายขั้นนี้แม้แต่น้อย 

เจ้าพาลาดินร่างยักษ์ยิ้มขึ้นอย่างเหี้ยมเกรียม

 ก่อนจะกระโดดเข้ากลางวงเหล่าแวมไพร์พร้อมกับสะบัดแขนจู่โจมทันที

 

 แขมขาที่หุ้มเกราะทรงพลังเมื่อกวัดแกว่งไปทางไหน

 แวมไพร์ที่อยู่ทางนั้นก็ร่างกายป่นปี้กระดูกแหลกเหลวทันที

 โดยที่แวมไพร์เหล่านั้นไม่อาจต้านทานได้เลย

 

 ดูแล้วช่างไม่ต่างอะไรกับหมาป่าตัวใหญ่

ที่กระโจนเข้าขย่ำฝูงไก่อย่างไรอย่างนั้น

 

"กระสุนเวทย์เยือกหิมะ" เมื่อสโตนเฮดเข้าสู้แล้ว

 พาลาดินคนอื่นๆก็เริ่มลงมือตาม

 เริ่มจากไอซ์เอจที่เอาปืนรูปร่างประหลาดออกมาพร้อมกับร่ายเวทย์

 

 พริบตานั้นหินธาตุน้ำที่บรรจุในปืนก็สว่างวาบรับกับเวทย์ทันที

 หินธาตุทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการ

ดูดพลังธาตุน้ำในธรรมชาติเข้ามาไว้ที่ตัวปืน

 

 ก่อนที่พาลาดินไอซ์เอจจะยิงกราดออกไปเป็นลูกกระสุน

 กระสุนธาตุน้ำมีอานุภาพเย็นจัด

 เมื่อกระทบเข้าร่างแวมไพร์ตนใด

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป