Your Wishlist

ดินแดนมหัศจรรย์ (ดินแดนมหัศจรรย์)

Author: xxx555

เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland

จำนวนตอน :

ดินแดนมหัศจรรย์

  • 04/08/2568

จนฝูงสัตว์เหล่านั้นต่างก็วิ่งหนีตายกันอย่างอลม่าน

 และท่ามกลางพายุร้ายเหล่านั้น 

ก็บังเกิดแสงสีฟ้าสว่างจ้าขึ้นบนท้องฟ้า

 

 

 ก่อนที่แสงนี้จะส่งร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งตกลงมาสู่พื้น

 

"โอยยยย" วิเวียนนั่นเอง

 เธอร้องออกมาเล็กน้อยเมื่อทันที

ที่เธอตกลงมาจากฟ้า

 

 ก่อนที่เธอจะค่อยๆยันกายขึ้น

พร้อมกับหันไปสำรวจรอบด้าน

 ตอนนี้ท้องฟ้าที่มืดครื้มพลันสดใสขึ้นมาแล้ว

 

 สายลมที่โหมกระหน่ำเมื่อครู่

ที่เหลือเพียงสายลมที่พัดเอื่อย

 ทำให้เธอในตอนนี้สามารถสำรวจทิวทัศน์รอบด้านได้ถนัดตา ........

 

 ทิวทัศน์ที่นี่ช่างคุ้นตาเหลือเกิน

 ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ป่าเขา บรรยากาศ และยิ่งกว่านั้น

 

 เมื่อเธอแหงนหน้ามองท้องฟ้า 

มันก็ยิ่งทำให้เธอจำได้แม่น

 

"ที่นี่มัน wonderland !!!"

 วิเวียนเอ่ยร้องอย่างไม่เชื่อสายตา

 เธอไม่เข้าใจเลยว่าเธอกลับมาที่นี่ได้ยังไงกัน

 

 

 แต่เรื่องนั้นยังไม่ใช่เรื่องสำคัญ

 เพราะเรื่องที่สำคัญก็คือต้องรีบหาตัวนายอาร์ตให้เจอก่อน

 เมื่อเป็นอย่างนั้นเธอจึงใช้เวทย์เชื่อมจิตทันที

 

"พันธนาการแห่งความมืด !!"

 

แต่ไม่ทันที่เธอจะได้ขยับตัว

 พรีสสาวก็โดนเล่นงานทันที

 เชือกเงาจำนวนมาก็พุ่งขึ้นมารัดเธอจากด้านหลัง

 

 ก่อนจะฉุดร่างเธอให้ล้มลงนอนหงายกับพื้น

โดยที่เธอไม่อาจขัดขืนได้เลย

 และทันทีที่เวทย์สัมฤทธิ์ผล

 

 ผู้ร่างเวทย์อย่างลินคอร์นก็ก้าวออกมาพร้อมกับดาบในมือ

 พร้อมกับเอ่ยเสียงเหี้ยม

 

"มาสานต่อให้จบดีกว่าอีหนู !!"

 

 

ปัง ! ปัง ! ปัง ! ปัง ! 

 

ห่างออกไปในเวลาเดียวกัน ที่ตอนนี้เงาร่างสองสายกำลังไล่ล่ากันตามแนวป่า

 ผู้ล่าก็คือพาลาดิแห่งน้ำที่ตอนนี้

กำลังสาดกระสุนเวทย์เข้าใส่เป้าหมายตรงหน้าอย่างสนุกมือ

 

 กระสุนเวทย์ที่มีอานุภาพการแช่แข็งสูง

 ขนาดที่ว่าไม่ว่าอะไรถูกกระสุนนี้

 

เข้าไปจะโดนแช่แข็งทันที 

แถมระดับของมันก็เท่ากับเลเวล 9 ทำให้ผู้ถูกล่า

 อย่างแวมไพร์สาวเวโรนิก้า

 

 ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย

ได้แต่อาศัยหลบหลีกตามแนวป่า

 เพื่อให้เงาไม้ช่วยกำบังให้เธอได้พอมีเวลาหายใจ

 

 "ป่าแถบนี้มันอยู่ในเขตแดนของมนุษย์นี่ บ้าเอ๊ยยยยย !!"

 เวโรนิก้าได้แต่สบถในใจ

 

แท้จริงแล้วที่เครื่องข้ามมิติสามารถใช้ส่งคน

ไปมาระหว่างโลกกับ wonderland ได้นั้น

 

 เป็นเพราะพลังงานสีฟ้าที่บรรจุภายใน

ที่ฝ่ายแวมไพร์พัฒนาขึ้นมาต่างหาก

 วิธีการใช้ก็แค่เดินผ่านแสงก็สามารถข้ามมิติได้แล้ว

 

 โดยที่ตัวเครื่องข้ามมิติจะทำหน้าที่เก็บสะสมพลังแสงนั่นไว้

 อีกทั้งยังเป็นตัวนำร่องเพื่อกำหนด

ให้ผู้ที่ข้ามมิติไปปรากฏตัวที่ใด

 

 แต่เพราะเบิร์นทำลายตัวเครื่องทิ้ง 

ทำให้พลังงานรั่วไหลออกมา 

จนส่งทุกคนกลับมาที่ wonderland กันหมด

 

 แล้วก็เพราะเครื่องโดนทำลายเช่นกัน 

จึงทำให้ระบบนำร่องเสียหาย 

 

การกลับมา wonderland จึงกลายเป็นโผล่แบบสุ่ม

 แล้วแต่ว่าจะโผล่มายังที่ไหน

 

แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่โผล่มาที่ไหน

 แต่เป็นโผล่มากับใครต่างหาก !!

 

 อย่างเวโรนิก้าที่โผล่มาพร้อมกับเหล่าพาลาดินทั้ง 5

 เธอจึงต้องหนีการไล่ล่าของพวกมันอย่างหัวซุกหัวซุน

 

"อยู่นั่นเองเหรอนังกระหรี่ !!"

 ไอซ์เอจตระโกนลั่นก่อนจะกราดยิงเข้าที่ต้นไม้ที่เธอซ่อนตัวทันที

 

 

 

 ทำให้แวมไพร์สาวต้องพุ่งทะยานหนีอีกรอบ 

จนเธอสามารถสลัดมันหลุด

 ออกมาพ้นแนวป่าที่อยู่ด้านนอก

 

แต่เมื่อพ้นแนวป่ามาได้ เธอก็ต้องเจอปัญหาใหญ่

 เพราะด้านหน้าของเธอ

 เจ้าสโตนเฮดกระโจนทะยานจากที่ซ่อน

 

 เข้ามาดักหน้าเธอไว้ในทันที

 ครั้นเธอถอยหลังหลบทะยานหนีไปอีกทาง

 เจ้าพาลาดินสายฟ้าก็ปรากฏตัวออกมาเช่นกัน

 

 พร้อมกันนี้มันก็กางแขนออกทั้งสองข้าง

 เพียงเท่านี้ก็ปิดทางหนีของเธอได้หมดสิ้น

 

"อ้อ .... ที่เจ้าพาลาดินธาตุน้ำนั่นทำ

 ก็คือไล่ต้อนเรามาจนมุมที่นี่เองหรอกเหรอ"

 

 เวโรนิก้าเอ่ยขึ้นในใจ พร้อมกับพยามมองหาลู่ทาง

 ที่จะหลุดพ้นจากวงล้อมของเจ้าพาลาดินทั้งสองนี้ให้ได้

 แต่ไม่ทันที่เธอจะคิดอะไรต่อ 

 

เสียงของเจ้าพาลาดินสายฟ้า ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

 

 

"เจ้านี่โชคดีไม่น้อยนะ นังแวมไพร์"

 โวลต์เอ่ยขึ้นพร้อมกับร่ายเวทย์ประจำตัว

 จนตอนนี้สองมือของมันมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนวูบวาบ 

 

"เบิร์นต้องการให้จับเจ้าเป็นๆ ไม่งั้นเจ้าได้ตายไปนานแล้ว"

 

เวโรนิก้าเพ่งมองพาลาดินแห่งสายฟ้าผู้นี้

ราวกับติดใจอะไรบางอย่าง

 

 นั่นก็เพราะกระแสพลังธาตุที่ถูกเขาชักนำ

ลงถุงมือนั้นเบาบางกว่าที่ควรจะเป็น 

ราวกับว่านี่ไม่ใช่เวทย์ระดับเลเวล 9

 

 และเมื่อเธออ่านกระแสพลังธาตุไปสักพัก

เธอก็รู้ว่าพาลาดินผู้นี้ใช้เวทย์ มือประทับอัสนีบาตร

 แต่ลดระดับลงเหลือแค่เลเวล 6 เท่านั้น

 

 นั่นอาจจะเป็นเพราะคำสั่งให้จับเป็นตัวเธอ

 แต่การที่จะใช้เวทย์ระดับ 6 มาจับตัวเธอนั้น

 คงเป็นเรื่องยากสักหน่อยน่ะ

 

"แขนคู่ม้วนพายุ"

 

 

 

เวโรนิก้าร่ายเวทย์ลมเพื่อรับมือ

 ทันทีที่เธอร่ายเสร็จพลังธาตุลม

ที่อยู่รอบด้านก็โดนดึงดูดเข้าหา

 

 ก่อนที่พลังธาตุเหล่านั้นจะพัดวนรอบแขน

 ไล่ตั้งแต่หมัดจนไปถึงข้อศอก

 

 และพัดแรงขึ้นจนเห็นเป็นลมหมุนได้อย่างชัดเจน

 จนตอนนี้ดูเหมือนกับว่า มีลมทอร์นาโดขนาดเล็ก

 หมุนวนครอบแขนของเธอทั้งสองข้าง

 

"ใช้เวทย์ลมรับมือเหรอ ไม่เลวนี่

 แต่ถึงมันจะกันพลังสายฟ้าของข้าได้ 

แต่สิ่งที่ร้ายกาจที่สุดของข้า

 มันคือเพลงฝ่ามือต่างหาก !!"

 

สิ้นเสียงประกาศ เจ้าพาลาดินแห่งสายฟ้า

ก็ฟาดฝ่ามือใส่เวโรนิก้าทันที 

ซึ่งเธอเองก็รอตั้งรับอยู่แล้ว

 

 ฝ่ามือที่มันฟาดลงมาจึงโดนแขนลมพายุป้องกันในทันที

 ประกายสายฟ้าในฝ่ามือเมื่อเจอลมหมุน

ที่อยู่รอบแขนนั้นก็โดนพัดสลายไปจนหมด

 

 

 เรียกได้ว่าเวทย์นี้แพ้ทางกันอย่างชัดเจน

 แต่แม้ฝ่ามือแรกจะโดนสกัด

 เจ้าพาลาดินสายฟ้าก็ระดมกระบวนท่าเพลงฝ่ามือเข้าใส่เป็นชุด

 

 แต่แวมไพร์สาวก็ใช้ท่อนแขนปัดป้องได้หมด

 ก่อนที่ทั้งคู่จะดีดร่างออกจากกัน

 

"มือตกแล้วนี่หว่าโวลต์ ไม่โดนเลยสักที

 อย่าบอกน่ะว่าแกจะมาแพ้แวมไพร์แค่ชั้นแม่ทัพน่ะ"

 สโตนเฮดที่ดูอยู่ด้านข้างกล่าวเย้ย

 

เมื่อเจ้าพาลาดินแห่งสายฟ้าถูกเย้ยเช่นนั้น

 ก็ออกอากาศเกี้ยวกราดขึ้นมาทันที

 มันรวบรวมพลังเข้าที่ฝ่ามืออีกครั้งพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ทันที

 

 แต่คราวนี้เพลงฝ่ามือของมันหนักหน่วงกว่าเดิม 

อีกทั้งก็เร็วขึ้นมาก ทำให้แวมไพร์สาวเริ่มออกอาการไม่สู้ดี

 แม้เวทย์ของเธอจะป้องกันพลังสายฟ้าได้หมด

 

 แต่ฝ่ามือที่หนักหน่วงรุนแรง 

ก็ซัดไล่ต้อนเธอไปทุกขณะ

 จนร่างของเธอเริ่มเสียสมดุลจนต้องโดนเอียงไปตามแรงหมัด

 

 

 

 นี่คงเป็นความต่างระหว่างพาลาดินระดับสูง

 กับแวมไพร์ที่อยู่แค่ระดับแม่ทัพ

 ที่เมื่อโดนลุกไล่อย่างหนัก

 ชั้นเชิงในการต่อสู้ก็จะแสดงความห่างออกมาชัดเจน

 

และเมื่อโวลต์เห็นแวมไพร์สาวตรงหน้า

เริ่มออกอาการต้านไม่ไหว มันก็ยิ้มออกมาอย่างเหี้ยมเกรียม

 มันรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ฝ่ามือขวา

 

 ก่อนจะซัดเปรี้ยงใส่ร่างแวมไพร์สาวตรงหน้าเพื่อทำการปิดเกมส์ !!

 

แต่ก่อนที่ฝ่ามือสายฟ้าจะซัดเข้าถึงตัวเวโรนิก้า

 ข้อมือของมันก็ถูกเวโรนิก้าซัดเปรี้ยงด้วยท่อนแขนขวา

 ทำให้ทิศทางฝ่ามือถูกเบี่ยงออกเล็กน้อย

 

จนเฉียดหน้าแวมไพรสาวออกไป

 และทันทีที่ฝ่ามือนี้พลาด

 ช่องโหว่วจุดใหญ่บนสีข้างของเจ้าพาลาดิน

ก็เปิดออกอย่างชัดเจน 

 

และแวมไพร์สาวก็ไม่พลาดโอกาสนี้

 เธอฮุคซ้ายเข้าไปเต็มเปา

 แรงหมัดที่ประสานกลับแรงลมหมุนนั้น

 

 

ส่งพลังทำลายเข้าใส่เจ้าพาลาดินเต็มแรง 

ส่งผลให้มันทรุดลงในหมัดเดียว

 

ทั้งหมดนี้เป็นแผนของเวโรนิก้านี่เอง

 เธอใช้ประโยชน์จากที่โวลต์เป็นคนทระนงตนว่าเป็นพาลาดิน

 ใช้ประโยชน์จากที่เขาดูถูกเธอว่าเป็นแค่แวมไพร์ชั้นแม่ทัพ

 

 ใช้ประโยชน์จากที่เขากำลังได้ใจเมื่อเห็นเธอกำลังออกอาการ

 ทั้งหมดนี้ก็เพื่อล่อให้พาลาดินตรงหน้าประมาท

 จนเผลอใช้ท่าที่ไม่รัดกุมพอ

 

 ทำให้เธอสามารถพลิกสถานการณ์

จัดการพาลาดินตรงหน้าได้นั่นเอง

 

แต่งานเธอก็ยังไม่จบ เพราะยังเหลือพาลาดินอีกหนึ่งที่ยืนอยู่

 แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างกันก็คือ

 เจ้าสโตนเฮดกลับเลือกใช้

พลังสูงสุดในระดับเลเวล 9 โดยไม่มีกั๊ก

 

"ข้าน่ะเกลียดแวมไพร์ !!" สโตนเฮดเอ่ยดังลั่น 

 

 

"และแวมไพร์ที่ข้าเกลียดที่สุดก็คือพวกแวมไพร์ตีตรา !!

 เป็นมนุษย์ดีอยู่แล้ว

 กับคิดคดทรยศเผ่าพันธุ์ตัวเองไปเข้ากับแวมไพร์ .........

 คำสั่งไอ้เบิร์นจะเป็นยังไงก็ช่าง

 แต่สำหรับข้าถ้ามีโอกาสได้ฆ่าแวมไพร์ตีตราอย่างพวกแก

 ข้าก็ไม่ออมมือหรอกเว้ยยยยยยย"

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป