เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
จนฝูงสัตว์เหล่านั้นต่างก็วิ่งหนีตายกันอย่างอลม่าน
และท่ามกลางพายุร้ายเหล่านั้น
ก็บังเกิดแสงสีฟ้าสว่างจ้าขึ้นบนท้องฟ้า
ก่อนที่แสงนี้จะส่งร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งตกลงมาสู่พื้น
"โอยยยย" วิเวียนนั่นเอง
เธอร้องออกมาเล็กน้อยเมื่อทันที
ที่เธอตกลงมาจากฟ้า
ก่อนที่เธอจะค่อยๆยันกายขึ้น
พร้อมกับหันไปสำรวจรอบด้าน
ตอนนี้ท้องฟ้าที่มืดครื้มพลันสดใสขึ้นมาแล้ว
สายลมที่โหมกระหน่ำเมื่อครู่
ที่เหลือเพียงสายลมที่พัดเอื่อย
ทำให้เธอในตอนนี้สามารถสำรวจทิวทัศน์รอบด้านได้ถนัดตา ........
ทิวทัศน์ที่นี่ช่างคุ้นตาเหลือเกิน
ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ป่าเขา บรรยากาศ และยิ่งกว่านั้น
เมื่อเธอแหงนหน้ามองท้องฟ้า
มันก็ยิ่งทำให้เธอจำได้แม่น
"ที่นี่มัน wonderland !!!"
วิเวียนเอ่ยร้องอย่างไม่เชื่อสายตา
เธอไม่เข้าใจเลยว่าเธอกลับมาที่นี่ได้ยังไงกัน
แต่เรื่องนั้นยังไม่ใช่เรื่องสำคัญ
เพราะเรื่องที่สำคัญก็คือต้องรีบหาตัวนายอาร์ตให้เจอก่อน
เมื่อเป็นอย่างนั้นเธอจึงใช้เวทย์เชื่อมจิตทันที
"พันธนาการแห่งความมืด !!"
แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ขยับตัว
พรีสสาวก็โดนเล่นงานทันที
เชือกเงาจำนวนมาก็พุ่งขึ้นมารัดเธอจากด้านหลัง
ก่อนจะฉุดร่างเธอให้ล้มลงนอนหงายกับพื้น
โดยที่เธอไม่อาจขัดขืนได้เลย
และทันทีที่เวทย์สัมฤทธิ์ผล
ผู้ร่างเวทย์อย่างลินคอร์นก็ก้าวออกมาพร้อมกับดาบในมือ
พร้อมกับเอ่ยเสียงเหี้ยม
"มาสานต่อให้จบดีกว่าอีหนู !!"
ปัง ! ปัง ! ปัง ! ปัง !
ห่างออกไปในเวลาเดียวกัน ที่ตอนนี้เงาร่างสองสายกำลังไล่ล่ากันตามแนวป่า
ผู้ล่าก็คือพาลาดิแห่งน้ำที่ตอนนี้
กำลังสาดกระสุนเวทย์เข้าใส่เป้าหมายตรงหน้าอย่างสนุกมือ
กระสุนเวทย์ที่มีอานุภาพการแช่แข็งสูง
ขนาดที่ว่าไม่ว่าอะไรถูกกระสุนนี้
เข้าไปจะโดนแช่แข็งทันที
แถมระดับของมันก็เท่ากับเลเวล 9 ทำให้ผู้ถูกล่า
อย่างแวมไพร์สาวเวโรนิก้า
ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย
ได้แต่อาศัยหลบหลีกตามแนวป่า
เพื่อให้เงาไม้ช่วยกำบังให้เธอได้พอมีเวลาหายใจ
"ป่าแถบนี้มันอยู่ในเขตแดนของมนุษย์นี่ บ้าเอ๊ยยยยย !!"
เวโรนิก้าได้แต่สบถในใจ
แท้จริงแล้วที่เครื่องข้ามมิติสามารถใช้ส่งคน
ไปมาระหว่างโลกกับ wonderland ได้นั้น
เป็นเพราะพลังงานสีฟ้าที่บรรจุภายใน
ที่ฝ่ายแวมไพร์พัฒนาขึ้นมาต่างหาก
วิธีการใช้ก็แค่เดินผ่านแสงก็สามารถข้ามมิติได้แล้ว
โดยที่ตัวเครื่องข้ามมิติจะทำหน้าที่เก็บสะสมพลังแสงนั่นไว้
อีกทั้งยังเป็นตัวนำร่องเพื่อกำหนด
ให้ผู้ที่ข้ามมิติไปปรากฏตัวที่ใด
แต่เพราะเบิร์นทำลายตัวเครื่องทิ้ง
ทำให้พลังงานรั่วไหลออกมา
จนส่งทุกคนกลับมาที่ wonderland กันหมด
แล้วก็เพราะเครื่องโดนทำลายเช่นกัน
จึงทำให้ระบบนำร่องเสียหาย
การกลับมา wonderland จึงกลายเป็นโผล่แบบสุ่ม
แล้วแต่ว่าจะโผล่มายังที่ไหน
แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่โผล่มาที่ไหน
แต่เป็นโผล่มากับใครต่างหาก !!
อย่างเวโรนิก้าที่โผล่มาพร้อมกับเหล่าพาลาดินทั้ง 5
เธอจึงต้องหนีการไล่ล่าของพวกมันอย่างหัวซุกหัวซุน
"อยู่นั่นเองเหรอนังกระหรี่ !!"
ไอซ์เอจตระโกนลั่นก่อนจะกราดยิงเข้าที่ต้นไม้ที่เธอซ่อนตัวทันที
ทำให้แวมไพร์สาวต้องพุ่งทะยานหนีอีกรอบ
จนเธอสามารถสลัดมันหลุด
ออกมาพ้นแนวป่าที่อยู่ด้านนอก
แต่เมื่อพ้นแนวป่ามาได้ เธอก็ต้องเจอปัญหาใหญ่
เพราะด้านหน้าของเธอ
เจ้าสโตนเฮดกระโจนทะยานจากที่ซ่อน
เข้ามาดักหน้าเธอไว้ในทันที
ครั้นเธอถอยหลังหลบทะยานหนีไปอีกทาง
เจ้าพาลาดินสายฟ้าก็ปรากฏตัวออกมาเช่นกัน
พร้อมกันนี้มันก็กางแขนออกทั้งสองข้าง
เพียงเท่านี้ก็ปิดทางหนีของเธอได้หมดสิ้น
"อ้อ .... ที่เจ้าพาลาดินธาตุน้ำนั่นทำ
ก็คือไล่ต้อนเรามาจนมุมที่นี่เองหรอกเหรอ"
เวโรนิก้าเอ่ยขึ้นในใจ พร้อมกับพยามมองหาลู่ทาง
ที่จะหลุดพ้นจากวงล้อมของเจ้าพาลาดินทั้งสองนี้ให้ได้
แต่ไม่ทันที่เธอจะคิดอะไรต่อ
เสียงของเจ้าพาลาดินสายฟ้า ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"เจ้านี่โชคดีไม่น้อยนะ นังแวมไพร์"
โวลต์เอ่ยขึ้นพร้อมกับร่ายเวทย์ประจำตัว
จนตอนนี้สองมือของมันมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนวูบวาบ
"เบิร์นต้องการให้จับเจ้าเป็นๆ ไม่งั้นเจ้าได้ตายไปนานแล้ว"
เวโรนิก้าเพ่งมองพาลาดินแห่งสายฟ้าผู้นี้
ราวกับติดใจอะไรบางอย่าง
นั่นก็เพราะกระแสพลังธาตุที่ถูกเขาชักนำ
ลงถุงมือนั้นเบาบางกว่าที่ควรจะเป็น
ราวกับว่านี่ไม่ใช่เวทย์ระดับเลเวล 9
และเมื่อเธออ่านกระแสพลังธาตุไปสักพัก
เธอก็รู้ว่าพาลาดินผู้นี้ใช้เวทย์ มือประทับอัสนีบาตร
แต่ลดระดับลงเหลือแค่เลเวล 6 เท่านั้น
นั่นอาจจะเป็นเพราะคำสั่งให้จับเป็นตัวเธอ
แต่การที่จะใช้เวทย์ระดับ 6 มาจับตัวเธอนั้น
คงเป็นเรื่องยากสักหน่อยน่ะ
"แขนคู่ม้วนพายุ"
เวโรนิก้าร่ายเวทย์ลมเพื่อรับมือ
ทันทีที่เธอร่ายเสร็จพลังธาตุลม
ที่อยู่รอบด้านก็โดนดึงดูดเข้าหา
ก่อนที่พลังธาตุเหล่านั้นจะพัดวนรอบแขน
ไล่ตั้งแต่หมัดจนไปถึงข้อศอก
และพัดแรงขึ้นจนเห็นเป็นลมหมุนได้อย่างชัดเจน
จนตอนนี้ดูเหมือนกับว่า มีลมทอร์นาโดขนาดเล็ก
หมุนวนครอบแขนของเธอทั้งสองข้าง
"ใช้เวทย์ลมรับมือเหรอ ไม่เลวนี่
แต่ถึงมันจะกันพลังสายฟ้าของข้าได้
แต่สิ่งที่ร้ายกาจที่สุดของข้า
มันคือเพลงฝ่ามือต่างหาก !!"
สิ้นเสียงประกาศ เจ้าพาลาดินแห่งสายฟ้า
ก็ฟาดฝ่ามือใส่เวโรนิก้าทันที
ซึ่งเธอเองก็รอตั้งรับอยู่แล้ว
ฝ่ามือที่มันฟาดลงมาจึงโดนแขนลมพายุป้องกันในทันที
ประกายสายฟ้าในฝ่ามือเมื่อเจอลมหมุน
ที่อยู่รอบแขนนั้นก็โดนพัดสลายไปจนหมด
เรียกได้ว่าเวทย์นี้แพ้ทางกันอย่างชัดเจน
แต่แม้ฝ่ามือแรกจะโดนสกัด
เจ้าพาลาดินสายฟ้าก็ระดมกระบวนท่าเพลงฝ่ามือเข้าใส่เป็นชุด
แต่แวมไพร์สาวก็ใช้ท่อนแขนปัดป้องได้หมด
ก่อนที่ทั้งคู่จะดีดร่างออกจากกัน
"มือตกแล้วนี่หว่าโวลต์ ไม่โดนเลยสักที
อย่าบอกน่ะว่าแกจะมาแพ้แวมไพร์แค่ชั้นแม่ทัพน่ะ"
สโตนเฮดที่ดูอยู่ด้านข้างกล่าวเย้ย
เมื่อเจ้าพาลาดินแห่งสายฟ้าถูกเย้ยเช่นนั้น
ก็ออกอากาศเกี้ยวกราดขึ้นมาทันที
มันรวบรวมพลังเข้าที่ฝ่ามืออีกครั้งพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ทันที
แต่คราวนี้เพลงฝ่ามือของมันหนักหน่วงกว่าเดิม
อีกทั้งก็เร็วขึ้นมาก ทำให้แวมไพร์สาวเริ่มออกอาการไม่สู้ดี
แม้เวทย์ของเธอจะป้องกันพลังสายฟ้าได้หมด
แต่ฝ่ามือที่หนักหน่วงรุนแรง
ก็ซัดไล่ต้อนเธอไปทุกขณะ
จนร่างของเธอเริ่มเสียสมดุลจนต้องโดนเอียงไปตามแรงหมัด
นี่คงเป็นความต่างระหว่างพาลาดินระดับสูง
กับแวมไพร์ที่อยู่แค่ระดับแม่ทัพ
ที่เมื่อโดนลุกไล่อย่างหนัก
ชั้นเชิงในการต่อสู้ก็จะแสดงความห่างออกมาชัดเจน
และเมื่อโวลต์เห็นแวมไพร์สาวตรงหน้า
เริ่มออกอาการต้านไม่ไหว มันก็ยิ้มออกมาอย่างเหี้ยมเกรียม
มันรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ฝ่ามือขวา
ก่อนจะซัดเปรี้ยงใส่ร่างแวมไพร์สาวตรงหน้าเพื่อทำการปิดเกมส์ !!
แต่ก่อนที่ฝ่ามือสายฟ้าจะซัดเข้าถึงตัวเวโรนิก้า
ข้อมือของมันก็ถูกเวโรนิก้าซัดเปรี้ยงด้วยท่อนแขนขวา
ทำให้ทิศทางฝ่ามือถูกเบี่ยงออกเล็กน้อย
จนเฉียดหน้าแวมไพรสาวออกไป
และทันทีที่ฝ่ามือนี้พลาด
ช่องโหว่วจุดใหญ่บนสีข้างของเจ้าพาลาดิน
ก็เปิดออกอย่างชัดเจน
และแวมไพร์สาวก็ไม่พลาดโอกาสนี้
เธอฮุคซ้ายเข้าไปเต็มเปา
แรงหมัดที่ประสานกลับแรงลมหมุนนั้น
ส่งพลังทำลายเข้าใส่เจ้าพาลาดินเต็มแรง
ส่งผลให้มันทรุดลงในหมัดเดียว
ทั้งหมดนี้เป็นแผนของเวโรนิก้านี่เอง
เธอใช้ประโยชน์จากที่โวลต์เป็นคนทระนงตนว่าเป็นพาลาดิน
ใช้ประโยชน์จากที่เขาดูถูกเธอว่าเป็นแค่แวมไพร์ชั้นแม่ทัพ
ใช้ประโยชน์จากที่เขากำลังได้ใจเมื่อเห็นเธอกำลังออกอาการ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อล่อให้พาลาดินตรงหน้าประมาท
จนเผลอใช้ท่าที่ไม่รัดกุมพอ
ทำให้เธอสามารถพลิกสถานการณ์
จัดการพาลาดินตรงหน้าได้นั่นเอง
แต่งานเธอก็ยังไม่จบ เพราะยังเหลือพาลาดินอีกหนึ่งที่ยืนอยู่
แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างกันก็คือ
เจ้าสโตนเฮดกลับเลือกใช้
พลังสูงสุดในระดับเลเวล 9 โดยไม่มีกั๊ก
"ข้าน่ะเกลียดแวมไพร์ !!" สโตนเฮดเอ่ยดังลั่น
"และแวมไพร์ที่ข้าเกลียดที่สุดก็คือพวกแวมไพร์ตีตรา !!
เป็นมนุษย์ดีอยู่แล้ว
กับคิดคดทรยศเผ่าพันธุ์ตัวเองไปเข้ากับแวมไพร์ .........
คำสั่งไอ้เบิร์นจะเป็นยังไงก็ช่าง
แต่สำหรับข้าถ้ามีโอกาสได้ฆ่าแวมไพร์ตีตราอย่างพวกแก
ข้าก็ไม่ออมมือหรอกเว้ยยยยยยย"