Your Wishlist

ดินแดนมหัศจรรย์ (ดินแดนมหัศจรรย์)

Author: xxx555

เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland

จำนวนตอน :

ดินแดนมหัศจรรย์

  • 21/07/2568

ข้อดีก็คือ ทำให้ล่วงรู้ความลับของอีกฝ่ายทำให้ได้เปรียบในสงคราม

 แต่ข้อเสียก็คือ

 

 การที่สมองรับเอาความจำของผู้อื่นเข้ามามากเกินไป

จะทำให้สมองทำงานหนัก

 จนสุดท้ายจะแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนเป็นความจำของใคร

 

 จนสุดท้ายผู้นั้นก็จะวิกลจริตไปเลย ...... 

แต่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้น ทุกครั้งหลังจากดูดความจำผู้อื่นมาแล้ว

 

 ความจำอันไหนที่ไม่มีประโยชน์ หรือ อันไหนที่ใช้งานเสร็จแล้ว

 ผู้ดูดก็จะใช้เวทย์มนต์บทหนึ่งลบมันทิ้งไป

 

 

"เอาจริงเหรอท่านเวโรนิก้า กู้ความจำนี่มันไม่สนุกน่ะ"

 

 ซูเครถามแวมไพร์สาวตรงหน้าเสียงเครียด

 แต่เธอก็ไม่ตอบอะไรกลับมา

 แค่เพียงพยักหน้าช้าๆแล้วก็นอนราบเอนไปบนเก้าอี้

 

 ดังนั้นซูเครก็ไม่ถามอะไรต่อ เขาจัดการล็อคเธอกับเก้าอี้

 จากนั้นก็ไปเตรียมเครื่องมือ และเซ็ตโปรแกรมต่างๆ

 ไม่นานนักเขาก็เตรียมการเสร็จ

 

จากนั้นเจ้าซูเครก็เดินมาใกล้ๆ 

ในมือของมันมีหมวกครอบหัวที่มีสายเชื่อมต่อ

เข้ากับวงจรคอมพิวเตอร์ด้านหลัง หมวกนี้ขนาดไม่ใหญ่นัก

 

 เมื่อมันถูกสวมทำให้ยังเหลือส่วนปากเอาไว้ให้เธอ

ตอบโต้กับหมอประจำห้อง

 ส่วนบริเวนตาก็มีความใสกว่าส่วนอื่นทำให้เธอยังเห็นโลกภายนอก

 

 แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำหน้าที่เป็นจอภาพให้เธอด้วยภายในตัว 

"เจ็บหน่อยน่ะครับ" เจ้าซูเครเอ่ยเบาๆพร้อมกับกดสวิทช์

 

 พริบตานั้นเข็มเล็กๆที่ซ่ออยู่​

ในหมวกก็เสียบแทงเข้าที่ขมับเธอทั้งสองทันที 

"อึกกกกกกก !!" แวมไพร์สาวที่เตรียมใจอยู่แล้ว

 

 ทำได้แค่เพียงร้องในลำคอออกมาเท่านั้น

"โอ๊ยยยย" แต่คราวนี้เธอถึงกับร้องออกมาจริงๆ

 เมื่อเจ้าซูเครเดินเครื่องที่แผงวงจร

 

 เล่นเอาแวมไพร์สาวเจ็บจี๊ดกว่าทีแรกขึ้นเป็นทวีคูน

 แต่เจ้าซูเครก็ไม่สนใจ มันเดินเครื่องต่อไม่ยอมหยุด

 ไม่นานนักภาพความทรงจำต่างๆในหัวของแวมไพร์สาว

 

 โดนดึงออกมาผ่านเซ็นเซอร์ในหมวก

 ก่อนจะถูกส่งขึ้นจอมอนิเตอร์ตามคำสั่งของแผงควบคุม

 การเชื่อมต่อนี้ ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ๆก็จัดการเชื่อมต่อเสร็จ

 

สมองคนเรานั้นจะว่าไปแล้วก็เปรียบเหมือนตู้ขนาดใหญ่ 

โดยมีความจำที่เหมือนลิ้นชักนับพันซ่อนอยู่

 โดยแต่ละลิ้นชักนั้นก็จะมีความลึกตื้นแตกต่างกันไป 

 

แต่มีอยู่ลิ้นชักหนึ่ง มันมีชื่อเรียกว่า 'จิตใต้สำนึก'

 ว่ากันว่าเจ้าจิตใต้สำนึกนี้เปรียบดังลิ้นชักที่มีความจุได้ไม่สิ้นสุด

 มันสามารถเก็บความจำของเจ้าของได้ตั้งแต่เกิดจนตายเลยทีเดียว 

 

โลก wonderland ก็เลยใช้จุดนี้มาเป็นประโยชน์

 การลบความจำที่ทำๆกัน 

 

แท้จริงแล้วก็คือการย้ายความจำจากลิ้นชักปรกติ

 มาใส่ไว้ในจิตใต้สำนึกแทนนี่เอง

 

เมื่อย้ายเข้าก็ย้ายออกได้เช่นกัน 

แต่การนำความจำที่เก็บไว้ในจิตใต้สำนึกออกมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

 เวทย์มนต์ที่ใช้ก็มีความซับซ้อนเยอะกว่ามาก

 

 ไหนจะเวลาที่ใช้ไปอีก แถมยังทำด้วยตัวเองไม่ได้อีกด้วย

 ทำให้ไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่มีใครคิดจะกู้กัน

 แต่กับพวกแวมไพร์มันต่างออกไป

 

 วิทยาการทางการแพทย์ของเผ่าแวมไพร์สูงกว่ามนุษย์มาก

 มันก็เลยสร้างเครื่องกู้ความจำออกมาโดยเฉพาะ

 ทำให้กู้ได้รวดเร็วและตรงความต้องการของผู้ใช้

 

 แต่เครื่องนี้ก็มีผลข้างเคียงที่น่ากลัว

 เพราะมันเป็นเครื่องที่เชื่อมต่อกับสมองโดยตรง

 ตลอดเวลาการกู้ผู้ใช้จะเจ็บปวดมาก 

 

แถมยังมีความเสี่ยงไม่น้อย

 ถ้าผิดพลาดขึ้นมาเพียงเล็กน้อยสามารถทำให้ผู้ใช้เสียชีวิตได้ทันที

 เจ้าซูเครก็เลยทึ่งในตัวเวโรนิก้าอย่างมาก

 

 ที่นางกล้าทำเรื่องเสี่ยงๆแบบนี้ได้โดยไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย

 และโชคดีของทั้งคู่ที่การเชื่อมต่อเป็นไปได้ด้วยดี

 

 

 

"ท่านเวโรนิก้าจะกู้ความจำเรื่องไหนครับ" ซูเครเอ่ยถามต่อ

 พร้อมกับเตรียมตัวดำเนินงานขั้นต่อไป

 

 ส่วนแวมไพร์สาวนั้นกำลังหอบหายใจช้าๆ

เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดเมื่อครู่ 

ก่อนที่เธอจะตอบกลับมาเสียงเย็นเฉียบ

 

"ทุกเรื่อง ......... ของมนุษย์ที่ชื่ออาร์ต"

 

"หลับสบายเลยน่ะ"

 

 หญิงสาวผมสีเงินเอ่ยเบาๆก่อนมองชายหนุ่มตรงหน้า

แล้วนึกขำในใจ นายอาร์ตน่ะสิ

 ทั้งที่สายโด่งขนาดนี้แล้วแต่เขาก็ยังคงหลับไม่รู้เรื่อง

 

 แต่ว่าเธอก็ไม่คิดโทษเขาหรอก ก็เพราะเมื่อคืนน่ะสิ

 ทั้งเธอและเขาต่างก็เล่นเกมส์รักด้วยคนทั้งคืนไม่หลับไม่นอน

 ไม่แปลกเลยที่ชายหนุ่มจะหมดแรงข้าวต้ม 

ฟลุบหลับไม่เป็นท่า

 

วิเวียนเอามือลูบไล้เบาๆบนใบหน้าของชายหนุ่มอย่างทะนุถนอม

 ก่อนที่เธอจะค่อยๆซบหน้าแนบไปกับแผ่นอกแข็งแรงของเขา "อุ่นจัง"

 

 

 เธอพูดขึ้นเบาๆก่อนจะกระชับวงแขนให้แน่นเข้าไปอีก

 เธอไม่ยักรู้ว่าก่อนเลยว่า

 แผ่นอกของใครบางคนจะให้ความอบอุ่นกับเธอได้มากขนาดนี้

 

 เธออยากจะกอดเขาไว้แบบนี้ให้เนิ่นนานไม่ให้เขาห่างไปไหน 

ทำไมน่ะ ทำไมเธอถึงได้ทั้งรักทั้งหวงเขาได้ขนาดนี้น่ะ

 คงเพราะเธอประทับใจในความรักที่เขามีต่อเธอล่ะมั้ง

 

นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอดูดพลังมาน่าจากเขา

 ครั้งแรกนั้นมันเกิดจากความไม่ตั้งใจ 

ความจำได้ที่ได้มันเลยเลือนราง แต่ครั้งที่สองมันต่างกัน

 

 พลังมาน่าที่ได้จึงมาปริมาณมากกว่าและก็บริสุทธิ์กว่า

 ความทรงจำก็เช่นกัน มันชัดเจนไม่เลือนรางเหมือนตอนแรก

 ความรู้สึกทุกอย่างที่เขามีเธอรับรู้ได้หมด 

 

ตั้งแต่ความรักที่เขามีต่อเธอ ...... 

จนไปถึงความเจ็บช้ำจากอดีต ... เมื่อคิดถึงตอนนี้

 วิเวียนก็ลืมตาขึ้นมาช้าๆก่อนจะยันกายขึ้นมาเพื่อทำอะไรบางอย่าง

 

"หืม .......... วิเวียน ทำอะไรน่ะ"

 นายอาร์ตที่กำลังตื่นนอนเอ่ยถามขึ้น

 ถึงตอนนี้ตัวเขาจะงัวเงียอยู่แต่พอจับภาพตรงหน้าได้

 

 

 หญิงสาวผมสีเงินที่แสนจะเร่าร้อนเมื่อคืน

 ที่ตอนนี้สวมใส่แค่เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่เพียงตัวเดียว

 ผมเผ้าของเธอก็ยุ่งเหยิงเล็กน้อยตามประสาคนพึ่งตื่นนอน

 

 ที่ดูแล้วเซ็กส์ซี่ไปอีกแบบ

 กำลังนั่งคร่อมที่ต้นขาขวาของเขา

 มือทั้งสองของเธอก็กำลังประสานกัน

พร้อมกับปล่อยแสงสีฟ้าเรืองรองออกมา

 

"จะเสร็จแล้วค่ะอาร์ต"

 เธอตอบกลับพร้อมส่งยิ้มแสนหวานให้กับเขา

 ชายหนุ่มก็เลยไม่ถามต่อ ทำแค่เพียงมองภาพตรงหน้าอย่างตั้งใจ

 

 หญิงสาวที่กำลังใช้ 'เวทย์มนต์' ทำอะไรบางอย่างอยู่นั้น

 ไม่นานเธอก็ทำเสร็จ

 ทันทีที่แสงจากมือเธอหายไปก็มีสิ่งหนึ่งที่หายไปเช่นกัน

 

แผลเป็น !!

 แผลเป็นที่ต้นขาขวาที่เกิดจากพี่ใบเตยใช้ธูปกำใหญ่จี้ใส่เขาหายไป

 เธอใช้เวทย์มนต์รักษามันให้หายไปนี่เอง

 

"เสร็จแล้วค่ะอาร์ต ... ต่อไปให้วิเวียนลบความจำเรื่องคืนนั้นให้อาร์ตน่ะ"

 

 หญิงสาวเอ่ยเสียงใส แต่ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร

 เขายันกายขึ้นมาช้าๆก่อนจะดึงเธอเข้ามาโอบกอดไว้

 

 อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นทำเอาวิเวียนเคลิ้มฝันอีกแล้ว

 เธอจัดการเอนกายพิงไปกับแผ่นอกแข็งแรงคู่นั้น

 เพื่อจะรับไออุ่นที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

 

"ไม่ต้องหรอกวิเวียน .... ไม่ต้องลบมันหรอก"

 คำตอบของเขาเอ่ยขึ้นสร้างความแปลกใจให้กับหญิงสาวไม่น้อย

 

"ทำไมล่ะค่ะอาร์ต อาร์ตเจ็บปวดกับเรื่องวันนั้นขนาดไหนวิเวียนรู้

 แล้วทำไมอาร์ตจะเก็บมันไว้อีกล่ะ" 

 

วิเวียนถามพร้อมกับมองอีกฝ่ายตาแป๋ว

 ใบหน้าของเธอตอนนี้จะว่าไปก็ดูคล้ายกับลูกแมวตัวน้อยๆไม่มีผิด

 เล่นเอานายอาร์ตถึงกับอมยิ้มน้อยๆ 

 

ก่อนจะเอามือบีบจมูกอย่างมันเขี้ยว 

ทำเอาวิเวียนร้องออกมาเล็กๆ

 หลังจากแกล้งเธอแล้วเขาก็ดึงเธอเอามากอดอีกครั้ง

 

"เก็บมันไว้เถอะวิเวียน ถ้าผมไม่รู้จักความเจ็บช้ำในวันนั้น

 ผมจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าวันนี้ผมมีความสุขที่สุดแค่ไหน จริงไหม"

 ชายหนุ่มค่อยๆจูบเข้าที่เรือนผมของวิเวียนเบาๆ

 

 

 

 เล่นเอาเธอใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

 ก่อนที่เธอจะซบเข้าที่แผ่นอกแข็งแรงของเขาอย่างขวยเขิน 

"วิเวียนทำให้ผมขนาดนี้ ก็มากพอแล้ว"

 

"วิเวียนยังไม่ได้ทำอะไรเลยน่ะ" เธอเอ่ยเบาๆ

 

"วิเวียนให้ความรักกับผมขนาดนี้ จะว่าไม่ได้ทำอะไรได้ยังไง"

 เสียงเอ่ยของเขา พร้อมกับอ้อมกอดที่กระชับแน่นเข้ามา

 เล่นเอาวิเวียนยิ่งใจสั่นไปถึงไหนต่อไหน

 

"บ้า ...... วิเวียนไม่ได้บอกสักคำว่ารักอาร์ต"

 

"งั้นเหรอ ....." ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเศร้า

 

 เขาคลายอ้อมกอดพร้อมกับแกะเธอออก

 เล่นเอาเธอพลอยหน้าเสียไปด้วย

 เธอก็เลยเข้ามากอดเขาหวังว่าจะออดอ้อนเอาใจ

 

"โธ่ อาร์ต .... วิเวียนล้อ .... ว๊ายยยยยยย !"

 

 หญิงสาวร้องเสียงหลง ก็นายอาร์ตน่ะสิ

 จับเธอกดอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่ทันระวังตัว

 ไม่แค่นั้นเขายังทาบร่างมากดทับเธออีกหนึ่งต่อ

 

"ฮ่าๆๆๆ โดนหลอกสนิทเลยน่ะ แม่มดน้อย"

 

 

 

"อาร์ตตตตต อาร์ตหลอกวิเวียนเหรอ นี่แน่ะๆ"

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป