Your Wishlist

ดินแดนมหัศจรรย์ (ดินแดนมหัศจรรย์ NC​ นิด​ๆ)

Author: xxx555

เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland

จำนวนตอน :

ดินแดนมหัศจรรย์ NC​ นิด​ๆ

  • 29/07/2568

เจ้าแวมไพร์เบลลิคขยับเข้าไปหาชายหนุ่มช้าๆไม่รีบร้อน

 

 ก่อนจะตวัดเท้าเข้ากลางลำตัวนายอาร์ตอย่างแรง

 

 จนร่างของเขาถึงกับลอยกระเด็นไปตามแรงช้างสารของเจ้าแวมไพร์

 

 พร้อมกับกระอักเลือดออกมาคำใหญ่

 

 ท่านกลางเสียงหัวเราะอย่าสะใจของเจ้าแวมไพร์ตรงหน้า

 

 ไม่พอแค่นั้นมันยังตามมาที่ร่างของชายหนุ่ม

 

ก่อนเหยียบขยี้ไปบนข้อเท้าของเขา

 

 "ฮ่าๆๆๆ ไงล่ะมึง หมดท่าแล้วเหรอว่ะ 

 

ถ้างั้นกูขอข้อเท้าขวามึงก่อนล่ะน่ะ ฮ่าๆๆๆ"

 

"อ๊า ............................." ชายหนุ่มร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด 

 

เขาพยามดิ้นรนอย่างเต็มที่ 

 

แต่ว่าเพราะเรี่ยวแรงที่เหือดหายบวกกับความเจ็บปวดที่ยิ่งทวีคูณ 

 

ทำให้เขาไม่อาจจะดิ้นหลุดได้เลย ......

 

 

 

"อาร์ต ............" วิเวียนที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ไม่ห่างเอ่ยออกมาช้าๆ

 

 ภาพที่เห็นชายคนรักโดนทำร้ายตรงหน้า

 

ทำให้เธอเรียกแรงฮึดออกมาได้อีกครั้ง

 

 เพราะคนที่จะช่วยเขาได้ในตอนนี้ก็มีแค่เธอคนเดียว 

 

แต่จะทำอย่างไรล่ะ

 

 เพราะแม้ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเธอ

 

จะทุเลาไปมากแต่ด้วยเวทย์ธาตุลมแค่เลเวล 4

 

 ก็ไม่เพียงพอที่ช่วยเขาได้แน่

 

ถ้าจะช่วยเขาก็ต้องใช้เวทย์มนต์ที่ระดับสูงกว่านั้น !!

 

แต่ ........... มนต์ระดับสูงที่ว่าของเธอ 

 

โดนสั่งห้ามโดยตรงจากสาธุคุณรอส

 

 เพราะถ้าขืนใช้มันโดยพลการก็จะส่งผลกระทบ

 

ถึงเหล่าพรีสและมนุษย์ทุกคน แต่ถ้าไม่ใช้ 

 

เธอก็ไม่อาจช่วยชายคนรักของเธอได้อีกแล้ว .....

 

 เธอควรจะทำอย่างไรดี

 

"อ๊ากกกกก" เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของชายคนรัก

 

ดังกระทบโสตประสาทของเธออีกครั้ง

 

 และคราวนี้ดูเหมือนมันจะทำให้เธอ ตัดสินใจได้สักที

 

"ขอโทษนะคะ ท่านพ่อ วิเวียนตัดสินใจแล้ว" 

 

หญิงสาวพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะยันกายยืนขึ้น 

 

พร้อมกับสูดหายใจช้าๆ 

 

จากนั้นก็เร่งเร้าพลังมาน่าในร่างจนถึงขีดสุด

 

 ก่อนจะใช้มันดึงรั้งเอามวลกระแสธาตุเข้ามารายสู่ร่างกาย

 

 ก่อนจะแปรสภาพพลังธาตุธรรมชาติเหล่านั้น

 

 ให้กลายเป็นพลังเวทย์อันทรงพลังในระดับเลเวล 6

 

"นังพรีสนั่น ยังลุกไหวด้วยอีกเหรอ" 

 

เวโรนิก้าเอ่ยเบาๆ ก่อนที่เธอจะสังเกตุบรรยากาศรอบข้าง 

 

"กระแสพลังธาตุไหลเวียนแบบนี้ 

 

นี่เจ้าใช้เวทย์ระดับเลเวล 6 ได้ด้วย !"

 

"หึ .... สรุปว่าที่ผ่านมานางใช้แต่เวทย์ธาตุรองงั้นสิ

 

 งั้นธาตุที่แท้จริงของนางคงไม่ใช่ธาตุลมสิน่ะ

 

 นี่คงคิดเก็บเวทย์ธาตุหลักไว้ใช้ทีหลังงั้นสิ" 

 

เจ้าแวมไพร์มาโฮนกล่าวเสริม

 

"สุดท้ายมันก็เหมือนเดิม

 

 กะอีแค่พลังเวทย์เลเวล 6 มันจะทำอะไรได้ว่ะ"

 

 

 

 เจ้าเบลลิคกล่าวเย้ยหยัน

 

 ก่อนที่มันจะล่ะความสนใจจากร่างชายหนุ่มใต้ฝ่าเท้า

 

 มาเป็นหญิงสาวที่กำลังร่ายเวทย์ตรงหน้า

 

 "หึ ! ลุกขึ้นมาก็ดีแล้วอีดอก เมื่อกี้กูยังเย็ดไม่สะใจเลย"

 

"เจ้าโง่ ถอยออกมา เรายังไม่รู้ว่านางใช้เวทย์ธาตุอะไร"

 

 แวมไพร์สาวร้องบอกเมื่อเห็นเจ้าแวมไพร์ร่างยักษ์

 

เดินย่างกรายเข้าไปหา

 

 เพราะตอนนี้ร่างของพรีสสาวตรงหน้า

 

มีแสงสีขาวเรืองรองออกจากร่าง ดูท่านางคงร่ายเวทย์เสร็จแล้ว

 

"กลัวอะไรว่ะเวโรนิก้า ดูท่าก็รู้ว่าธาตุที่นางใช้ไม่ใช่ธาตุไฟ

 

 ถ้าไม่ใช่ธาตุที่ข้าแพ้ทาง

 

มันก็ทำอะไรเวทย์ปรานคุ้มกายของข้าได้หรอก"

 

 ว่าแล้วเจ้าเบลลิคก็ร่ายเวทยปรานคุ้มกาย

 

ธาตุดินระดับเลเวล 6 ทันที 

 

พร้อมกับกล่าวเย้ยพรีสสาวตรงหน้า

 

 "กูจะให้มึงซัดมาก่อนสักทีก็ได้

 

 มึงจะได้สำนึกไงว่าไอ้ไม้ตาย

 

ก้นหีบของมึงมันไม่ได้ผลหรอก โว้ย !"

 

"ลำแสงสะเก็ดดาว ............ จงก่อร่างเป็นหอก" 

 

ทันที่ที่หญิงสาวเอ่ยจบ

 

 ประกายแสงเรืองรองเหล่านั้นก็ไหลมารวมกันที่ฝ่ามือ

 

 ก่อนมันจะรวมร่างจนมีลักษณะคล้ายหอกใบใหญ่

 

 และเสี้ยววินาทีนั้นเอง

 

 หญิงสาวก็ซัดหอกลำแสงพุ่งเข้าใส่เป้าหมายตรงหน้าทันที

 

 หอกลำแสงที่พุ่งทะยานด้วยความเร็วสูง

 

แค่ชั่วพริบตาก็เสียบเข้ากลางอกเจ้าแวมไพร์ยักษ์อย่างจัง

 

เจ้าแวมไพร์ยักษ์มองภาพหอก

 

ที่เสียบกลางอกตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

 

 แต่ยังไม่ทันที่มันจะส่งเสียงอะไร

 

ออกจากลำคอร่างของมันก็กระตุกวาบ 1 ครั้ง

 

 พร้อมกับมีสำแสงสีขาวที่ส่องแสงออกมาจากภายใน

 

 ก่อนที่ร่างของมันจะ สลายกลายเป็นผงธุลีไปในทันที

 

 ท่ามกลางสายตาตื่นตกใจของแวมไพร์ร่วมศึกของมันทั้งสอง

 

"พลังแบบนี้ นี่มัน ....... ธาตุแสง !! เวทย์ธาตุแสงสว่าง !!"

 

 เวโรนิก้าเอ่ยออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา 

 

แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่นางได้เห็น

 

 แต่หลายๆอย่างก็ตรงตามที่บันทึกเก่าแก่เคยกล่าวไว้

 

 ถึงธาตุในตำนาน 2 สายที่อยู่นอกสาระบบ 5 จักรวาล

 

"ธาตุนั่นมันมีแต่ในตำนานไม่ใช่เรอะ"

 

 แวมไพร์มาโฮนกล่าวอย่างไม่อยากเชื่อ

 

 แม้ภาพที่เห็นมันจะฟ้องความจริงที่อยู่เบื้องหน้า

 

"เจ้าก็รู้จักผู้ที่ใช้ธาตุความมืดไม่ใช่หรือไง

 

 แล้วทำไมจะมีธาตุแสงสว่างไม่ได้"

 

 แต่ไม่ทันที่เวโรนิก้าจะกล่าวอะไรต่อ

 

 หอกลำแสงด้ามที่สองก็ซัดออกมาแล้ว

 

 บีบให้เจ้าแวมไพร์ทั้งสองต้องถอยฉากออกจากร่างชายหนุ่ม

 

"ถอยก่อน เวโรนิก้า"

 

 เจ้ามาโฮนพอเห้นท่าไม่ดีก็จึงร้องตะโกน

 

ก่อนสะบัดร่างเปลี่ยนเป็นฝูงนกจำนวนมากบินหายไปทันที

 

 ทิ้งให้เวโรนิก้าต้องมองตามอย่างเจ็บใจ

 

 ก่อนที่เธอจะจำใจล่าถอยกลับไปอีกคน

 

"อาร์ตไหวไหม" วิเวียนวิ่งเข้าไปดูอาการชายคนรักทันที

 

 โชคดีที่เขาบาดเจ็บไม่มาก 

 

ข้อเท้าก็แค่ช้ำนิดหน่อยยังไม่ถึงกับหัก

 

 เธอจึงค่อยๆพยุงร่างเขาขึ้นก่อนมองหาพาหนะ "ไปที่รถเถอะ"

 

โชคดีที่รถยุโรปคันใหญ่ของไอ้ตุ๋นยังเสียบกุญแจคาไว้

 

 วิเวียนจึงประครองร่างนายอาร์ตไปนั่งข้างคนขับ

 

 ก่อนที่เธอจะขับทะยานมันออกไปทันที

 

 จุดหมายก็คือรีบกลับไปยังบ้านที่พักให้เร็วที่สุด

 

 แต่ขับออกมาได้ไม่นาน หญิงสาวก็พบความผิดปกติในร่างกาย

 

 มีพลังบางอย่างไหลเวียนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

 

 ก่อนที่มันจะแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

 

แถมยังอัดแน่นไปหมดราวกับไม่สามารถระบายออกได้

 

 เล่นเอาหญิงสาวรู้สึกทรมานจนหายใจไม่ออก

 

 จนในที่สุดเธอก็ต้องหักรถลงข้างทาง

 

"วิเวียนคุณเป็นอะไร"

 

 นายอาร์ตร้องเสียงหลงเมื่อเห็นอาการหญิงสาวตรงหน้า

 

 แต่เธอก็ไม่อาจจะอธิบายได้

 

 ว่านี่มันเกิดจากการที่เธอฝืนใช้เวทย์มนต์ระดับสูงกะทันหันจนเกินไป

 

 ร่างกายที่ยังไม่ได้ปรับสภาพมาก่อนจึงปรับตัวไม่ทัน

 

 กระแสพลังมาน่าในร่างจึงไหลเวียนปั่นป่วนไปเช่นนี้

 

 

 

'วิธีแก้ก็คือต้องระบายมันออก'

 

 วิเวียนสูดลมหายใจช้าๆเพื่อจะปรับพลังมาน่าในร่าง

 

ให้หยุดปั่นป่วนชั่วคราว

 

 ก่อนที่สายตาเธอจะจับจ้องไปยังเป้าหมายเบื้องหน้า

 

 นั่นก็คือเจ้าท่อนเอ็นขนาด 8 นิ้ว

 

 ที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงของชายข้างกายเธอนั่นเอง

 

"วิเวียน เดี๋ยวก่อน วิเวียนนนน"

 

 นายอาร์ตเอ่ยอย่างตกใจที่หญิงสาวคนรักของเขา

 

เมื่อครู่ยังแสดงท่าทางบาดเจ็บอยู่เลย

 

 แต่ตอนนี้เธอกลับกระโจนเข้าใส่เขา

 

 ก่อนจะปลุกปล้ำจนกางเกงเขาหลุดหายไปอย่างรวดเร็ว

 

 และทันทีที่เจ้าท่อนเอ็นนั้นเป็นอิสระ หญิงสาวก็ไม่รอช้า

 

 จับมันดูดเข้าปากอย่างรุนแรง

 

"อุยยยยย วิเวียน ซี๊ดดดดด" 

 

ชายหนุ่มเผลอร้องออกมาอย่างสุดกลั้น

 

 ริมฝีปากที่สวยงามได้รูปของเธอทำหน้าที่ได้ดีเสมอ

 

 โดยเฉพาะครั้งนี้ มันรูดขึ้นสุดลงสุดอย่างรุนแรง

 

 กลับกับที่เธอใช้ลิ้นโลมเล้าไปทั่วบริเวนหัว

 

 แค่นี้ไม่นานเจ้าท่อนเอ็นก็ถูกปลุกให้ขนาดขยายใหญ่เต็มที่

 

 แต่ริมฝีปากคู่นั้นก็ยังทำหน้าที่ไม่หยุด

 

เธอยังโม๊คให้เขาอย่างรุนแรงเช่นเดิม

 

 และในเมื่อท่อนเอ็นมันขยายขึ้นเช่นนี้

 

 ก็แปลว่ามันต้องเข้าไปลึกมากกว่าเดิม

 

 บางจังหวะมันแทงลึกเข้าไปถึงในคอหอยเธอเลยทีเดียว

 

"โอ๊ะ ....." นายอาร์ตร้องอย่างตกใจเล็กน้อย เพราะเนื่องจากว่า

 

 อยู่ๆหญิงสาวก็ปรับเบาะเขาให้เอนลงโดยไม่ทันตั้งตัว

 

 แต่ไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรต่อ เธอก็พลิกกายขึ้นค่อมเขาแล้ว

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป