ผมชื่อก้องครับ แม่ผมเคยเล่าว่าตอนผมเด็กๆ แม่ไปดูหมอมา หมอดูบอกว่าผมมีดวงแบบนักรักตัวยง มีเสน่ห์สาวติดเพียบ นารีอุปถัมภ์ ฯลฯ ผมไม่รู้เรื่องหรอกครับว่าเค้าพูดอะไรกัน มารู้ก็เมื่อผมเรียนอยู่ ม. 1
ผมชื่อก้องครับ แม่ผมเคยเล่าว่าตอนผมเด็กๆ แม่ไปดูหมอมา หมอดูบอกว่าผมมีดวงแบบนักรักตัวยง มีเสน่ห์สาวติดเพียบ นารีอุปถัมภ์ ฯลฯ ผมไม่รู้เรื่องหรอกครับว่าเค้าพูดอะไรกัน มารู้ก็เมื่อผมเรียนอยู่ ม. 1
เราขึ้นจากน้ำทันที ผมรีบไปเปิดฝักบัวราดรดเราสองคน
ซาย่าบอกว่า ไม่เอาอีกแล้วนะ เธอเจ็บปวดมาก
ผมเชื่อ...เพราะในน้ำร้อนของเธอมันแน่นมากผิดปกติ
ผมจูบปลอบใจซาย่า
ก่อนที่จะจับเธอยืนขึ้นและโก้งโค้งหันหลังมาทางผม
ผมใส่ควยเข้าไป มันดีขึ้นกว่าในออนเซนมากครับ
น้ำอุ่นจากฝักบัวพุ่งลงมาบริเวณปะทะของเราสองคนพอดี
มันชะล้างคราบน้ำหล่อลื่นของซาย่าออกตลอดเวลา
ทำให้มันฝืดขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
ซาย่าเงียบไปครับ ไม่รู้เป็นไง ไม่ส่งเสียงไม่แสดงอาการ
ผมยังคงทำต่อไป หีซาย่าเป็นสิ่งที่บอกผมว่าเธอกำลังจะถึงอีกแล้ว
ผมเร่งขึ้นอีกครั้งจนซาย่ากระตุกเสียวจนลงไปนั่งกองกะพื้น
ผมตามลงไปพลิกตัวเธอนอนหงายแล้วใส่ลงไปในตัวเธอทันที
มันฟิตแน่นด้วยการที่เธอโดนกระตุ้นมาระยะหนึ่งแล้ว
ซาย่าร้องกรี๊ดด้วยความเสียว
ผมคิดว่าต้องจบเกมนี้เสียที เราถอดเสื้อผ้าในน้ำนานแล้ว
ผมเร่งขึ้นซาย่าเกร็งตัว เธอมองหน้าผม
ก่อนจะหลับตาลงซึมซับความเสียวที่เกิดขึ้น
เกร็งตัวแน่นและขยับตัวบิดหนีลำควย
จนมันหลุดออกในจังหวะที่เธอถึงจุด และผมก็ถึงจุดเหมือนกัน
น้ำควยพุ่งอย่างแรงไปที่หน้าซาย่าและแนวอกของเธอ
มันแรงและจำนวนมากมาย ผมรูดจนมันออกหมด
แล้วก้มลงไปจูบปากซาย่าโดยไม่รังเกียจน้ำกามของตัวเอง
กลิ่นคาวมันคลุ้งเต็มห้องออนเซ็น
เราออกจากห้องออนเซน มันโล่งประหลาดมากครับ สบายตัวมากๆ
โล่งทั้งกายและทั้งกาม ซาย่าเองรู้สึกแบบเดียวกัน เธอชอบมันมาก
แต่ก็ไม่อยากทำมันแบบนี้อีกแล้ว
ซาย่าขอโทษที่ไม่ให้ผมน้ำแตกในตัวเธอ
เพราะเธอไม่ชัวร์ถึงระยะนั้น เธอบอกว่าจริงๆเราควรใส่ถุงยางกันนะ
เผื่อคราวแล้วยังไม่เกิดขึ้น เราก็จะยังปลอดภัย
โอ้จริงด้วย...เธอรอบคอบ ผมนี่เห็นแก่กามเสมอ คืนนั้น
หลังจากมือเย็นจบลง เราเริ่มกันอีกครั้ง
ตอนเช้าก่อนออกเดินทางเราก็ร่วมกันอีกที
ผมไม่เคยเบื่อซาย่าเลย สามวันสองคืนผมทำเธอไปถึง 6 ครั้ง
แม้ว่าจะไม่มากมาย
แต่มันพอที่จะทำให้ซาย่าเริ่มเจ็บแสบจากการเสียดสีตลอดเวลา
วันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ เราจัดกันอีกรอบ
ก่อนแยกย้ายกันไปจัดกระเป๋าและสิ่งที่มันหล่นออกมาจากเป้
ของผมคือ "ยาวิเศษ" 1 เม็ด ผมดีใจมาก รีบเอาไปให้ซาย่า
ผมไม่รู้เหมือนกันว่า...ทันหรือเปล่า...
เรากลับมาถึงบ้านซาย่าก็หกโมงกว่าแล้ว
เอมี่กะมิซ่ากำลังนั่งกินข้าว เมื่อได้ยินเสียงรถ
เธอทั้งสองก็ออกมารับ เราร่วมวงอาหารด้วยกัน
พรุ่งนี้ผมกลับแล้วครับ.. เราตกลงใจกันว่า เราจะคุยกัน
เราไม่ได้คุยกันธรรมดาหรอกครับ เราคุย "เรื่องนั้น" กันสามคน
ไม่ใช่เรื่องใหม่ ผมเคยรบกับเธอทั้งสามพร้อมกันมาแล้ว
ครั้งนี้แม้จะเป็นครั้งที่สองสำหรับสามสาวพร้อมกัน
ผมสู้สุดใจขาดดิ้น
ผมต้องใส่ถุงยางเพราะทั้งสามคนน่าจะอยู่ในช่วงอันตราย
มันยิ่งทำให้ผมใช้เวลากะเธอได้นานมาก
ถุงยางสารพัดแบบได้เอาออกมาใช้ผมเสร็จไปสามน้ำ
แต่สามคนนั้นไม่รู้เสร็จกันไปกี่ที มิซ่ากับเอมี่แทบจะคลานกลับห้อง
เธอทั้งสองคงไม่มีวันลืมคืนนี้
มันเป็นคืนสุดท้ายแล้วที่ผมจะนอนกับซาย่า ผมกอดเธอทั้งคืน
ผมบอกซาย่าว่า ผมอยากอยู่ในตัวของซาย่าทั้งคืน
เธอกอดจูบผมและเราเริ่มกันอีกครั้ง ครั้งนี้ของเราทั้งสอง ดูดดื่ม
ยาวนานเกือบชั่วโมง ผมไม่มีน้ำจะออกแล้ว
แต่มันชุ่มชื้นหัวใจผมเหลือเกิน
ตอนเช้าผมคืนเงินให้ซาย่าทั้งหมดที่ผมรับมา
รวมทั้งเงินที่เธอให้ผมไว้ 1 แสน
ผมบอกซาย่าว่าผมไม่ใช่ลูกจ้างของพวกเธอ ผมขอเธอเป็นแฟน
เธอพยักหน้าน้ำตาไหลแล้วกอดผม
เอมี่และมิซ่าติดตามพี่สาวเธอมาส่งผมที่สนามบิน คราวนี้ผมเป็นฝ่ายไป
เรากอดกันด้วยความรักทั้งสามคน
ผมไม่รู้เลยว่าอนาคตของพวกเราจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ซาย่าจะท้องกะผมมั๊ย เอมี่จะมีแฟนใหม่หรือเปล่า
มิซ่าจะเข้าเรียนแพทย์ได้สำเร็จมั๊ย
ตัวผมเองจะได้เจอกะพวกเธออีกมั๊ย การจากกันแต่ละครั้ง
มันทำให้ผมและเธอทั้งสามคนต้องร้องไห้อย่างไม่อายใคร
จนถึงวินาทีสุดท้ายที่ผมต้องเข้าไป
เอมี่กะมิซ่าเดินน้ำตานองหน้าเข้ามาหาผม
ผมกอดเอมี่ด้วยความรักน้องคนนี้
ผมบอกเอมี่ว่าอย่าลืมที่ผมบอกนะแล้วเราจะเจอกันอีก
เอมี่พยักหน้า มิซ่าเป็นคนต่อไป
ผมบอกเธอว่าขอให้เธอโชคดีนะเข้าเรียนแพทย์ได้สำเร็จ
เราจะเจอกันอีก มิซ่าร้องไห้หนักมากกว่าทุกคน
เธออยากมีพี่ชายแบบผมมานานแล้ว สุดท้ายคือซาย่า ผมไม่พูดอะไร
ผมเอาปากจูบเธออย่างดูดดื่มโดยไม่อายใคร ผมกอดเธอแน่น
แค่นั้นเธอก็รู้แล้วครับว่ามันหมายถึงอะไร ผมรักเธอมากเหลือเกิน........
แล้วเราคงจะได้เจอกันอีก.....
ภาค5
ผมกลับจากญี่ปุ่นครั้งนั้นด้วยความอิ่มเอมใจและดีใจเป็นที่สุด
ซาย่ารับผมเป็นแฟนแล้ว โดยเอมี่และมิซ่าไม่ได้เสียใจเลย
กลับเห็นด้วยกับการกระทำของเรา แต่เราอยู่ไกลกันเหลือเกิน
ผมรอรับฟังข่าวจากซาย่าด้วยใจหวั่นวิตกว่าซาย่าจะท้องหรือเปล่า
และในที่สุดซาย่าก็บอกว่าเธอมีเมนส์เรียบร้อย
การพบกันของเราสองคนครั้งต่อไป คือช่วงปลายๆเดือนมีนา
ผมตั้งตารอวันนั้น...
ส่วนเรื่องของผมกับเจน แม้ผมจะคิดถึงเจนตลอดเวลา
แต่เราห่างกันออกไปเรื่อยๆ เจอกันทักทายกัน
แต่เธอรักษาระยะจากผมมากพอควร
ผมไม่รู้ว่าเจนคิดอะไรอยู่ เจนยังคงโกรธผมจากวันนั้นหรือเปล่า
ไม่ยอมไปกินข้าวด้วย ไม่เดินคุยกันสองคน
ไม่โทร ไม่ไลน์ ไม่ไปมาหาสู่
ซึ่งเรื่องหลังคงยากมากเพราะเจนต้องเดินทางไปกลับสัตหีบทุกวัน
มันเลยทำให้ผมห่างเจนออกไปทุกที
ยิ่งพอซาย่ายอมรับผมเป็นแฟนแล้ว
ผมเองก็ห่างเจนออกไปมากจนผมคิดว่ามันคงจบสิ้นกันแค่นี้
สำหรับเรื่องกามทั้งหลาย
ผมเหลือเพียงเก๋และแบมซึ่งผมว่าพอแล้ว
และผมก็ไม่อยากสร้างเรื่อง ให้มันมากมายไปกว่านี้อีก
ทั้งสองคนเอาอกเอาใจใส่ผมไม่มีขาดตกบกพร่อง
และยังมีอยู่อีกคนที่ยังไม่เคยลืมผมและผมก็ยังไม่เคยลืม
"ก้องนะ.... พี่แก๋มเอง เสาร์นี้ไปไหนหรือเปล่า อยู่บ้านมั๊ย"
เสียงพี่แก๋มมาทางโทรศัพท์
"หวัดดีพี่...มีไรคับ ให้ผมไปช่วยย้ายเตียงอีกเหรอ...."
"ไอ้บ้า....ไม่ใช่เรื่องนั้น ไปกะพี่ กลับบ้านพี่ที่พิจิตรหน่อย"
"ห๊า...อะไรนะ ไปเจอพ่อพี่แก๋มน่ะเหรอ
น่ากลัวไปมั๊ยอ่ะพี่ มีเรื่องไรเหรอ"
"เมนส์พี่เดือนนี้ยังไม่มานะก้อง พี่คงจะท้อง..."
"เฮ้ยยยยยย.....พี่......พูดจิงดิ....กะผมเหรอ"
"เออดิ...จะใครหละ ตอนนี้พี่ไม่มีแฟนนะก้อง
หรือก้องจะเป็นเหมือนคนอื่นๆที่บอกว่าไม่ใช่ลูกเธออีก..."
ผมตกใจสุดขีดเมื่อรู้ว่าพ่อของลูกพี่แก๋มคือผม
และผมจินตนาการว่าต้องนั่งอยู่หน้าพ่อพี่แก๋ม
เรื่องมันเป็นไปได้ด้วยสิเพราะ
พี่แก๋มมาหาผมหลังจากผมกลับจากญี่ปุ่น
และผมก็ระลึกถึงซาย่า
และน้องทั้งสองผ่านพี่แก๋มไปอย่างไม่ยั้ง
ชิบหายแล้วกู....ยุ่งมากแน่นอนคราวนี้
ทำไมผมชอบอยู่บนความเสี่ยงนักวะ ตอนทำ...ก็คิดว่าให้พี่แก๋มกินยา
แล้วพี่แก๋มได้กินหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้ผมจะจัดการไงเนี่ย
ซาย่าจะว่าไง...ถ้าผมทำพี่แก๋มท้อง
"โอเค..พี่ ผมไปคุยกะพ่อพี่เอง พี่เอาลูกเราไว้นะ
อย่าทำไรลูกเรา ผมดูแลพี่เอง"
"อืมม์...ไปวันศุกร์เลยนะ เลิกเรียนแล้วไปเลย..."
"พี่... เสาร์เช้าก็ได้นะ"
"ไม่อ่ะ พี่อยากรีบๆบอกพ่อให้ชัดเจน จะได้เลิกกลัวเลิกกังวล"
ผมประสาทแดกไปอีกสามวัน จนถึงวันศุกร์
พี่แก๋มก็ขับรถมารับผมที่คอนโด พี่แก๋มให้เตรียมชุดไปค้าง 2 คืนด้วย
"พี่....ผมขับเอง พี่ไปนั่งข้างๆ"
"เรียนมาเหนื่อยหรือเปล่า พี่ขับได้...พิจิตรแป๊บเดียวเอง"
"ไม่ได้พี่ กระเทือนลูกเราหรือเปล่า ไปนั่งข้างๆเร็วพี่"
ผมจูงมือพี่แก๋มมานั่งข้างซ้ายก่อนผมจะประจำที่นั่งคนขับ
รถคันนี้คุ้นเคย บีเอ็มซีรีส์ 3 รุ่นเดียวกะที่ขับให้ซาย่า
ดังนั้นผมออกรถด้วยความชำนาญ
และมุ่งหน้าฝ่ารถติดวันศุกร์ของกรุงเทพไปขึ้นทางด่วน
ซึ่งทางด่วนก็ไม่ได้ดีไปกว่าทางปกติเท่าไหร่
กว่าเราจะฝ่าการจราจรจนพ้นอิมแพคก็ห้าโมงกว่าแล้ว
พอรถโล่งผมก็เหยียบเลย
"เฮ้ย...ไม่ต้องรีบ ขับไปเรื่อยๆ นี่เท่าไหร่แล้ว
เฮ้ย...ไอ้ก้อง นี่มัน 140 แล้ว พอๆๆๆ เดี๋ยวโดนใบสั่ง"
"พี่ เราจะไปถึงบ้านพี่กี่โมง เดี๋ยวโดนพ่อพี่ด่าแหลก"
"ไม่หรอก พี่ขับบ่อยๆ ก็ราวๆ สี่ห้าทุ่มก็ถึง ถ้าแวะกินข้าวก็เที่ยงคืน"