เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
"เจ้านี่มันก็เหมือนรถยนต์บนโลกของอาร์ตนั่นแหละ
แต่มันขับง่ายกว่ามาก แต่เราคอยคุมพวงมาลัยอย่างเดียวก็พอ"
วิเวียนหันมาตอบ
"ยอดเลยวิเวียน" ชายหนุ่มเอ่ยอย่างตื่นเต้นพร้อมกับลูบเจ้ารถเหาะไปมา
"อย่างกับหนังอวกาศเลย ที่ wonderland
นี่มีอะไรที่ผมไม่อยากเชื่อเยอะแยะเลยน่ะ"
"ที่ wonderland ไม่ได้มีแต่เวทย์มนต์น่ะค่ะอาร์ต"
พรีสสาวเอ่ยตอบก่อนจะโยกพวงมาลัยเข้าหาตัว
เจ้ารถเหาะก็เลยแล่นเดินหน้า
ออกจากโบสถ์คาดินัลล์ไปตามทางบนถนน
"เพราะการที่เราสามารถเดินทาข้ามมิติได้
ทำให้เราได้เรียนรู้วิทยาการของโลกมิติต่างๆมากมาย
ก่อนที่จะนำมาปรับใช้
อย่างเจ้ารถนี่ก็เหมือนกัน
ตอนนี้เหลือแค่ปรับแต่งให้มันสามารถผลิตเป็นจำนวนมากได้
ถึงตอนนั้นอาร์ตก็จะเห็นมันเล่นอยู่เต็มเมืองเลย"
"หืมมมม พูดแบบนี้ก็แปลว่าวิเวียนอยากให้ผมอยู่ด้วยนานๆงั้นสิ"
ชายหนุ่มได้ทีก็เลยรีบแหย่เธอทันที
วิเวียนหันมายิ้มให้อยากหมันไส้
ก่อนจะเร่งความเร็วรถขึ้นทันที
ทำเอาชายหนุ่มผวารีบจับเบาะแน่น
โดยมีเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข
ของหญิงสาวดังลั่นตามมาหลังจากแกล้งเขา สำเร็จ
เจ้ารถเหาะ พาพวกเข้าพุ่งทะยานไปตามทาง
ลัดเลาะออกมาจากจุดศูนย์กลาง
ของเมืองมุ่งหน้าไปสู่เขตเมืองโซนนอก
ไม่นานนักพรีสสาวก็พาเขามาถึงจุดหมาย
ดูดจากภายนอกมันก็เหมือนอาคารที่ดูเรียบง่ายทั่วไป
แต่เมื่อพรีสสาวพาเขาเข้าไปด้านใน
เขาจึงพบว่าที่แท้มันก็คือร้านอาหารนี่เอง
"นี่เป็นร้านที่เจ๋งที่สุดในแซงจูรี่ย์เลยน๊า"
วิเวียนเอ่ยบอกก่อนที่จะพาเขาเข้าไปนั่ง
ก่อนที่เธอจะเป็นคนสั่งอาหาร
ไม่นานนักอาหารที่สั่งไปก็ถูกวางเรียงนายขึ้นเต็มโต๊ะ
"อาร์ตลองชิมสิค่ะว่ารสชาติเป็นไง"
"อร่อยนี่วิเวียน" แม้เขาจะไม่ใช้คนที่เรื่องมาก
ในเรื่องอาหารแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าอาหารใน
ร้านนี้อร่อยที่สุดเท่าที่เขาเคยชิมมา
และเมื่อมองไปรอบร้าน
เขาก็พบว่าร้านนี้เน้นการตกแต่งแบบเรียบง่ายสบายตา
อีกทั้งด้านหน้ามีเครื่องดนตรีต่างๆวางเรียงราย
เหมือนกับร้านอาหารกึ่งผับทั่วๆไป
แต่ด้วยรสชาติขนาดนี้
ถ้ามาอยู่ในโลกของเขา คงเป็นร้านดังได้ไม่ยาก
"แหม นึกว่าใครมา ที่แท้ก็ลูกสาวคนสวยของเจ๊นี่เอง ....
แล้วพ่อรูปหล่อนี่ใครล่ะ"
แต่หลังจากที่เขารับประทานอาหารได้ไม่นาน
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น แม้เธอจะดูมีอายุแล้ว
แต่จากการดูแลรูปร่างที่ดี
ทำให้เธอยังดูสาวและสวยอ่อนกว่าวัยไปมา
จนเธอสามารถแต่งตัวเซ็กซี่อวดผิวกายก็ยังได้
วิเวียนยิ้มกว้างอย่างดีใจ
ก่อนจะรีบแนะนำให้นายอาร์ตรู้จัก
ที่แท้หญิงสาวคนนี้ก็คือมาร์กาเร็ต
ผู้ที่เป็นเจ้าของร้านและเป็นแม่ครัวที่ทำอาหารให้เมื่อครู่นั่นเอง
แถมมาร์กาเร็ตนั้นก็เคยเห็นวิเวียนมาตั้งแต่เธอยังเด็ก
เธอจึงรักพรีสสาวไม่ต่างกับลูก
และเรียกเธอว่าลูกตลอดมา
"ที่ผ่านมาเจ๊คิดว่าลูกสาวคนนี้
จะไม่ตกลงปรงใจกลับใครซะอีก
เพราะเห็นมีผู้ชายตั้งมากมายเข้ามาขายขนมจีบ
แต่เธอก็ไม่สน ทีแท้ก็รอพ่อหนุ่มคนนี้นี่เอง"
มาร์กาเร็ตเอ่ยเสียงหวานก่อนที่จะนั่งลง
บนตักนายอาร์ตแล้วโอบคอเขาไว้
เล่นเอาตัวเขาทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
"เมื่อก่อนวิเวียนมีคนจีบเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ"
ชายหนุ่มเอ่ยถาม
"อาร์ตอย่าไปเชื่อ ไม่จริงหรอก"
วิเวียนปฏิเสธเสียงแข็ง
"ไม่จริงอะไรย่ะ .... ถ้าพ่อหนุ่มไม่เชื่อลองมองไปรอบๆสิ"
พอมาร์กาเร็ตพูดจบนายอาร์ต
ก็เลยมองไปรอบๆอย่างงงๆ แต่ก็เข้าใจในที่สุด
เพราะสายตาทุกคู่ของชายหนุ่มในร้าน
ต่างก็ชำเลืองมองมาที่วิเวียนเป็นจุดเดียว
ที่จริงเขาก็รู้สึกว่าวิเวียนเป็นเป้าสายตาตั้งแต่เข้ามาในร้านแล้ว
แต่เขาก็ไม่ได้เอะใจอะไรมาก
จนมาชัดเจนเอาก็ตอนที่เจ๊เจ้าของร้านเอ่ยบอกนี่แหละ
"คู่แข่งเยอะขนาดนี้พ่อหนุ่มต้องทำคะแนนมากๆแล้วรู้ไหม"
มาร์กาเร็ตแอบกระชิบเบาๆข้างหูนายอาร์ต
ทำให้ชายหนุ่มชุกคิดอะไรบางอย่าง
ที่ผ่านมาเขาได้ชื่อว่าเป็นคาสโนวาที่ฟันสาวไปทั่วมหาลัย
แต่ในความเป็นจริงฉายานี้ได้มาก็เพราะ
เขาใช้พลังมาน่าสะกดผู้หญิงเหล่านั้น มาทั้งนั้น
ทำให้เขาละเลยเรื่องง่ายๆอย่างการสร้าง
ความประทับใจให้ผู้หญิงอยู่เสมอ กับวิเวียนก็เช่นกัน
จะว่าไปเขาก็เลยเคยทำอะไรให้เธอเลย
"ทำคะแนน .... ได้ครับคุณมาร์กาเร็ต"
ด้วยความที่นายอาร์ตเป็นคนยุง่ายซะด้วย
แค่คำพูดไม่กี่คำของมาร์กาเร็ตก็ทำเขาฮึดขึ้นมาทันที
ชายหนุ่มหันรีหันขวางไปมาก่อน
ที่สายตาจะจับจ้องไปยังเครื่องดนตรีต่างๆบน เวที
ถ้าอยู่ๆเขาขึ้นไปเล่นดนตรีเพื่อวิเวียน
เธอจะต้องประทับใจแน่ๆ
เมื่อเป็นเช่นนั้นนายอาร์ตก็เลย
ขอขึ้นเวทีที่ร้านด้วยหัวใจที่ฮึกเหิมสุดขีด
แต่เขาก็ลืมอะไรไปอย่าง โลกนี้ไม่ใช่โลกของเขา
มันเป็นโลก wonderland
ดังนั้นเครื่องดนตรีที่นี่ก็เป็นเครื่องดนตรีของ wonderland
ที่เขาเล่นไม่เป็นทั้งนั้น แต่กว่าเขาจะรู้ตัว
เขาก็ไปยืนอยู่บนเวทีซะแล้ว
แต่เหมือนโชคดีในโชคร้าย
สายตาเขามองไปเห็นเครื่องดนตรีชิ้นหนึ่ง
ที่ดูหน้าตาภายนอกมันอาจจะไม่คุ้นนัก
แต่เมื่อดูการเรียงสายดีๆ
มันก็เหมือนกับกีตาร์โปร่งบ้านเรานี่เอง
ชายหนุ่มจึงลองนำมันขึ้นมาแล้วลองจับคอร์ดแบบกีตาร์
เพียงเท่านี้เสียงหัวเราะก็ดังลั่นร้าน
ดูท่าเขาคงเล่นผิดวิธีแน่ๆ
แต่ชายหนุ่มไม่สนใจเขาลองตีคอร์ดดู
ปรากฏว่าเกิดเสียงดังกังวานออกมา
ไม่ต่างกับเสียงกีตาร์เลยแม้แต่น้อย
"ใช้ได้" นายอาร์ตเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ
ก่อนที่จะนั่งลงแล้วตีคอร์ดอีก 2-3 คอร์ด
เป็นเพลงปรากฏว่าเสียงที่ออกมา
ไม่ต่างกับเพลงที่เล่นด้วยกีตาร์เลยแม้แต่ น้อย
เมื่อวอร์มเครื่องจนได้ที่แล้ว ชายหนุ่มก็เริ่มเล่นเพลงทันที
"จะทำทุกทุกอย่าง จะทำทุกทุกทาง มันทำให้ฉันนั้นรู้ดีว่า จะเป็นเช่นไร"
ว่าแล้วชายหนุ่มก็เล่นเพลง ทุกอย่าง ของ scrubb ทันที
ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงหากินของเขาพอดี
"พ่อหนุ่มนั่นเล่น 'ปาจีร์' โดยไม่ใช้ไม้สีได้ยังไงเนี่ย"
มาร์กาเร็ตเองก็ทึ่งไม่น้อย
แถมชายหนุ่มยังโชว์การเล่นเครื่องดนตรีที่เธอคุ้นตาอีกแบบ
ทำให้ได้เสียงต่างออกไป
แต่ความไพเราะไม่ได้ลดลงเลย แต่ขณะที่เธอฟังเพลินๆ
อยู่ๆก็มีเสียงนึงแทรกขึ้น
"ถึงกับตะลึงไปเลยเหรอจ๊ะ ระวังเถอะ
ยิ่งแก่ๆอยู่เดี๋ยวจะหัวใจวายไปซะก่อน"
"คุณโบน !! มาได้ไงค่ะเนี่ย" วิเวียนร้องอย่างดีใจ
ที่แท้เสียงบุคคลที่สามที่แทรกเข้ามาก็คือโบนนี่เอง
"เอ้าถามมาได้ !! ลืมไปแล้วเหรอว่าเจ้าของร้านร้านนี้เป็นเด็กใคร"
โบนเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
แต่ไม่วายหันไปหยอกมาร์กาเร็ต
ที่แท้ทั้งคู่เคยเป็นคนรักเก่ากันมาก่อน
ที่ต่อมาต้องเลิกรากันไป
แต่กระนั้นเมื่อเจอหน้า โบนก็ยังชอบแซวเธออยู่ดี
มาร์กาเร็ตหันมาค้อน
ก่อนจะลุกหนีไปดูนายอาร์ตดีดปาจีร์ที่โต๊ะด้านหน้า
โบนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ก่อนจะหันไปมองวิเวียนที่นั่งอยู่ด้านข้าง
สีหน้าของเธอในตอนนี้เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
อีกทั้งยังโบกมือให้กำลังใจชายหนุ่ม
ที่เล่นดนตรีบนเวทีอย่างมีความสุข
มันเป็นความสุข ที่ตั้งแต่เล็กจนโต
ไม่มีครั้งไหนเทียบกับความสุขที่เธอมีในตอนนี้ได้เลย
"เจ้ามีความสุขมากขนาดนี้เลยเหรอวิเวียน"
พรีสชราเอ่ยถาม
"ค่ะ ??" วิเวียนสงสัยเล็กน้อยกับคำถามที่ได้ยิน
แต่เธอก็ตอบเขาด้วยรอยยิ้มแทนคำตอบ
"เจ้าว่าความสุขของเจ้า จะอยู่ได้นานสักเท่าไหร่"
เขาถามกลับด้วยสีหน้าที่จริงจัง
"ตอนนี้เจ้ายังมีความสุขได้อยู่
ก็เพราะเรื่องของพ่อหนุ่มนั่นยังไม่โดยเปิด เผย
แต่ถ้าวันใดที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมาล่ะ
เจ้าว่าคนอื่นจะคิดยังไง เจ้าก็รู้นี่วิเวียน
ว่าทุกคนหวาดกลัวอาลูคาร์ด
แม้แต่มาร์กาเร็ตก็เช่นกัน ถ้าเธอรู้เข้า
เจ้าว่าเธอจะหวาดกลัวพ่อหนุ่มนั่นไหม
ถ้าทุกคนในเมืองเป็นศัตรูกับเขา
เจ้าจะยังมีความสุขได้เหรอ"
"เรื่องนี้ ...." วิเวียนสีหน้าสลดลงทันที
"วิเวียนเข้าใจนะค่ะ ว่าทุกคนหวาดกลัวอาลูคาร์ดกันแค่ไหน"
พรีสสาวตอบขึ้นมาเบาๆ
"แต่อาร์ลูคาร์ดก็คืออาร์ลูคาร์ด อาร์ตก็คืออาร์ต
เขาทั้งคู่ยังไงก็เป็นคนละคนกัน และที่สำคัญ
อาร์ตในตอนนี้ก็เป็นมนุษย์ไม่ใช่แวมไพร์
ดังนั้นถ้าเราดูแลเขาไว้ที่นี่
เขาก็ไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นอาร์ลูคาร์ดได้หรอก"
"ถ้าต่อไปเรื่องนี้มันถูกเปิดเผยขึ้นมา
วิเวียนเชื่อว่าวิเวียนจะชี้แจงให้พวกเขาจะเข้าใจแน่นอน"