Your Wishlist

ดินแดนมหัศจรรย์ (ดินแดนมหัศจรรย์)

Author: xxx555

เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland

จำนวนตอน :

ดินแดนมหัศจรรย์

  • 04/08/2568

คุกอินเฟอร์โน !! ประวัติของคุกแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดย

เหล่าวอร์ริเออร์เมื่อนานมาแล้ว

 ที่จริงการเรียกว่าคุกอาจจะฟังดูไพเราะเกินไปด้วยซ้ำ

 

 เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่วิกลจริตที่บ้าคลั่ง

 ภายในนั้นมีแต่การทรมานที่โหดร้าย

 เป็นนรกที่อำมหิตกว่านรกภูมิของจริงเสียด้วยซ้ำ

 

 แต่ถึงแม้เครื่องมือลงทัณฑ์จะโหดร้ายแค่ไหน

 แต่กลับยังไม่มีใครต้องเสียชีวิต

เพราะเครื่องมือเหล่านั้นเลย

 

 เพราะว่านักโทษคนไหนที่ได้รับ

การทรมานจนใกล้ถึงแก่ความตาย

 

 นักโทษเหล่านั้นจะถูกส่งไปรักษาโดยแพทย์ฝีมือดี

 ให้มีชีวิตรอดกลับมารับการทรมานชั่วกัปชั่วกัลป์

 

เกียรติศัพท์ขนาดนี้ แน่นอนว่าเวโรนิก้าเองก็ต้องเคยรู้จัก

 แล้วเช่นนี้เธอควรทำเช่นไร 

เธอควรยอมตายให้พวกมันดูดพลังมาน่า

 หรือจะยอมฝืนทนเพื่อไปเจอนรกที่นั่น

 

 แต่ไม่ว่าทางไหนปลายทางที่รอเธออยู่

ก็ไม่มีแสงสว่างสำหรับเธอเลย

 แวมไพร์สาวครุ่นคิดไปมาพร้อมกับ

ความเหนื่อยล้าที่ค่อยๆเข้ามาเกาะกุม

 

 ดวงตาสองข้างของเธอก็ค่อยๆปิดลงช้าๆ 'นั่นสินะ

 ยอมตายซะตอนนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีแล้ว'

 

 

แต่เธอจะตายไม่ได้ !!

 

 

เวโรนิก้ากัดกระพุ้งแก้มอย่างแรงเพื่อเรียกสติกลับมา

 จนเลือดไหลกลบปาก

 ก่อนจะพ่นก้อนเลือดเหล่านั้นเข้าใส่เจ้าพาลาดินตรงหน้า

 

 

 ซึ่งมันก็ตอบโต้เธอโดยการฟาดฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าเธอไม่ยั้ง

 ก่อนจะหันไปซอยท่อนเอวเข้าออกอย่างหนัก

 

ราวกับจะให้เธอตายคาควย ซึ่งเธอก็ไม่ยอมแพ้

 ทั้งแอ่นหีขมิบรัดอย่างเต็มที่

 จนในที่สุดเจ้าพาลาดินก็ต้องยอมแพ้ระเบิดน้ำกามออกมา

 

แต่เกมส์กามก็ยังไม่จบ 

เพราะทั้งหมดเป็นแค่การเย็ดแค่รอบแรก

 !! ทันทีที่เจ้าเบิร์นถอนควยออก

 

 เจ้าสโตนเฮดที่ได้พักพื้นร่างกายอย่างเต็มอิ่ม

ก็เข้ามาเย็ดเธอเป็นรอบที่สอง

 ในขณะที่เหล่าพาลาดินคนอื่นก็ต่างพักฟื้นเก็บแรง

 

 เพื่อรอเวลามาเย็ดเธอต่อเช่นกัน 

เกมส์กามระหว่างพาลาดิน 4 คน

 

 กับแวมไพร์สาวที่ไม่มีโอกาสได้พักเลยแม้แต่วินาทีเดียว

 จะจบลงเช่นไรนั้น ดูท่าคงยังไม่ได้คำตอบเป็นแน่

 

ดึกแล้ว .... แต่นายอาร์ตเองก็ยังไม่อาจข่มตาหลับได้

 เขาจึงต้องลุกออกไปที่ชานระเบียงเพื่อชมท้องฟ้ายามค่ำคืน

 นาฬิกาบนข้อมือของเขาบ่งบอกเวลาเที่ยงคืนพอดี

 

 ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าห้วงเวลาบนโลกกับที่นี่จะเลื่อมล้ำกันเท่าใด

 แต่ดูจากท้องฟ้าที่มืดสนิท 

ท่าทางห้วงเวลาคงไม่เลื่อมกันหนัก 

แต่ถึงท้องฟ้าจะมืดมิดเพียงใด

 

 พระจันทร์ดวงโตก็ยังสาดแสงให้ความสว่างไสว

ให้กับเมืองทั้งเมืองอยู่เสมอ 

จะว่าไปที่โลกกับ wonderland นี้

ก็แทบไม่มีอะไรจะแตกต่างกันเลย

 

แถมศิลปกรรมของที่นี่

 ดูไปแล้วก็ช่างคล้ายศิลปะแบบโกธิค

ในยุคกลางของโลกไม่น้อย

 ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน 

 

หรือแม้แต่เสื้อผ้าการแต่งกายของผู้คน 

อย่างห้องที่รับรองเขาก็เช่นกัน

 ของตกแต่งภายใน เครื่องใช้ รวมไปถึงเตียงนอน

 

 ก็ยังแผงศิลปะโกธิคนี้อยู่เช่นกัน 

จะว่าไปศิลปะแบบนี้ก็เหมาะไม่น้อย

 

 กับโลกแห่งเวทย์มนต์เช่นนี้ แต่ไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรต่อ

 ห้องรับรองของเขาก็มีคนเปิดประตูเข้ามา

 

"นึกว่าหลับไปแล้วซะอีก" 

วิเวียนยิ้มหวานก่อนจะปิดประตูลง

 "อาร์ตแต่งตัวแบบนี้ก็หล่อดีน่ะเนี่ย"

 

ชายหนุ่มยิ้มรับอารมณ์ขันของหญิงสาว

 สภาพของเขาในตอนนี้

ไม่น่าจะใช้คำว่าแต่งตัวได้เลย

 

 เพราะตัวเขานั้นอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า

 มีเพียงผ้าผืนยาวที่พันรอบเอวพอปิดของสงวน

 แถมใช่จะแน่นหนา 

 

เพราะแค่กระตุกเบาๆก็หลุดไปกองได้แล้ว

 วัฒนธรรมของที่นี่ก็แปลกดี

 

 เพราะเวลานอนผู้คนจะแทบไม่ใส่อะไรเลย

 แถมพร้อมจะสลัดผ้าเพื่อเย็ดตลอดเวลาอีกต่างหาก

 

และเขามองกลับไปที่หญิงสาว

 ก็พบว่าตอนนี้เธออยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีขาว

 กับกระโปรงสั้นลายลูกไม้ที่บานสะพรั่ง

 

 รับกับรองเท้าบูทยาวสีขาวล้วน

 ส่วนมือของเธอก็สวมถุงมือยาวถึงข้อศอก

 แต่ที่โดดเด่นก็คือเนื้อผ้า ที่มันช่างบางเบาซะเหลือเกิน

 

 

 จนแทบจะเห็นเรือนร่างที่ซ่อนไว้ข้างใน นี่น่ะเหรอชุดพรีสสาว

 

 ช่างแตกต่างจากที่เขาเคยจินตนาการไว้ซะอีก

 ที่เขาจินตนาการว่าน่าจะเหมือนชุดแม่ชีในโบสถ์

 แต่พอเอาเข้าจริงดูแล้วเหมือนชุดเจ้าสาวมากกว่า

 

"ไปรายงานผลมาเป็นยังไงบ้าง" ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น

 

 เพราะการที่หญิงสาวอยู่ในชุดพรีสเต็มตัวเช่นนี้

 ก็เพราะเธอต้องเข้าพบกับผู้นำทั้ง 3 ของเหล่าพรีส

 เพื่อแจ้งข้อมูลที่ได้มาจากความทรงจำของแวมไพร์ลินคอร์น

 

"เรียบร้อย" วิเวียนส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม

 ก่อนที่เธอจะเงียบไป เงียบไปนานจนผิดสังเกตเช่นนี้

 

 ชายหนุ่มจึงไม่ถามอะไรเธอต่อ

 เขาทำเพียงเดิมเข้าไปโอบเธอจากด้านหลัง

เพื่อหวังว่าอ้อมกอดของเขา จะทำให้เธอผ่อนคลายลง

 

"วิเวียนว่าเรื่องนี้วิเวียนควรบอกอาร์ต"

 หญิงสาวเอ่ยขึ้นก่อนจะพลิกกายมาสบตาเขา 

"เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอาร์ตโดยตรง"

 

"เกี่ยวกับผมเหรอ ?" ชายหนุ่มเอ่ยทวนอย่างแปลกใจ

 ก่อนที่จะนั่งลงเพื่อรับฟังเรื่องราวจากเธอ

 เรื่องของอาลูคาร์ด

 

ที่มาของเรื่องราวทั้งหมดนั้น

 ต้องเกริ่นย้อนกลับไปถึงเรื่องราวของเหล่าแวมไพร์

 แวมไพร์ในปัจจุบันนั้นประกอบไปด้วย 3 เผ่าใหญ่ด้วยกัน

 

 เผ่าแรกเป็นแวมไพร์ตอนเหนือ

ที่อาศัยอยู่ในหุบเขาที่หนาวเหน็บทั้งปี 

เผ่านอร์ทตราเซีย 

 

เผ่าที่สองเป็นเผ่าที่อาศัยในที่ราบตอนกลาง

 เผ่ามิดแลนด์แห่งเลอเซอโร่

 และเผ่าสุดท้ายเป็นเผ่าที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะทางใต้ เผ่าเซาท์เอน

 

ทั้ง 3 เผ่านี้แม้ว่าเผ่ามิดแลนด์จะเป็นเผ่าสืบเชื้อสายตรง

มาจากบริวารแห่งอาลูคา ร์ด

 แต่ก็กลับเป็นเผ่าที่อ่อนแอที่สุด

 

 อาจจะเนื่องด้วยเผ่านี้มีวิทยาการ

ด้านเวทย์มนต์ด้อยกว่าอีกสองเผ่าที่เหลือ

 หรือไหนจะแวมไพร์ชั้นราชาที่มีเพียง 2 ตน

 

 

อันได้แก่เลอเซอโร่และบุตรชาย

 ทำให้ผู้นำอย่างเลอเซอโร่ร้อนรนเป็นอย่างมาก

 เพราะตัวมันเองก็เริ่มมีอายุใกล้ครบ 300 ปี

 ซึ่งเป็นอายุขัยโดยเฉลี่ยของเหล่าแวมไพร์

 

แต่แล้วก็เหมือนฟ้าเข้าข้าง

 เพราะอยู่มาวันหนึ่งคนของเลอเซอโร่

ก็พบแท่นหินโบราณที่จารึกคัมภีร์ประหลาด 

 

คัมภีร์ที่ว่าถึงวิชาธาตุที่ 8 

ที่อยู่นอกเหนือจากสาระบบโลกธาตุ 

ธาตุที่ 8 ที่ไม่ใช่ทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ 

สายฟ้า ความมืด และแสงสว่าง

 ธาตุที่ 8 ที่เป็นธาตุต้องห้ามและถูกลบหายไป

จากประวัติศาสตร์ ธาตุที่ 8 ธาตุวิญญาณ

 

ธาตุวิญญาณนี้แม้ไม่มีทั้งเวทย์โจมตีหรือป้องกัน

 แต่ก็กลับมีเวทย์มนต์ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า 

นั่นก็คือเวทย์คืนชีพ ที่สามารถชุบชีวิต

 

ผู้ที่ตายไปแล้วให้กลับมาได้ทุกคน เมื่อรู้เช่นนั้น

 เลอเซอโร่ก็เรียกระดมพลเหล่าแวมไพร์

นักปราชญ์ที่มีในเผ่าทุกคนเข้ามาศึกษา และตรวจสอบ

 

 จนเมื่อแน่ใจแล้วว่าแผ่นศิลานี้เป็นของจริง

 เลอเซอโร่ก็สังการให้ดำเนินตามที่จารึกไว้ทันที

 โดยมีจุดมุ่งหมายก็คือคืนชีพ จักรพรรดิ์แวมไพร์ อาลูคาร์ด

 

แต่แล้วในขั้นตอนสุดท้ายของการคืนชีพ

 เลอเซอโร่ก็กลับทำในสิ่งที่ไม่มีใครเข้าใจ

 แม้แต่แวมไพร์คนสนิทอย่างลินคอร์นก็ตาม

 

 เพราะในขั้นตอนสุดท้าย 

จะต้องใช้ร่างของหญิงสาวรองรับในการคืนชีพ

 ซึ่งเหล่าแวมไพร์ก็คัดเลือกแวมไพร์สาวที่เหมาะสมเอาไว้แล้ว

 

 แต่เลอเซอโร่กลับมีคำสั่งให้ใช้หญิงสาวชาวมนุษย์แทน

 สิ่งนี้ไม่มีใครเข้าใจเลอเซอโร่ได้เลย

 เพราะการที่อาลูคาร์ดจะคืนชีพขึ้นมาเป็นเผ่าไหน

 

 มันขึ้นอยู่กับครรภ์ของมารดา ถ้าใช้มารดาเป็นมนุษย์

 อาลูคาร์ดมิต้องถือกำเนิดมาเป็นมนุษย์อย่างนั้นเหรอ

 แต่เมื่อมันเป็นคำสั่งของราชาแวมไพร์ จึงไม่มีใครขัดได้

 

 และเพราะต้องไปลักพาตัวหญิงสาวชาวมนุษย์มานี่เอง 

ทำให้ข่าวรั่วไหล จนสุดท้ายการคืนชีพ

ของอาลูคาร์ดจึงโดนยับยั้ง ในที่สุด

 

"สรุปแล้ว .... ผมก็คืออาลูคาร์คจริงๆใช่ไหม"

 

 นายอาร์ตเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะก้มหน้าลง

 ที่จริงจากการที่เขาพบร่างของคนแปลกหน้าในห้วงจิตใต้สำนึก

 เขาก็พอเดาได้แล้ว ว่านั่นคืออาลูคาร์ด

 

 และเขาก็คงเป็นร่างอวตารของจอมปีศาจนั้นจริงๆ

 แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เขาไม่อาจจะยอมรับได้

 และภาวนาให้มันอย่าได้เกิดขึ้นจริง

 

"อาร์ตยังไม่ได้เป็นอาร์ลูคาร์ดหรอก" วิเวียนบีบมือชายหนุ่มเบาๆ

 

"เวทย์คืนชีพจะประกอบด้วย 2 บท

 นั่นก็คือปลุกชีพกับปลุกวิญญาณ

 ที่เจ้าพวกแวมไพร์ทำมันแค่การปลุกชีพเท่านั้น

 ตราบใดที่มันยังไม่ได้ตัวอาร์ตไปทำพิธีในบทที่เหลือ

 อาร์ตก็ยังเป็นอาร์ตอยู่เสมอ"

 

"ดังนั้นอาร์ตอยู่ที่นี่น่ะ ...... ที่นี่คือเมืองแซงจูรี่ย์

 เป็นเมืองแห่งพรีส ที่นี่จะไม่มีแวมไพร์ตนไหนเล็ดลอดเข้ามาได้

 ถ้าอยู่ด้วยกันที่นี่ อาร์ตจะปลอดภัย"

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป