เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland
"พวกเจ้าทั้ง 4 จงฟังข้า
ไปเกณฑ์ชาวบ้านทั้งหมด มาไว้ที่ลานกลางเมือง"
ณ โรงนาที่ไม่ห่างออกไปนัก
ที่นี่คือสถานที่ที่แวมไพร์สาวแอบมาซ่อนตัวอยู่
เนื่องเพราะบาดแผลบริเวนสีข้างของเธอที่โดนบาดนั้น
แผลมันลึกเกินกว่าที่เธอคาดไว้
ทำให้เธอไม่อาจจะหลบหนีเข้าไปในเขตแวมไพร์ได้ในทันที
ตัวเธอต้องแอบหลบในโรงนาแห่งนี้
และใช้พลังรักษาตัวให้แผลหายเสียก่อน
แต่ตัวเธอไม่แค่แอบหลบในโรงนาอย่างเดียว
เพราะตอนนี้ตัวเธอเองก็หาทางหลบหนีไว้ได้แล้ว
เจ้าพวกพาลาดินที่ตามมามันต้องพลิกเมืองหาเธอเป็นแน่
และวิธีที่มันใช้ ก็ไม่พ้นต้องเกณฑ์คนในหมู่บ้านไล่หาเธอ
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นก็ยิ่งเข้าทาง
เพราะเธอจะใส่ชุดหญิงชาวบ้านที่แอบขโมยมา
แล้วแอบออกไปปะปนกับชาวบ้าน ก่อนจะหาจังหวะชิ่งหนีออกไป
แต่เมื่อเธอมองลอดโรงนาออกไปเธอก็ต้องประหลาดใจ
ทั้งหมดกลับไม่เป็นไปตามที่เธอคิดไว้
เจ้าพาลาดินมันกลับทำอะไรบางอย่างที่เธอเองก็ไม่เข้าใจ
มันเรียกระดมชาวบ้านทั้งเมืองมาชุมนุมที่กลางลานเมือง
ไม่ว่าเป็นหญิงชาย เด็กหรือคนแก่
และเมื่อมีชาวบ้านมานั่งรอกันจนครบ
เจ้าพาลาดินแห่งไฟก็ประกาศทันที
"เวโรนิก้า !!! ออกมาซะ" เจ้าเบิร์นร้องลั่น
"ถ้าเจ้าไม่ออกมา ข้าฆ่าพวกชาวบ้านทั้งหมดที่อยู่ตรงนี้ !!"
สิ้นคำกล่าวของเจ้าพาลาดิน ก็มีแต่เสียงหวีดร้องอย่างตกใจ
แม้แต่ในกลุ่มพาลาดินเองก็ยังมองหน้ากันเลิกลั่ก
แต่ไม่ทันที่จะมีใครพูดต่อ
ชายชราผู้หนึ่งที่มีฐานะเป็นนายบ้านของเมืองนี้
ก็ก้าวออกมาหาเจ้าพาลาดิน ทันที
"ท่านพาลาดิน นี่มันอะไรกัน" ชายชราร้องถาม
"เวโรนิก้า !!" แต่เจ้าพาลาดินก็ไม่สนใจ
มันยังเอ่ยต่อไป
"ถ้าเจ้าไม่ออกมา ข้าจะเผาชาวบ้านพวกนี้ทั้งเป็น
ข้อหาที่พวกมันคิดทรยศ
ให้การช่วยเหลือแวมไพร์อย่างเจ้า"
"ท่านพาลาดิน !! ทำไมท่านพูดอย่างนั้น
พวกข้าไม่รู้จักแวมไพร์ตนนั้นเลย
และพวกข้าก็ไม่เคยช่วยเหลืออะไรมันด้วย แล้วท่านจะ ....."
แต่ไม่ทันที่ชายชราจะกล่าวจบ
ร่างของเขาก็ถูกเผาไหม้ขึ้นมาทันที
ชายชราผู้นั้นร้องลั่นด้วยความทรมานก่อนจะล้มลงสิ้นใจตาย
ทันทีที่นายบ้านเฒ่าสิ้นใจ เหล่าชาวบ้านก็หวีดร้องกันระงม
บ้างก็ลุกขึ้นแล้วพยามหลบหนี แต่นั่นมันก็ช้าไปเสียแล้ว
เจ้าพาลาดินแห่งไฟดิ้นนิ้วทีเดียว
ก็เกิดเปลวไฟลุกไหม้เป็นวงกลมปิดล้อมชาวบ้านเหล่านั้น
จนพวกเขาไม่มีทางออก
การกระทำเช่นนี้สร้างความแตกตื่นให้แก่เหล่าพาลาดินที่เหลือ
รวมทั้งนางแวมไพร์อย่างเวโรนิก้าอย่างมาก
"ข้าจะนับ 1-3 เวโรนิก้า !!
ถ้าเจ้ายังไม่ออกมาข้าจะเผาพวกมันทุกคนซะ"
"เบิร์น ! เจ้าจะทำอะไร วิธีนี้ไม่ได้ผลหรอกน่า"
ไอซ์เอจ พาลาดินแห่งน้ำเอ่ยห้าม
"1 !"
"เบิร์น ! จะมีแวมไพร์ที่ไหนออกมาเพราะคำขู่แบบนี้มั่งว่ะ"
เจ้าพาลาดินแห่งน้ำเอ่ยห้ามต่อ
"2 !!"
"เบิร์น !!! เจ้ากำลังทำบ้าอะไร เจ้ารู้ตัวหรือเปล่า !!"
"3 !!!"
"เบิร์นนนนน !!"
"เหมือนพ่อเจ้าไม่มีผิดเลยน่ะ"
เวโรนิก้าก้าวเดินออกมาช้าๆ
นางเดินออกมาอย่างไม่หวั่นเกรงใดๆ
เดินออกมาพร้อมกับจ้องไปที่ดวงตา
ของเจ้าพาลาดินแห่งไฟตรงหน้า ดวงตา
ของชายที่โหดร้ายเหมือนดั่งปีศาจ
"ตอนนั้นพ่อเจ้าก็ใช้วิธีแบบนี้ เพื่อที่จะจับข้า
พ่อเจ้าถึงกับใช้วิธีเผาทิ้งทั้งเมือง"
"ก็แวมไพร์โง่เง่าที่ยอมออกมาเนี่ย มันมีแต่เจ้าตัวเดียวนี่หว่า"
แต่เจ้าพาลาดินแห่งไฟก็ส่งสายตา
ที่ชั่วร้ายออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
แต่เวโรนิก้าก็ไม่กล่าวอะไรต่อ เพราะทันทีที่เธอออกมา
เจ้าโวลต์แห่งสายฟ้าก็เดินตรงมาหาเธอ ก่อนจะซัดฝ่ามือเข้าใส่
จนเธอแน่นิ่ง หมดสติไป
"อาร์ตตตต" วิเวียนเอ่ยร้องอย่างอ่อนล้า
แต่ถึงอย่างนั้นอะไรๆในตัวเธอหลายอย่างก็ดูดีขึ้น
ท้องที่เคยบวมโตยุบลงหมดแล้ว
ผิวของเธอเปล่งปลั่งอย่างไม่น่าเชื่อ
รูปร่างของเธอก็เซ็กซี่ยั่วสวาทขึ้นเป็นกอง
นายอาร์ตที่อยู่ด้านข้างค่อยๆประครองเธอนั่งทันที
แต่เหมือนหญิงสาวกลับอยากลุกขึ้นยืนมากกว่า
"เราต้องรีบไปแล้วอาร์ต" วิเวียนเอ่ยบอก
"ไปไหนเหรอวิเวียน"
"ไปแซงจูรี่ย์ !!"
"ตอนนี้วิเวียนรู้ทุกอย่างแล้ว !!"
"วิเวียน .... ค่อยๆน่ะ"
นายอาร์ตค่อยๆพยุงหญิงสาวตรงหน้าให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆ
แต่เพราะเธอพึ่งผ่านเกมส์กามที่ดุเดือดมา
ไม่นานนักทำให้เมื่อลุกยืนได้ไม่เท่าไหร่
เธอก็เริ่มเซจนจวนจะล้ม
ทำให้เขาต้องรีบดึงร่างเธอเข้ามากอดแนบไว้กับอก
และนั่นทำให้เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
รูปร่างของหญิงสาวอวบอิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
เนื้อตัวของเธอก็แน่นกระชับมากขึ้น
อีกทั้งตัวหญิงสาวก็ส่งกลิ่นกายประหลาด
ที่พอเขาได้กลิ่นเท่านั้น
ไฟราคะของเขาก็ประทุขึ้นมาอีกครั้ง
"อาร์ต ..... วิเวียนหนาว"
หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาเบาๆก่อนจะค่อยๆ
ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มทีละเม็ด
ดวงตากลมโตคู่นั้นก็สายตาแสนเย้ายวนให้เขาอย่างหวานเยิ้ม
ทำให้นายอาร์ตไม่อาจจะห้ามใจไหว
เขาดึงร่างเธอเข้ามากอดกระชับไว้แน่น
ก่อนจะก้มลงเพื่อหวังจุมพิตลงบนริมฝีปาก
ที่แสนหยาดเยิ้มตรงหน้า
แต่ไม่ทันที่เขาจะได้จุมพิตสมใจ
หญิงสาวกลับสลัดเขาออกพร้อมกับกระโดดถอยหนีออกมา
"วิเวียนบอกว่าหนาว ไม่ได้บอกว่าเงี่ยนสักหน่อย"
หญิงสาวทำหน้าทะเล้นใส่
ก่อนจะเอาเสื้อเชิ้ตที่พึ่งถอดได้มาสวม
"อ้อออออ ... นี่วิเวียนหลอกเอาเสื้อจากผมเหรอ"
ชายหนุ่มพูดจบก็คว้าร่างหญิงสาวตรงหน้ามากอดไว้แน่น
ก่อนจะจูบไปที่ปากของเธอในทันที
ซึ่งหญิงสาวก็ตอบสนองไม่ขัดขืน
ยอมที่จะยืนแลกลิ้นกับเขาจนหนำใจ
"โอ๊ะ ...." แต่จูบไปได้ไม่นาน นายอาร์ตก็เผลอร้องออกมา
เพราะว่าเขารู้สึกถึงพื้นที่สั่นไหว
ก่อนที่จู่ๆจะมีแสงสีขาวพุ่งขึ้น
โอบล้อมเขาและเธอไว้ในทุกๆด้าน
เปรียบเหมือนเปลือกไข่ที่โอบล้อมเนื้อที่อยู่ด้านใน
"กอดวิเวียนไว้น่ะอาร์ต ...... กระสุนดาวหาง"
ทันที่พูดจบ วิเวียนก็ร่ายเวทย์ทันที
และทันทีที่ร่ายจบลำแสงที่ห่อหุ้มร่างพวกเธอไว้
ก็พาให้พวกเธอลอยขึ้นจากพื้น
ก่อนจะพุ่งสูงหายขึ้นไปในขอบฟ้า
ที่แท้เวทย์กระสุนดาวหาง
ก็เป็นเวทย์เดินทางระดับเลเวล 9 นี่เอง
เวทย์นี้จะห่อหุ้มร่างผู้ร่ายเหมือนเปลือกไข่
ก่อนจะพาพุ่งเหาะไปเหมือนลูกกระสุน
จุดเด่นของเวทย์บทนี้
คือจะพาผู้ร่ายเดินทางไปยังที่หมายได้รวดเร็ว
ไม่แพ้เวทย์ธาตุลมเลยทีเดียว ทำให้ไม่นานนัก
กระสุนลำแสงก็พาพวกเธอตกลงมายังหน้าที่หมาย
"โธ่วิเวียน ..... ถ้าจะใช้เวทย์อะไรก็บอกผมก่อนสิ"
นายอาร์ตบ่นอุบ
"แหม .... แค่นี้ก็บ่นแล้ว" วิเวียนหันมาค้อนชายหนุ่ม
ก่อนจะชี้ให้เขาดูประตูขนาดยักษ์
แกะสลักด้วยลวดลายต่างๆสวยงาม
ที่ตั้งตระง่านอย่างยิ่งใหญ่น่าเกรงขามอยู่เบื้องหน้า
ประตูที่สวยงามและยิ่งใหญ่แบบนี้
เล่นเอาชายหนุ่มที่พึ่งเห็นมันครั้งแรกถึงกับตกตะลึง
"ขอต้อนรับสู่ แซงจูรี่ย์ค่ะ"
ในขณะที่วิเวียนและนายอาร์ตสามารถเดินทาง
ไปถึงที่หมายที่ตั้งใจไว้ได้แล้ว
แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งยังไปไม่ถึงเลย
ไม่สิ ถ้าจะเรียกให้ถูกน่าจะเรียกว่า
ยังไม่ออกเดินทางเลยด้วยซ้ำ
เพราะเจ้าพาลาดินทั้ง 5 กำลังสนุกกับกิจกรรมเบื้องหน้า
นั่นก็คือการทรมานแวมไพร์ที่พวกมันจับมาได้
"อ๊า.............." เวโรนิก้าร้องอย่างเจ็บปวด
แต่เธอก็ไม่อาจจะส่งเสียงได้มากนัก
เนื่องจากปากของเธอโดนมัดปิดไว้แน่น
สภาพของเธอในตอนนี้ไม่เหลือเค้า
แวมไพร์ที่เก่งกาจเมื่อครู่อีกแล้ว
เพราะไม่แค่ปากเท่านั้นที่โดนมัด
มือสองข้างของเธอก็โดนมัดไขว้หลังไว้กับเสาบ้าน
ตัวเธอในตอนนี้ก็โดนจับให้นั่งในท่าคุกเข่า
อยู่อย่างนั้นโดยที่เธอไม่สามารถขยับเปลี่ยนท่าได้
นั่นเพราะทั่วร่างของเธอมีตะขอเล็กๆ
เกี่ยวอยู่ทำให้ถ้าเธอขยับแม้แต่นิดเดียว
ตะขอเหล่านั้นก็จะเกี่ยวลึกเข้าเนื้อทันที
การทรมานเช่นนี้นอกจากสร้างความทรมาน
ทางกายจนร่างกายสั่นระริกด้วยความเหนื่อยล้าแล้วนั้น
ยังสร้างความทรมานทางใจ
จากความเครียดที่เพิ่มสะสมอีกด้วย
"เหอๆๆ ไม่คิดว่าปลอกแขนของเจ้า
จะมีของพวกนี้ด้วยว่ะ ว่าแต่ นี่มันอะไรว่ะ"
โวลต์ แห่งสายฟ้าเอ่ยถามเจ้าพาลาดินแห่งลมที่อยู่ตรงหน้า
พร้อมกับชูคีมเหล็กขนาดเล็กหน้าตาประหลาดๆขึ้นมา
คีมประหลาดชนิดนี้มีด้วยกันเป็นคู่
และอันหนึ่งเจ้าไซโคลนพึ่งใช้หนีบ
เข้าไปหัวนมของเวโรนิก้า
จนเป็นที่มาของเสียงร้องครวญคราง
อย่างเจ็บปวดของเธอนั่นเอง