เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เจ้าแวมไพร์เบลลิคขยับเข้าไปหาชายหนุ่มช้าๆไม่รีบร้อน
ก่อนจะตวัดเท้าเข้ากลางลำตัวนายอาร์ตอย่างแรง
จนร่างของเขาถึงกับลอยกระเด็นไปตามแรงช้างสารของเจ้าแวมไพร์
พร้อมกับกระอักเลือดออกมาคำใหญ่
ท่านกลางเสียงหัวเราะอย่าสะใจของเจ้าแวมไพร์ตรงหน้า
ไม่พอแค่นั้นมันยังตามมาที่ร่างของชายหนุ่ม
ก่อนเหยียบขยี้ไปบนข้อเท้าของเขา
"ฮ่าๆๆๆ ไงล่ะมึง หมดท่าแล้วเหรอว่ะ
ถ้างั้นกูขอข้อเท้าขวามึงก่อนล่ะน่ะ ฮ่าๆๆๆ"
"อ๊า ............................." ชายหนุ่มร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด
เขาพยามดิ้นรนอย่างเต็มที่
แต่ว่าเพราะเรี่ยวแรงที่เหือดหายบวกกับความเจ็บปวดที่ยิ่งทวีคูณ
ทำให้เขาไม่อาจจะดิ้นหลุดได้เลย ......
"อาร์ต ............" วิเวียนที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ไม่ห่างเอ่ยออกมาช้าๆ
ภาพที่เห็นชายคนรักโดนทำร้ายตรงหน้า
ทำให้เธอเรียกแรงฮึดออกมาได้อีกครั้ง
เพราะคนที่จะช่วยเขาได้ในตอนนี้ก็มีแค่เธอคนเดียว
แต่จะทำอย่างไรล่ะ
เพราะแม้ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเธอ
จะทุเลาไปมากแต่ด้วยเวทย์ธาตุลมแค่เลเวล 4
ก็ไม่เพียงพอที่ช่วยเขาได้แน่
ถ้าจะช่วยเขาก็ต้องใช้เวทย์มนต์ที่ระดับสูงกว่านั้น !!
แต่ ........... มนต์ระดับสูงที่ว่าของเธอ
โดนสั่งห้ามโดยตรงจากสาธุคุณรอส
เพราะถ้าขืนใช้มันโดยพลการก็จะส่งผลกระทบ
ถึงเหล่าพรีสและมนุษย์ทุกคน แต่ถ้าไม่ใช้
เธอก็ไม่อาจช่วยชายคนรักของเธอได้อีกแล้ว .....
เธอควรจะทำอย่างไรดี
"อ๊ากกกกก" เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของชายคนรัก
ดังกระทบโสตประสาทของเธออีกครั้ง
และคราวนี้ดูเหมือนมันจะทำให้เธอ ตัดสินใจได้สักที
"ขอโทษนะคะ ท่านพ่อ วิเวียนตัดสินใจแล้ว"
หญิงสาวพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะยันกายยืนขึ้น
พร้อมกับสูดหายใจช้าๆ
จากนั้นก็เร่งเร้าพลังมาน่าในร่างจนถึงขีดสุด
ก่อนจะใช้มันดึงรั้งเอามวลกระแสธาตุเข้ามารายสู่ร่างกาย
ก่อนจะแปรสภาพพลังธาตุธรรมชาติเหล่านั้น
ให้กลายเป็นพลังเวทย์อันทรงพลังในระดับเลเวล 6
"นังพรีสนั่น ยังลุกไหวด้วยอีกเหรอ"
เวโรนิก้าเอ่ยเบาๆ ก่อนที่เธอจะสังเกตุบรรยากาศรอบข้าง
"กระแสพลังธาตุไหลเวียนแบบนี้
นี่เจ้าใช้เวทย์ระดับเลเวล 6 ได้ด้วย !"
"หึ .... สรุปว่าที่ผ่านมานางใช้แต่เวทย์ธาตุรองงั้นสิ
งั้นธาตุที่แท้จริงของนางคงไม่ใช่ธาตุลมสิน่ะ
นี่คงคิดเก็บเวทย์ธาตุหลักไว้ใช้ทีหลังงั้นสิ"
เจ้าแวมไพร์มาโฮนกล่าวเสริม
"สุดท้ายมันก็เหมือนเดิม
กะอีแค่พลังเวทย์เลเวล 6 มันจะทำอะไรได้ว่ะ"
เจ้าเบลลิคกล่าวเย้ยหยัน
ก่อนที่มันจะล่ะความสนใจจากร่างชายหนุ่มใต้ฝ่าเท้า
มาเป็นหญิงสาวที่กำลังร่ายเวทย์ตรงหน้า
"หึ ! ลุกขึ้นมาก็ดีแล้วอีดอก เมื่อกี้กูยังเย็ดไม่สะใจเลย"
"เจ้าโง่ ถอยออกมา เรายังไม่รู้ว่านางใช้เวทย์ธาตุอะไร"
แวมไพร์สาวร้องบอกเมื่อเห็นเจ้าแวมไพร์ร่างยักษ์
เดินย่างกรายเข้าไปหา
เพราะตอนนี้ร่างของพรีสสาวตรงหน้า
มีแสงสีขาวเรืองรองออกจากร่าง ดูท่านางคงร่ายเวทย์เสร็จแล้ว
"กลัวอะไรว่ะเวโรนิก้า ดูท่าก็รู้ว่าธาตุที่นางใช้ไม่ใช่ธาตุไฟ
ถ้าไม่ใช่ธาตุที่ข้าแพ้ทาง
มันก็ทำอะไรเวทย์ปรานคุ้มกายของข้าได้หรอก"
ว่าแล้วเจ้าเบลลิคก็ร่ายเวทยปรานคุ้มกาย
ธาตุดินระดับเลเวล 6 ทันที
พร้อมกับกล่าวเย้ยพรีสสาวตรงหน้า
"กูจะให้มึงซัดมาก่อนสักทีก็ได้
มึงจะได้สำนึกไงว่าไอ้ไม้ตาย
ก้นหีบของมึงมันไม่ได้ผลหรอก โว้ย !"
"ลำแสงสะเก็ดดาว ............ จงก่อร่างเป็นหอก"
ทันที่ที่หญิงสาวเอ่ยจบ
ประกายแสงเรืองรองเหล่านั้นก็ไหลมารวมกันที่ฝ่ามือ
ก่อนมันจะรวมร่างจนมีลักษณะคล้ายหอกใบใหญ่
และเสี้ยววินาทีนั้นเอง
หญิงสาวก็ซัดหอกลำแสงพุ่งเข้าใส่เป้าหมายตรงหน้าทันที
หอกลำแสงที่พุ่งทะยานด้วยความเร็วสูง
แค่ชั่วพริบตาก็เสียบเข้ากลางอกเจ้าแวมไพร์ยักษ์อย่างจัง
เจ้าแวมไพร์ยักษ์มองภาพหอก
ที่เสียบกลางอกตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา
แต่ยังไม่ทันที่มันจะส่งเสียงอะไร
ออกจากลำคอร่างของมันก็กระตุกวาบ 1 ครั้ง
พร้อมกับมีสำแสงสีขาวที่ส่องแสงออกมาจากภายใน
ก่อนที่ร่างของมันจะ สลายกลายเป็นผงธุลีไปในทันที
ท่ามกลางสายตาตื่นตกใจของแวมไพร์ร่วมศึกของมันทั้งสอง
"พลังแบบนี้ นี่มัน ....... ธาตุแสง !! เวทย์ธาตุแสงสว่าง !!"
เวโรนิก้าเอ่ยออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา
แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่นางได้เห็น
แต่หลายๆอย่างก็ตรงตามที่บันทึกเก่าแก่เคยกล่าวไว้
ถึงธาตุในตำนาน 2 สายที่อยู่นอกสาระบบ 5 จักรวาล
"ธาตุนั่นมันมีแต่ในตำนานไม่ใช่เรอะ"
แวมไพร์มาโฮนกล่าวอย่างไม่อยากเชื่อ
แม้ภาพที่เห็นมันจะฟ้องความจริงที่อยู่เบื้องหน้า
"เจ้าก็รู้จักผู้ที่ใช้ธาตุความมืดไม่ใช่หรือไง
แล้วทำไมจะมีธาตุแสงสว่างไม่ได้"
แต่ไม่ทันที่เวโรนิก้าจะกล่าวอะไรต่อ
หอกลำแสงด้ามที่สองก็ซัดออกมาแล้ว
บีบให้เจ้าแวมไพร์ทั้งสองต้องถอยฉากออกจากร่างชายหนุ่ม
"ถอยก่อน เวโรนิก้า"
เจ้ามาโฮนพอเห้นท่าไม่ดีก็จึงร้องตะโกน
ก่อนสะบัดร่างเปลี่ยนเป็นฝูงนกจำนวนมากบินหายไปทันที
ทิ้งให้เวโรนิก้าต้องมองตามอย่างเจ็บใจ
ก่อนที่เธอจะจำใจล่าถอยกลับไปอีกคน
"อาร์ตไหวไหม" วิเวียนวิ่งเข้าไปดูอาการชายคนรักทันที
โชคดีที่เขาบาดเจ็บไม่มาก
ข้อเท้าก็แค่ช้ำนิดหน่อยยังไม่ถึงกับหัก
เธอจึงค่อยๆพยุงร่างเขาขึ้นก่อนมองหาพาหนะ "ไปที่รถเถอะ"
โชคดีที่รถยุโรปคันใหญ่ของไอ้ตุ๋นยังเสียบกุญแจคาไว้
วิเวียนจึงประครองร่างนายอาร์ตไปนั่งข้างคนขับ
ก่อนที่เธอจะขับทะยานมันออกไปทันที
จุดหมายก็คือรีบกลับไปยังบ้านที่พักให้เร็วที่สุด
แต่ขับออกมาได้ไม่นาน หญิงสาวก็พบความผิดปกติในร่างกาย
มีพลังบางอย่างไหลเวียนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่มันจะแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
แถมยังอัดแน่นไปหมดราวกับไม่สามารถระบายออกได้
เล่นเอาหญิงสาวรู้สึกทรมานจนหายใจไม่ออก
จนในที่สุดเธอก็ต้องหักรถลงข้างทาง
"วิเวียนคุณเป็นอะไร"
นายอาร์ตร้องเสียงหลงเมื่อเห็นอาการหญิงสาวตรงหน้า
แต่เธอก็ไม่อาจจะอธิบายได้
ว่านี่มันเกิดจากการที่เธอฝืนใช้เวทย์มนต์ระดับสูงกะทันหันจนเกินไป
ร่างกายที่ยังไม่ได้ปรับสภาพมาก่อนจึงปรับตัวไม่ทัน
กระแสพลังมาน่าในร่างจึงไหลเวียนปั่นป่วนไปเช่นนี้
'วิธีแก้ก็คือต้องระบายมันออก'
วิเวียนสูดลมหายใจช้าๆเพื่อจะปรับพลังมาน่าในร่าง
ให้หยุดปั่นป่วนชั่วคราว
ก่อนที่สายตาเธอจะจับจ้องไปยังเป้าหมายเบื้องหน้า
นั่นก็คือเจ้าท่อนเอ็นขนาด 8 นิ้ว
ที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงของชายข้างกายเธอนั่นเอง
"วิเวียน เดี๋ยวก่อน วิเวียนนนน"
นายอาร์ตเอ่ยอย่างตกใจที่หญิงสาวคนรักของเขา
เมื่อครู่ยังแสดงท่าทางบาดเจ็บอยู่เลย
แต่ตอนนี้เธอกลับกระโจนเข้าใส่เขา
ก่อนจะปลุกปล้ำจนกางเกงเขาหลุดหายไปอย่างรวดเร็ว
และทันทีที่เจ้าท่อนเอ็นนั้นเป็นอิสระ หญิงสาวก็ไม่รอช้า
จับมันดูดเข้าปากอย่างรุนแรง
"อุยยยยย วิเวียน ซี๊ดดดดด"
ชายหนุ่มเผลอร้องออกมาอย่างสุดกลั้น
ริมฝีปากที่สวยงามได้รูปของเธอทำหน้าที่ได้ดีเสมอ
โดยเฉพาะครั้งนี้ มันรูดขึ้นสุดลงสุดอย่างรุนแรง
กลับกับที่เธอใช้ลิ้นโลมเล้าไปทั่วบริเวนหัว
แค่นี้ไม่นานเจ้าท่อนเอ็นก็ถูกปลุกให้ขนาดขยายใหญ่เต็มที่
แต่ริมฝีปากคู่นั้นก็ยังทำหน้าที่ไม่หยุด
เธอยังโม๊คให้เขาอย่างรุนแรงเช่นเดิม
และในเมื่อท่อนเอ็นมันขยายขึ้นเช่นนี้
ก็แปลว่ามันต้องเข้าไปลึกมากกว่าเดิม
บางจังหวะมันแทงลึกเข้าไปถึงในคอหอยเธอเลยทีเดียว
"โอ๊ะ ....." นายอาร์ตร้องอย่างตกใจเล็กน้อย เพราะเนื่องจากว่า
อยู่ๆหญิงสาวก็ปรับเบาะเขาให้เอนลงโดยไม่ทันตั้งตัว
แต่ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรต่อ เธอก็พลิกกายขึ้นค่อมเขาแล้ว