เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
แม้เจ้าแวมไพร์จะให้เวทย์ป้องกันไว้แล้ว
แต่เมื่อโดนเตะเน้นๆแบบนี้ไปเรื่อยๆมันก็ชักเริ่มออกอาการ
แต่นี่ก็เท่ากับเป็นการยั่วโมโหมันมากขึ้นเช่นกัน
เจ้าเบลลิคคำรามขึ้นอีกครั้งก่อนจะพุ่งเข้าลุกไล้วิเวียนหนักขึ้น
จนเธอหลบหลีกมันได้จวนเจียนขึ้นทุกที
และสุดท้ายเธอก็พลาดจนได้
เมื่อเจ้าเบลลิคสามารถจับเข้าที่เส้นผมของเธอ
มันร้องดีใจมาหนึ่งคำก่อนที่จะเหวี่ยงเธอ
เข้ากระแทกกำแพงด้านข้าง ไม่พอ
มันยังตามมาคว้าคอและยกขึ้นสูงจนเท้าเธอลอยเหนือพื้น
หญิงสาวพยามดิ้นรนอย่างทรมาน
แต่ก็ไม่มีทีท่าจะดิ้นหลุดจากมือแข็งแรงข้างนั้นได้เลย
"ฮ่าๆๆ ทรมานล่ะสิมึง นี่แค่เริ่มต้นน่ะเว้ย ........ อือหืออออ
นมมึงนี่ใหญ่ไม่เลวนี่หว่า"
เจ้าเบลลิคหัวเราะอย่างสะใจ
พร้อมๆกับขยำเต้างามของเธออย่างป่าเถื่อน
โดยที่เธอไม่อาจจะขัดขืนได้เลย
เพราะคอที่โดนบีบหนักทำให้เธอหายใจไม่ออก
สติของเธอก็เริ่มเลือนรางลงทุกที
"วิเวียนนนนน"
เสียงตะโกนก้องของนายอาร์ตช่วยปลุกสติวิเวียนกลับมาอีกครั้ง
ใช่ เธอจะมายอมแพ้ไม่ได้ เพราะไม่งั้นอาร์ตจะต้องแย่แน่ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น วิเวียนก็รวบรวมพลังเฮือกสุดท้าย
เตะเสยเข้าที่ปลายคางเจ้าเบลลิคอย่างจัง ได้ผล ........
เจ้าเบลลิคสะดุ้งเฮือกจนต้องถอยไปหลายก้าว
มือที่บีบรัดหญิงสาวอยู่ก็ต้องปล่อยออกมา
เจ้าเบลลิคหันมามองเธออีกครั้ง
ตอนนี้เลือดขึ้นหน้ามันแล้ว มันจึงวิ่งเข้าใส่วิเวียนทันที
พร้อมกับซัดหมัดนำไปก่อนหนึ่งหมัด
แต่วิเวียนก็ย่อตัวหลบได้ทัน ก่อนที่เธอจะกำหมัด
แล้วเสยอัปเปอร์คัทเข้าใส่ทันที ..........
และชั่วขณะที่หมัดของเธอกำลังเข้าใกล้ปลายคาง
เจ้าแวมไพร์ร่างอ้วนนี่นั้น
"หมัดอัดกระแทก !!"
หญิงสาวตะโกนร่ายเวทย์ทันที ทำให้เวทย์ธาตุลมเลเวล 4
บทนี้พุ่งเข้ากระแทกปลายคางเจ้าเบลลิคในระยะประชิด
ร่างยักษ์ของมันถึงกับล้มตึงลงไปกองเลยทีเดียว ......
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะปลายคางของเจ้าเบลลิคคือจุดตาย
ที่วิเวียนพึ่งหาเจอเมื่อครู่ โดนดูจากเมื่อเธอโจมตีปลายคาง
มันจะออกอาการมากกว่าจุดอื่น
"ฮ่าๆๆ โดนพรีสเลเวลต่ำกว่า แถมยังธาตุแพ้ทาง
ซัดจนล้มไปกองตั้ง 2 ครั้ง
เป็นข้าคงอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วว่ะ"
เจ้าเบลลิคได้ยินดังนั้นถึงกับกัดฟันกรอดอย่างเคืองแค้น
ไหนจะโดนพรีสสาวตรงหน้าเล่นงานจนปวดไปทั้งร่าง
แล้วนี่ยังมาโดนเวโรนิก้า
แวมไพร์ที่ไม่ถูกกับมันเย้ยหยันอีก
มันค่อยๆยันกายขึ้นมาอย่างยากลำบาก
จริงๆการโจมตีเมื่อครู่ของวิเวียนมีสิทธิ์ฆ่ามันได้แล้ว
แต่โชคดีที่ผิวใหม่ ของมันเป็นผิวอย่างหนาพิเศษ
มันเลยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด
ตอนนี้แสงสีน้ำตาลที่อาบผิวมันอยู่หายไปแล้ว
เป็นสัญญาณว่ามันคิดหันไปโจมตีแบบอื่นแทน
"อัสนีบาต 5 วิถี"
เวทย์สายฟ้าเลเวล 6 ถูกร่ายขึ้นทันที
วิเวียนที่เห็นดังนั้นก็กระโดดถอยออกไปตั้งหลักห่างออกไป
พร้อมเตรียมรับมืออย่างไม่ประมาท
แต่เจ้าเบลลิคก็ไม่รีบร้อน มันเดินเข้าหาเธออีก 2-3
ก้าวก่อนจะแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
พร้อมกับหันไปจ้องมองเป้าหมายไม่วางตา ..........
เป้าหมายที่ไม่ใช่เธอแต่เป็นนายอาร์ต !
"ตายยยย" สายฟ้าทั้ง 5 สายที่ชาร์ตอยู่ถูกซัดออกไปทันที
มันพุ่งเข้าหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ไม่มีว่าใครก็ไม่สามารถหยุดมันได้ทันแล้ว
"อาร์ตตตต" วิเวียนร้องเสียงหลง เธอไม่มีทางเลือกแล้ว
เวทย์เท้าวายุถูกร่ายขึ้นทันที
แค่พริบตาเดียวหญิงสาวก็ไปขวางสายฟ้าได้
อย่างฉิวเฉียดแต่มันก็กะทันหันเกิน ไป เธอร่ายเวทย์ป้องกันใดๆไม่ทัน
ทำให้เธอต้องรับสายฟ้านั้นไปเต็มๆ
"วิเวียนนนนนน"
นายอาร์ตร้องเสียงก้อง
เขาดิ้นรนจะเข้าไปหาร่างของเธอที่โดนช็อตแทนเขาอย่างเต็มที่
แต่ก็ติดที่ทรายที่พันธนาการร่างเขาไว้
ทำให้เขาต้องดูเธอโดนทำร้ายอย่างไม่อาจจะทำอะไรได้
ในขณะที่วิเวียนก็ไม่ยอมแพ้ เธอฝืนยืนหยัดรับสายฟ้าทั้งหมด
จนกระทั้งมันช็อตเสร็จนั่นแหละ เธอถึงยอมล้มลงไปกอง
"ตกใจอะไรว่ะ อีนี่มันยังไม่ตายหรอกน่า"
เจ้าเบลลิคหัวเราะชอบใจพร้อมกับย่างเท้าเข้ามาใกล้
แต่แล้วมันก็ต้องชะงักขนลุกไปทั่วร่าง
เมื่อมันได้สบตาโกรธแค้นของชายหนุ่ม
แต่กระนั้นมันก็ยังแก้เกี้ยวด้วยการลากหญิงสาวออกมาแทน
"เมื่อกี้ทำกูแสบนักน่ะ คราวนี้กูจะจัดการมึงให้หนำใจเลย"
"ไอ้เลวววววว" วิเวียนฝืนด่าเจ้าแวมไพร์ตรงหน้าอย่างอ่อนล้า
"ฮ่าๆๆ นี่มันสงครามน่ะเว้ยไม่ใช่เล่นขายของ
จะโทษก็ต้องโทษที่มึงมันอ่อนเองเถอะ ฮ่าๆๆ"
เจ้าเบลลิคพูดจบมันก็ก้มไปเลียแก้มใสๆ
ของหญิงสาวอย่างหื่นกระหา
มืออีกข้างก็เอื้อมไปขยำเต้านมของวิเวียนอย่างรุนแรงต่อ
ร่างของวิเวียนที่โดนช็อตด้วยเวทย์เลเวล 6
ทำให้ตอนนี้เธอไม่อาจจะขยับเขยื้อนใดๆได้
ต้องนอนเป็นของเล่นให้ไอ้ยักษ์กักขะผู้นี้ย่ำยี
"ไอ้เหี้ยยยย อย่ายุ่งกับเธอน่ะเว้ย ปล่อยเธอ
กูบอกให้มึงปล่อยไง ปล่อยยยย" นายอาร์ตตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
เขาพยามดิ้นรนอย่างเต็มที่
จนตอนนี้เนื้อตัวเขาเสียดสีไปกับเม็ดทราย
จนเป็นแผลเลือดไหลซึมไปหมด
แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้พยามดิ้นรนต่อไป
แม้มันจะไม่มีประโยชน์ใดๆเลยก็ตาม
"ทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วยว่ะ ฮ่าๆๆ เอางี้มึงดูนี่"
เจ้าเบลลิคร้องอย่างสบายอารมณ์
การเย็ดหญิงสาวต่อหน้าคนรักของเธอนี่แหละ
ที่มันเร้าอารมณ์มันสุดแล้ว ว่าแล้วมันก็จัดแจงปลดกางเกง
โชว์ท่อนเอ็นขนาดยักษ์สมกับรูปร่าง
จากนั้นก็จัดแจงจิกหัววิเวียนขึ้นมา
แล้วเอาท่อนเอ็นยัดใส่ปากเธอทันที
"ซี๊ดดดด ปากอีนี่โคตรนุ่มเลยว่ะ นี่มึงเย็ดปากมันทุกวันเปล่าว่ะ
วันนี้แบ่งให้กูเย็ดมั่งน่ะ"
หลังจากที่เจ้าเบลลิคเย้ยหยันนายอาร์ตเสร็จแล้ว
มันก็จัดการซอยเอวทันที ท่อนควยที่ยาวใหญ่
กระแทกปากจนทะลุลึกไปถึงคอหอย
สร้างความสะใจให้แก่มันจนมันต้องแหงนหน้าซูดปากอย่างเมามัน
แต่หญิงสาวกลับทรมานไม่น้อย
ท่อนเอ็นของเจ้าเบลลิคขนาด 10 นิ้วเห็นจะได้
มันใหญ่เกินไปจนปากของเธอต้องปวดไปหมด
แถมความยาวก็ยาวลึกไปถึงคอหอย
ทำให้ทุกครั้งที่มันแทงลงมา เธอถึงกับต้องสำลักตาม
แต่เจ้าแวมไพร์ก็ไม่คิดจะสนใจ
มันปฏิบัติกับเธอราวกับว่าเธอเป็นสิ่งของที่ใช้
ระบายความใคร่เพียงอย่าง เดียวยังไงยังงั้น
น้ำตาใสๆของเธอไหลอาบแก้มเป็นทาง
น้ำตาที่ไหลหลั่งไม่ใช่เพราะเจ็บปวด ไม่ใช่เพราะกลัว
แต่เป็นเพราะเธอเสียใจ เสียใจที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้
สภาพที่โดนย่ำยีต่อหน้าชายที่เธอรัก
เสียใจที่ต้องมาเห็นชายที่เธอรักร่ำร้องจนเสียงแหบแห้ง
เสียใจที่ต้องเห็นเขาดิ้นรนจะมาช่วยเธอจนตัวเขาเลือดไหลซิบๆเป็นทาง
เธอหลับตาลงช้าๆพร้อมกับอ้อนวอนในใจ
เธอภาวนาให้เรื่อนี้มันจบลงโดยเร็วสักที
อย่างน้อยอาร์ตก็จะได้ไม่ต้องมาทรมานกับเธอไปมากกว่านี้
ชั่วพริบตานั้น ..... ร่างเงาวูบหนึ่งก็พุ่งเข้ามา เวโรนิก้านั่นเอง
แวมไพร์สาวพุ่งเข้ากลางวงของทั้งสามอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะก้าวเข้าไปหานายอาร์ต ที่กำลังคลุ้มคลั่ง
ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน แม้แต่วิเวียนเองก็ไม่เข้าใจ
แต่ก่อนที่จะมีใครเอ่ยถาม
แวมไพร์สาวก็ลูบหัวนายอาร์ตเบาๆก่อนจะร่ายเวทย์
"ห้วงนิทรา"
พริบตานั้นสตินายอาร์ตก็ขาดลง เขาโดนสะกดให้หลับลึกทันที
โดยมีเสียงร้องอย่างไม่พอใจของเจ้าเบลลิค
"มึงจะมาเสือกทำไมเนี่ยเวโรนิก้า .........
กูกำลังมันส์ๆอยู่เลยน่ะเว้ยยยยยย"
"วิเวียนนนนน"
นายอาร์ตตะโกนก้องพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง
ก่อนที่เขาจะแปลกใจว่าอยู่ที่ใด
ที่นี่มันช่างมืดมิดจนมองไม่เห็นทางใดๆเลย แต่ช่างเถอะ
ตอนนี้เขาอยู่ไหนมันไม่ใช่สิ่งสำคัญ
ที่สำคัญก็คือไม่รู้ตอนนี้วิเวียนจะเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อคิดได้ดังนั้นนายอาร์ตก็ออกวิ่งไปทันที แม้จะรู้ไม่ว่าวิ่งไปไหนก็ตาม
แต่ไม่ว่าเขาจะวิ่งนานเท่าไหร่ หรือไวแค่ไหน
เขาก็ไม่เห็นทางออกใดๆเลย
ราวกับโลกมืดแห่งนี้มันช่างกว้างใหญ่มหาศาล หลังจากวิ่งอยู่นาน
สุดท้ายนายอาร์ตก็ต้องสะดุดเท้าตัวเองล้มลงอย่างหมดท่า
"วิ่งในที่มืดๆแบบนี้มันอันตรายน่ะ"
เสียงพูดของชายอีกคนที่ดังขึ้นทำเอานายอาร์ต
ต้องหันไปมองอย่างตกตะลึง ก่อนที่เขาจะเอ่ยตวาดลั่นกลับไป
"แกเป็นใคร"
ชายลึกลับคนนั้นก็ไม่ตอบอะไร นอกจากดีดนิ้วเบาๆ
พริบตานั้น คบเพลิง 2 กองก็ถูกจุด
ทำให้โลกมืดแห่งนี้มีแสงสว่างไสวขึ้นมา
ทำให้นายอาร์ตเห็นภาพชายตรงหน้าได้อย่างชัดเจน
ผมของเขาสีดำยาวสยาย
กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ขนาดใหญ่ราวกับบัลลังค์ของราชา