เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
พอรถคันนั้นเข้าใกล้ได้มากพอและตานายอาร์ตกับปรับแสงได้
เขาก็เห็นว่ารถคันนั้น
ความจริงแล้วก็คือรถไอ้ตุ๋นนั่นเอง
"เอ้าไอ้เหี้ยตุ๋น เปิดไฟสูงทำไมว่ะ แล้วนี่มึงมาเนี่ยได้ไงว่ะ
ไหนว่าจะพาหญิงไปเที่ยวไง"
นายอาร์ตที่กำลังร้องตะโกนอยู่นั้นถึงกับอึ้งอ้าปากค้าง
เพราะคนที่ก้าวลงจากรถไม่ใช่เพื่อนมัน
แต่คนผู้หญิงสุดเซ็กส์ซี่คนหนึ่งที่เขาจำได้ดี
"พวกแวมไพร์ !"
"หม๊ามี๊มารับกลับบ้านแล้วน่ะจ๊ะ"
เวโรนิก้าเอ่ยทักเสียงอ่อนหวาน แต่ชายหนุ่มไม่อยู่ฟังแล้ว
เขาทิ้งข้าวของแล้ววิ่งหนีทันที
แต่เขาวิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่
นกกาฝูงหนึ่งก็พุ่งลงมาขวางหน้าเขา ก่อนจะรวมตัวกันเป็นร่างคน
"จะหนีไปไหนว่ะ ไอ้หนุ่ม" ตอนนี้ข้างหลังก็โดนเวโรนิก้ายืนคุม
ข้างหน้าก็มีมาโฮนยืนขวาง นายอาร์ตถึงกับหน้าถอดสี
แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาหันซ้ายขวาก่อนจะเห็นตอกเล็กๆข้างๆ
เมื่อเห็นทางดังนั้นเขาก็หนีแวมไพร์ทั้งสองเข้าไปในตอกทันที
แต่ไม่ทันที่นายอาร์ตจะก้าวพ้นตอกดี
กำปั้นลุ่นๆของใครคนหนึ่งก็ปล่อยเข้าใส่หน้าท้องของเขาอย่างจัง
เล่นเอานายอาร์ตตัวงอราวกับกุ้งแม่น้ำ
ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกเหวี่ยงกระเด็นราวกับเศษไม้
"เสร็จกูล่ะมึง แค่นี้มึงก็หนีไปไหนไม่ได้แล้วเว้ย"
เจ้าแวมไพร์เบลลิคยิ้มเหี้ยมเกรียมก่อนจะย่างสามขุมเข้าหาเขาช้าๆ
ส่วนนายอาร์ตนั้นนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น จะลุกก็ลุกไม่ไหว
ร่างปวดไปหมด .... นี่เขาจะเสร็จพวกมันแล้วเหรอเนี่ย !!
"อาร์ตตตต หนีไปไหนเนี่ย อาร์ตหนีเที่ยวเหรอออออ"
เสียงวีนๆของหญิงสาวที่นายอาร์ตคุ้นหูดังก้องในหัว
ทำให้เขายิ้มอย่างมีความหวัง
เขาจัดการรวบรวมสมาธิเพื่อติดต่อกับวิเวียน พร้อมกับตะโกนหา
"วิเวียนนนน ช่วยผมด้วย !!"
"หืมมมมม เรียกหาใครว่ะ ไอ้ควาย ไม่มีใครมาช่วยมึงทันหรอกเว้ย"
เบลลิคตะโกนตอบกลับ แต่ทันทีที่มันพูดจบ มันก็ต้องแปลกใจ
เพราะอยู่ๆก็มีวงกลมสีแดงสว่างจ้าวงหนึ่ง
ปรากฏขึ้นด้านหน้าของนายอาร์ต
แถมในนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่
และทันทีที่แสงจ้าสีแดงตรงหน้าหายไป
หญิงสาวคนนั้นก็ตวาดลั่นทันที
"หมัดอัดกระแทก"
มนต์ทำลายระดับเลเวล 4 ถูกซัดเข้าใส่เจ้าเบลลิคอย่างรวดเร็ว
แถมเจ้าเบลลิคก็ไม่ทันระวังอยู่แล้วด้วยมันเลยโดนอัดเข้าไปเต็มๆ
เล่นเอาร่างใหญ่ยักษ์ของมันถึงกับลอยกระเด็นไปไกลหลายเมตร
วิเวียนยิ้มดีใจขึ้นมาแวบหนึ่งที่สามารถสกัดเจ้าแวมไพร์ตรงหน้าไว้ได้
ก่อนที่เธอจะหันไปดูอาการชายหนุ่มทันที
"วิเวียนมาได้ไงเนี่ย"
นายอาร์ตร้องถามก่อนจะพยามยันกายลุกขึ้นยืน
"ก็มนต์เชื่อมจิตไงอาร์ต
นอกจากมันจะช่วยให้เราติดต่อทางโทรจิตกันได้
มันก็ยังช่วยสร้างประตูมิติให้เรากระโดดไปมาหากันได้ด้วยน่ะ"
วิเวียนอธิบายเสร็จก็ตีเบาๆหนึ่งทีพร้อมกับทำเสียงดุใส่
"เดี๋ยวนี้เหลวไหลน่ะ มีแอบหนีเที่ยวด้วยเหรอ
กลับไปจะทำโทษให้น่าดูเลย"
"เจอกันอีกแล้วน่ะคุณพรีสผมเงิน"
เสียงหญิงสาวที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้วิเวียนต้องหันมองกลับไปทันที
การปรากฏกายของแวมไพร์สาวผมดำทำให้วิเวียนหน้าตึงขึ้นมาทันที
แวมไพร์สาวตนนี้สามารถใช้เวทย์ได้ทั้ง 5 สาย
แค่คิดก็ยากจะรับมือแล้ว ........ แต่เมื่อเธอมองไปอีกด้าน
เธอก็พบว่ามีแวมไพร์ร่างผอมสูงอีกตนมาดักทางไว้ !
แวมไพร์ตนนี้เธอจำได้ว่ามันคือตัวที่นำทีมมาจับอาร์ตเมื่อคราวก่อน
นี่เท่ากับว่าเธอต้องรับมือแวมไพร์ชั้นแม่ทัพ 2 ไม่สิ 3 ตนพร้อมกัน !!
"ไปเร็วอาร์ต !!" สถานการณ์แบบนี้มีแต่หนีทางเดียวเท่านั้น
ว่าแล้วหญิงสาวก็คว้ามือชายคนรักเตรียมหนีทันที
"ไม่มีทางหรอกเว้ยอีพรีสสสส !"
แต่มีเหรอที่เหล่าแวมไพร์จะยอม
มาโฮนตวาดลั่นพร้อมกับสะบัดแขนขวา
พริบตานั้นร่างแยกของมันก็บินออกมาตัวหนึ่ง
ก่อนที่เจ้านกกาตัวนั้นจะบินพุ่งเข้าโจมตีพรีสสาวทันที
แต่เธอก็ยังไวพอกางคาถาโลห์พิทักษ์มาป้องกันได้ทัน ตูมมมม !!
เสียงเวทย์ปะทะกันดังก้อง
แรงกระแทกที่รุนแรงดีดวิเวียนและนายอาร์ตให้กระเด็นออกจากกัน
ทำให้เวโรนิก้าฉวยโอกาสนี้ทันที
"พันธนาการทราย !!"
ทันทีที่เสียงร่ายเวทย์จบ ทรายจำนวนมากก็ผลุดขึ้นมาจากพื้น
ตรงเข้ารัดตัวนายอาร์ตทันที
ขาทั้งสองข้างของเขาโดนยึดแน่นกับพื้น
ลำตัวของเขาก็โดนทรายพันแน่นจนขยับแขนไม่ได้เลย
แถมทรายพวกนี้ก็แข็งแรงยิ่งกว่าเหล็กกล้า
ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนแค่ไหนมันก็ไม่ขาด
ทำให้ตอนนี้เขาทำได้แค่สองอย่าง
ไม่นั่งบนพื้นก็ต้องนอนราบไปแค่นั้น
"แย่ล่ะสิ ทำไงดีล่ะวิเวียน อาร์ตโดนเวทย์ดินเลเวล 6 ล็อคไว้เนี่ย
แบบนี้ก็พาอาร์ตหนีไม่ได้แล้วสิ แถมถ้าไม่จัดการข้า
เวทย์ก็ไม่คลายด้วยน่ะ"
เวโรนิก้าเอ่ยเสียงสูงยั่วโมโหพรีสสาว ซึ่งก็ได้ผล
วิเวียนทำได้แค่กัดฟันกรอดเท่านั้น
"ข้าจะจัดการมันเอง คราวที่แล้วมันทำข้าไว้แสบมาก"
มาโฮนกล่าวขึ้นอย่างมาดร้าย พร้อมกับก้าวเท้าไปหาหญิงสาว
แต่ไม่ทันไรก็มีเสียงห้ามซะก่อน
"ข้าเองมาโฮน !!"เบลลิคนั่นเอง
ตอนนี้มันลุกขึ้นยืนตาลุกวาว
"เมื่อกี้อีนี่เล่นข้าทีเผลอ แบบนี้มันต้องลากคอมันมาเย็ดให้ตายคาควย !"
"วิเวียนหนีไป ไม่ต้องห่วงผม"
นายอาร์ตที่โดนล็อกไว้แน่นร้องตะโกนบอก
"หนีได้ไงล่ะอาร์ต" หญิงสาวหันมาตอบ
"ไม่ต้องห่วงน่ะ เดี๋ยววิเวียนจัดการพวกมัน 3 ตัวเรื่องก็จบแล้ว"
"ปากดีนักน่ะมึง !" เบลลิคตวาดลั่นพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ทันที ! แต่พรีสสาวก็ระวังตัวอยู่แล้ว
เธอพุ่งหลบมันได้อย่างหวุดหวิด
ทำให้เจ้าแวมไพร์ร่างอ้วนวิ่งเข้าอัดรถยนต์ที่จอดแถวนั้นเข้าอย่างจัง
สภาพรถถึงกับยับเยินราวกับถูกลิบล้ออัดยังไงยังงั้น
เมื่อการจู่โจมทีแรกไม่สำเร็จ เจ้าเบลลิคก็เลยตั้งท่าเตรียมจู่โจมใหม่
แต่พรีสสาวก็ไม่ยอมง่ายๆ
เธอรวบรวมพลังเวทย์ก่อนจะชิงซัดเข้าใส่ก่อนทันที
"หมัดอัดกระแทก" มนต์ธาตุลมเลเวล 4 พุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
แต่เจ้าเบลลิคก็ไม่ตื่นตกใจ
มันแสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะร่ายเวทย์ประจำตัว
"ปราณคุ้มกายธาตุดิน"
พริบตานั้นผิวร่างของเจ้าเบลลิคก็เปลี่ยนสี
จากขาวสดเป็นสีน้ำตาลที่เป็นสี ประจำธาตุดิน
เวทย์ลมที่วิเวียนซัดมาเมื่อกระทบเข้า
ก็พลัยสลายกลายเป็นลมเบาๆไปทันที
วิเวียนเองก็ถึงกับกลืนน้ำลายช้าๆ
นี่เธอต้องเจอแวมไพร์ที่สายข่มเธอซะแล้ว ......
ส่วนแวมไพร์สาวที่ยืนห่างออกไปก็อดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้นมาเบาๆ
"เวทย์กิ๊กก๊อก" พูดเสร็จเธอก็หันไปมองแวมไพร์มาโฮนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
"ข้าก็รู้อยู่ว่าเจ้าเบลลิคมันโง่ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะโง่ขนาดนี้
ที่ไปฝึกเวทย์กิ๊กก๊อกพลันนั้นจนถึงเลเวล 6
เวทย์นี้มันจะป้องกันก็กันได้แค่ 8 ส่วน
เวทย์โล่ห์พิทักษ์ยังจะกันได้มากกว่าอีก
ข้อดีของไอ้เวทย์ปรานนี่มันก็แค่ผู้ใช้สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้
กับ ฝึกง่ายแค่นั้นเอง"
แต่เรื่องนี้มีเหรอที่วิเวียนจะไม่รู้
จะว่าไปนี่ก็นับเป็นโชคดีในโชคร้ายของเธอก็ได้
แม้เจ้าแวมไพร์ตรงหน้าจะใช้เวทย์ได้เลเวลสูงกว่าเธอ
แถมธาตุก็ยังข่มกันอีก แต่มันดันเลือกใช้วิชาผิด
วิชานี้มันยังมีจุดอ่อนตรงที่ว่าทั้งร่างจะมีจุดจุดหนึ่งที่ปรานคุ้มกันด้อย
กว่าจุดอื่น เรียกว่าเป็นจุดตายก็ว่าได้ ขอแค่เพียงเธอหามันเจอ
เธอก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้
ว่าแล้วพริสสาวก็พุ่งเข้าหาเจ้าแวมไพร์ร่างยักษ์นั่น
พร้อมกับถีบเข้าที่ยอดอกมันอย่างจัง
แต่เจ้าแวมไพร์กลับไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด
"อีโง่ ! ต่อให้มึงเตะแรงแค่ไหนเวทย์ข้าก็กันได้โว้ยยยยยย"
เจ้าเบลลิคตะโกนใส่อย่างสะใจ
ก่อนที่มันจะปล่อยหมัดสวนกลับไป
และทันทีที่หมัดของมันกระทบเป้าหมาย
ก็เกิดเสียงดัง ตูมมมมม ดังสนั่นหวันไหวไปทั่ว
"วิเวียนนนน" นายอาร์ตตะโกนดังลั่น
แรงหมัดของเจ้าเบลลิคทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว
มันก็เลยไม่เห็นว่าหญิงสาวเป็นตายร้ายดียังไง
แต่เมื่อฝุ่นจางลงเขาก็ยิ้มออก
เมื่อเห็นหญิงสาวพลิกตัวหลบหมัดของเจ้าแวมไพร์ได้อย่างหวุดหวิด
แต่มันก็ยังวาสงใจไม่ได้
เพราะหมัดของเจ้าแวมไพร์รุนแรงมาก
ขนาดผิวคอนกรีตยังโดนต่อยจนยุบลงไปได้
ถ้าโดนเข้าจังๆนี่ไม่ตายก็ต้องกระดูกป่นไม่เหลือแน่ๆ
"หลบเก่งนักน่ะมึง" เจ้าเบลลิคกัดฟันกรอดด้วยความโมโห
พร้อมกับพุ่งเข้าใส่วิเวียนอีกครั้ง
หมัดเท้าของมันตรงเข้าประเคนใส่วิเวียนไม่หยุด
แต่ก็เปล่าประโยชน์ หมัดของมันแม้จะรุนแรงแต่ก็เชื่องช้า
พรีสสาวที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วจึงสามารถพลิกตัวหลบหลีก
ได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับเตะสวนเข้าสามจุดเน้นๆ
ทั้งกกหู ลิ้นปี่ และชายโครง