Your Wishlist

ดินแดนมหัศจรรย์ (ดินแดนมหัศจรรย์)

Author: xxx555

เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland

จำนวนตอน :

ดินแดนมหัศจรรย์

  • 04/08/2568

วิเวียนค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ

 ก่อนที่เธอจะก้มลงมาสำรวจร่างกายตัวเอง

 ด้วยเวทย์รักษาที่เธอใช้

 

 ทำให้ตอนนี้บาดแผลที่ท้องจากการถูกแทงโดยเวโรนิก้า

 ซี่โครงที่หักไปจากการทำร้ายของเบิร์น 

ตอนนี้หายเป็นปิดทิ้งแล้ว

 

 แถมกำลังของเธอก็กลับคืนมาได้บางส่วนแล้วอีกด้วย .......

 แต่ปัญหาต่อจากนี้นี่สิ

 ตอนนี้เธอสถานการณ์ของเธอกำลังแย่เข้าไปทุกขณะ

 

 เพราะสิ่งที่เธอปรารถนาก็คือช่วยชายคนรัก

ให้กลับมาอย่างปลอดภัย

 แต่จะทำยังไงในเมื่อเขาในตอนนี้ตกอยู่ในมือของแวมไพร์

 

ที่หมายจะพาเขากลับ wonderland

 ไหนจะเหล่าพาลาดินที่ตามมาหมายจะเอาชีวิตเขาอีก

 ทำให้เธอในตอนนี้ต้องรับมือกับศึกสองด้านเลยก็ว่าได้

 

แต่ฉับพลันนั้นเอง

 เธอก็สัมผัสได้ถึงพลังมาน่ากลุ่มใหญ่

ที่มีปริมาณมากมายมหาศาล

 

 

 มหาศาลขนาดที่สามารถปลุกไฟราคะที่มีอยู่ในตัวเธอ

ให้ออกมาลุกโชน

 ร่องกลีบของเธอตอดรัดเป็นจังหวะอย่างเสียวซ่าน

 

 จนตัวเธอเองไม่อาจทนไว้

 ต้องใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางแหย่เข้าไปในร่างสวรรค์

เพื่อระบายความกำหนัดที่มีอยู่ออกมาให้หมด

 

 แต่เธอก็แหย่ร่องสวรรค์นั้นไม่ได้นาน

 เพราะแค่ครู่เดียวน้ำรักจำนวนมากของเธอก็หลั่งไหลออกมาเสียแล้ว

 เล่นเอาพรีสสาวต้องนอนฟุบหายใจแรงอย่างเหนื่อยหอบ

 

หลังจากขึ้นสวรรค์ไปหนึ่งรอบแล้ว

 พรีสสาวค่อยๆหลับตาลงเพื่อทำสมาธิ

สู้กับไฟราคะที่เกิดจากการโดนพลังมาน่าลึกลับนั่นปลุกโหม

 

 แต่แม้ว่าเธอจะเคยผ่านบทเรียนนี้มาจนเชี่ยวชาญแค่ไหน

 แต่คราวนี้มันกลับไม่ง่ายเลยเพราะพลังมาน่านี้

ที่เธอเจอมันรุนแรงกว่ามาก

 

 แต่ว่าพลังมาน่าที่รุนแรงขนาดนี้เป็นของใครกัน

 "หรือว่าเป็นของ ....." เมื่อคิดได้ดังนั่นวิเวียนจึงฝืนร่างกาย

 รีบไปยังต้นตอของพลังมาน่านั้นทันที

 

 

และไม่กี่อึดใจ พรีสสาวก็มุ่งหน้ามาถึงห้องควบคุม

 ห้องที่เป็นต้นตอพลังมาน่าลึกลับนั่น

 แต่เธอก็คาดการณ์เจ้าของพลังมาน่าที่ว่านั่นผิดไป

 

 เพราะในตอนแรกเธอกลับนึกว่าเป็นของนายอาร์ต

เหมือนที่ใช้ตอนสู้กับพวกเบลลิคเสียอีก

 แต่เจ้าของกลับเป็นแวมไพร์ร่างสูงใหญ่

 

ที่มีไอสีดำพวยพุ่งอยู่ด้านหน้า

 และจากคำบอกเล่าของไอซ์เอจ 

แวมไพร์ตอนนี้คือแวมไพร์ลินคอร์น

 

 ขุนพลไร้พ่ายที่เป็นทหารคู่ใจของราชาแวมไพร์เลอเซอโร่

 แต่ที่น่าใจยิ่งกว่าก็คือแวมไพร์ผู้นี้ เป็นผู้ที่ใช้ธาตุความมืด

 ธาตุพิเศษเช่นเดียวกับเธอ

 

แต่ถ้าเขาเป็นธาตุความมืด จะแพ้ทางธาตุแสงสว่างของเธอหรือเปล่า

 

"ลำแสงสะเก็ดดาว จงก่อร่างเป็นหอก"

 

วิเวียนร่ายเวทย์ของตัวเองทันที

 ก่อนที่เธอจะซัดหอกลำแสงเข้าใส่แวมไพร์ตรงหน้า

 แต่แล้วหอกลำแสงนั้นก็ถูกดูดกลืนเข้าไปในม่านควันเช่นกัน

 

 

 ไม่ต่างอะไรกับเวทย์ก่อนๆของเหล่าพาลาดินเลย

 แบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน

 หมายความว่าเลเวลของเธอต่ำเกินไป

 หรือธาตุความมืดไม่เคยแพ้ทางธาตุแสงแต่แรกอยู่แล้ว

 

"ผู้ใช้ธาตุแสง !!" ลินคอร์นเองก็ตกตะลึงไม่น้อย

เมื่อเห็นเวทย์ที่พรีสสาวใช้

 ชั่วขณะนั้นทำให้เขารับรู้ถึงอันตรายของตัวเธอทันที

 

 การมีอยู่ของเธอจะภัยพิบัติครั้งใหญ่ของเหล่าแวมไพร์

 ดังนั้นเขาจึงไม่รอช้าร่ายเวทย์เข้าโจมตีเธอทันที

 

"เกลียวคลื่นเงาราหู"

 

สิ้นคำร่ายเวทย์ ไอดำมหาศาลก็มารวมตัวกันอีกครั้ง

 ก่อนที่มันจะถูกซัดออกไปเหมือนเกลียวคลื่นที่อยู่ในทะเลคลั่ง

 เกลียวคลื่นสีดำถาโถมเข้าใส่เป้าหมายอย่างที่ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งได้

 

 พลังโจมตีที่รุนแรงทำให้แม้แต่วิเวียนยังต้องหวาดหวั่น

 เธอจึงเลือกที่จะพุ่งหลบแทนที่จะตั้งรับ

 

 ซึ่งนั่นก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง

เพราะทุกสิ่งที่โดนเกลียวคลื่นนั้นซัดใส่ 

จะถูกกลืนกินหายไปตลอดกาล

 

 

แต่เพราะว่าลินคอร์นมัวสนใจโจมตีพรีสสาวนี้นี่เอง

 ทำให้เหล่าพาลาดินที่เหลือถือโอกาสลอบจู่โจมในมุมอับ

 เริ่มจากสโตนเฮดสวนเกราะศิลาก่อน

 

จะพุ่งหมัดเข้าใส่ร่างลินคอร์นทันที การลอบโจมตีนี้

 ช่างเป็นการลอบโจมตีที่รวดเร็ว

 

 ชนิดที่เป้าหมายอย่างลินคอร์นไม่อาจจะขยับตัวหลบหลีก

หรือต้านรับใดๆได้เลย

 

"พันธนาการแห่งความมืด"

 

แต่ความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้น

 ทุกๆการโจมตีของเหล่าพาลาดินเป็นสิ่งที่ลินคอร์นรับรู้อยู่แล้ว

 เขาจึงร่ายเวทย์อีกชุดเพื่อรับมือทันที

 

 เวทย์ชุดนี้เมื่อร่ายจบก็บังเกิดเงาเป็นสาย

ที่ลักษณะเหมือนเชือก

 

 พุ่งออกมาจากเงาของสโตนเฮดก่อนที่จะพุ่งรัดพันเจ้าตัวแน่น

 ก่อนที่จะฉุดลากอย่างรุนแรง

 

 

 

 จนเจ้าพาลาดินแห่งหินผาต้องนอนราบไปกับพื้น

อย่างหมดท่า ไม่เพียงแต่สโตนเฮดเท่านั้น 

พาลาดินคนอื่นก็เช่นกัน

 

 แต่ละคนเจอเงาเชือกพุ่งทะยานออกมาจากเงาตัวเอง

 เข้ามารัดพันจนสินท่า

 

"แค่เวทย์ไม่กี่บท ก็เอาชนะพาลาดินได้หมด !!"

 วิเวียนเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา

 นี่น่ะเหรอคือฝีมือของแวมไพร์ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นขุนพลไร้พ่าย

 

 แต่เธอก็ไม่มีเวลาคิดอะไรต่อเพราะแวมไพร์ตรงหน้า

เดินย่างก้าวเข้ามาหมายจะจัดการเธอเป็นคนต่อไป

 

 ซึ่งเธอในตอนนี้ทำได้แค่เพียงร่ายเวทย์

เพื่อสร้างหอกลำแสงมาต่อกรแค่นั้นเอง

 

"อย่าดิ้นรนเลยอีหนู" ลินคอร์นกล่าว 

 

"ไม่เกี่ยวกับเลเวลเวทย์ ไม่เกี่ยวกับการแพ้ทาง 

แต่เพราะข้าคือความมืด 

ความมืดที่สามารถกลืนกินได้ทุกอย่าง 

ไม่เว้นแม้แต่แสงของเจ้า .... อีหนูเอ๊ย

 เจ้าไม่ทางที่จะเอาชนะพลังธาตุที่ชนะได้ทุกอย่างของข้าหรอก"

 

 

สิ้นคำกล่าวของลินคอร์น

 เชือกดำจำนวนมากก็พุ่งจากเงาวิเวียนมารัดตัวเธอเช่นกัน

 

 จนตัวเธอในตอนนี้ต้องนอนราบไปกับพื้น

มีสภาพไม่ต่างกับพาลาดินคนอื่นเลย

 แต่ลินคอร์นก็ไม่หยุดแค่นั้น

 

 เขาบังคับเงาดำในมือให้ไหลออกมาก่อรูปเป็นดาบขนาดพอดีมือ

 พร้อมกับหันดาบนี้ไปยังวิเวียนที่นอนราบ

 

"และเพราะเป็นผู้ใช้ธาตุแสง 

การมีอยู่ของเจ้าจะทำภัยมาสู่เหล่าแวมไพร์

 ดังนั้นข้าจึงต้องจัดการเจ้าที่นี่ซะ !!"

 

"ม่ายยยยย" นายอาร์ตพยามร้องห้าม

 

"เวโรนิก้า พาเขากลับไปได้แล้ว !!"

 ขุนพลแวมไพร์เอ่ยปากสั่งการลูกน้องสาวคู่ใจ

 

"ค่ะ" เวโรนิก้ารับคำในทันที

 บาดแผลที่ท้องของเธอตอนนี้

ใช้เวทย์รักษาจนอาการบรรเทาแล้ว

 

 

 เธอจึงมีแรงลุกขึ้นฉุดร่างของนายอาร์ต

เพื่อที่จะพาข้ามมิติไปในทันที แม้ว่านายอาร์ตจะพยามขัดขืน

 แต่เขาก็ไม่อาจจะต้านแรงเธอได้เลย

 

"อย่าหวังเลยเว้ยยยยยย"

 

เสียงตวาดของพาลาดินแห่งไฟดังลั่น

 เสียงนี้มีที่มาจากร่างของเขา 

ที่โดนเผาจนเหลือแต่ท่อนร่าง 

 

แต่บัดนี้ท่อนร่างนั้นกลับลุกไม้กลายเป็นไฟ

 ก่อนที่ไฟจะก่อตัวกลับมาเป็นร่างของพาลาดินแห่งไฟผู้นี้ใหม่อีกครั้ง

  และเมื่อร่างกายเขาก่อขึ้นเสร็จ

 

 เขาก็ตวาดลั่นพร้อมกับร่ายเวทย์ไม้ตาย

 สร้างลูกไฟดินแดนเพลิงพระกาฬรวมศูนย์ขึ้นทันที

 

"ตายยากนักน่ะ"

 

 แวมไพร์ลินคอร์นกล่าวขึ้นพร้อมกับหันไปรับมือ

 ในขณะที่เจ้าพาลาดินแห่งไฟยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์

ก่อนที่จะซัดลูกไฟเข้าใส่ทันที

 

 

 

แต่เป้าหมายของลูกไฟคราวนี้กลับไม่ใช่ร่างของลินคอร์น

 ไม่ใช่ร่างของเวโรนิก้าและนายอาร์ต

 แต่เป้าหมายนั้นกลับเป็นเครื่องข้ามิติต่างหาก !!

 

 เครื่องข้ามมิติเป็นเครื่องมือธรรมดา

จึงไม่ได้สร้างจากโลหะพิเศษอะไรอยู่แล้ว

 เมื่อกระทบเข้ากับพลังทำลายล้างของเวทย์ไฟนี้

 

 ตัวเครื่องจึงระเบิดเสียหายทันที 

ปล่อยให้แสงสีฟ้าที่เก็บไว้ในตัวเครื่อง สาดแสงจ้าไปทั่วทั้งห้อง

 

"ไม่มีไอ้เครื่องบ้านี่ 

แกก็หนีไป wonderland ไม่ได้แล้วเว้ยยยยย"

 พาลาดินแห่งไฟหัวเราะร่าอย่างสะใจ

 

ในขณะที่ลินคอร์นเลือดขึ้นหน้าอย่างโกรธเกรี้ยว

 ว่าแล้วเขาก็ซัดเวทย์ เกลียวคลื่นเงาราหู 

 

เข้าใส่พาลาดินผู้นี้ทันที โดยที่เจ้าเบิร์นมัวแต่สะใจ

 เลยไม่อาจหลบเวทย์ที่ซัดมาได้ทัน !! .....

 

 แต่ก่อนที่เวทย์แห่งความมืดจะมาถึงตัวเขา 

เบิร์นก็รู้สึกผิดปกติบางอย่าง

 

 

 

 เพราะทันทีที่แสงสีฟ้าจากเครื่องข้ามมิติที่พังไปนั้นสาดใส่ร่างเขา

 เขาก็เหมือนถูกแรงมหาศาลบางอย่างดูดอย่างรุนแรง

 แรงขนาดที่ว่าดูดจนตัวเขาหายไปจากมิตินี้ทันที

 

แต่ไม่เพียงเขาเท่านั้น

 พาลาดินและแวมไพร์คนอื่นๆที่กระทบแสง

 ต่างก็โดนแรงดูดนี้เข้าไปเช่นเดียวกัน

 

 จนแต่ละคนเริ่มหายร่างไป ไล่ตั้งแต่เวโรนิก้า

 พาลาดินทั้ง 4 ลินคอร์น นายอาร์ต

 

"อาร์ตตตตต" วิเวียนร้องเสียงหลงก่อนที่เธอเองจะถูกดูดหายไปเช่นกัน

 

ณ ทุ่งหญ้ารกร้างที่ห่างไกลออกไป

 ที่ตอนนี้กำลังปรากฏการณ์ประหลาดบางอย่าง

 ท้องฟ้าที่เมื่อครู่สว่างไสวพลันมืดครึ้มราวกับมีเมฆฝน

 

 สายลมที่พัดเอื่อยก็พลันรุนแรงราวกับจะมีพายุร้ายพัดผ่าน

 สร้างความแตกตื่นให้กับบรรดาสัตว์เล็กสัตว์น้อย

ที่อาศัยอยู่ในทุ่งนี้เป็นอย่างมาก

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป