เธอ ‘หัวหน้าแม่มดแห่งเมียวเจี่ยง’ เกิดใหม่ในร่างสาวน้อยที่น่าสมเพชที่ถูกทุกคนรุมรังแก เธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงและโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจบันเทิงและกลายเป็นเจ้าชายแห่งชาติที่มีเสน่ห์ต่อหัวใจของหญิงสาว
เธอ ‘หัวหน้าแม่มดแห่งเมียวเจี่ยง’ เกิดใหม่ในร่างสาวน้อยที่น่าสมเพชที่ถูกทุกคนรุมรังแก เธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงและโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจบันเทิงและกลายเป็นเจ้าชายแห่งชาติที่มีเสน่ห์ต่อหัวใจของหญิงสาว
ตอนที่ 23: น่าอายจริงๆ (Re-edited)
"ครับ" หลิงจื่อเงยหน้าขึ้นอย่างเฉยเมย
หลิงเจิ้นเซิงมองดูตัวเอง หลิงเซิง และหลิงจื่อ เขาโกรธมาก แต่ต้องระงับความโกรธเอาไว้
ยังมีเวลาอีกสองวัน ถ้าหลิงจื่อไม่สามารถสอบเข้าเรียนในโรงเรียนดีๆ ได้ เขาจะต้องตัดใจทิ้งลูกชายคนนี้ไป นั่นเป็นเพราะเขาไม่สามารถทนต่อความคิดเห็นของประชาชนได้
“อิ่มกันหรือยัง ถ้าอิ่มแล้วก็กลับกันได้แล้ว” หลิงเจิ้นเซิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และมองไปที่คนในครอบครัว
หลิงอิงวางตะเกียบลงและพยักหน้า
หลิงเซียวพยักหน้าเช่นกัน แต่ดวงตาของเขามองไปที่พี่ชาย
"ไปกันเถอะ" หลิงเจิ้นเซิงลุกขึ้นและเดินออกจากประตูไป เขาเดินเร็วขึ้นกว่าปกติเพื่อไปจ่ายเงิน
หลิงจื่อเดินตามหลังพวกเขาโดยที่มือสองข้างซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกง
หลิงอิงหันกลับมามองเขา หลิงจื่อผิวปากใส่เธอและมุมปากของเขาก็ยกขึ้นน้อยๆ
หลิงอิงตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอหันหน้ากลับไปและจับมือแม่ของเธอไว้
หลิงเซียวและหลิงเซิงเหลือบมองเธอในเวลาเดียวกัน หลิงจื่อในยามนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาเริ่มทำตัวน่ารังเกียจและน่ารำคาญมากขึ้นเรื่อยๆ
หลิงจื่อหัวเราะคิกคัก ไม่สนใจสายตาของพวกเขาที่จับจ้องมา
“ท่านจื่อ มีออร่าสังหารพุ่งเป้ามาที่ท่านขอรับ” เสียงของถังหยวนดังขึ้นในหัว
"หืม" หลิงจื่อได้ยินดังนั้นก็หันหลังไปมองด้านหลัง ที่หน้าประตูห้องอาหารส่วนตัวที่พวกเขาเพิ่งออกมา มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น ร่างสูงเพรียวของเขาพิงกำแพง ใบหน้าหล่อเหลามองมาที่หลิงจื่ออย่างเย้ยหยัน ในมือของเขาคีบบุหรี่ไว้อยู่ด้วยท่าทางเกียจคร้าน
หลิงจื่อรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้อันตรายมาก แต่...
เธอผิวปากและใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอก็สะกดสายตาของเขา จากนั้นเธอก็หันหน้ากลับไป และเดินหายตัวไปพร้อมกับกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้า
เยว่ฉานตกใจเล็กน้อย เด็กคนนั้นกำลังล้อเลียนเขาใช่ไหม
หลิงจื่อและหลิงเจิ้นเซิงนั่งรถคันเดียวกันเหมือนตอนขามา ส่วนรถอีกคนเป็นของพี่น้องตระกูลหลิงและมู่เสวี่ยหลิง ภายในรถเงียบมาก และไม่มีใครถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลิงเซิง
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หลิงจื่อก็เดินตรงขึ้นบันไดไปที่ห้องของเธอ
หลิงเจิ้นเซิงเรียกหลิงเซิงและหลิงเซียวให้ไปอยู่ในห้องหนังสือ ตอนบ่ายถึงจะปล่อยพวกเขาออกมา
“เจิ้นเซิง คุณเข้มงวดกับลูกมากเกินไปแล้ว” หัวใจของมู่เสวี่ยหลิงเจ็บปวดเมื่อเห็นลูกชายสองคนกำหมัดแน่น
ลูกของเธอก็ลูกของเขาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ส่วนไอ้ลูกเมียน้อยนั่นเขากลับไม่ว่าอะไร แต่ปฏิบัติต่อลูกของเธออย่างโหดร้าย
รอยยิ้มประชดประชันส่องประกายในดวงตาของมู่เสวี่ยหลิง หลิงเจิ้นเซิง คุณไม่ได้รักฉันเลย แม้แต่ลูกชายที่ฉันให้กำเนิดก็ไม่สามารถเทียบได้กับไอ้เด็กเปรตที่ผู้หญิงคนนั้นคลอดออกมา!
“เข้มงวดเกินไป? ลูกชายคนโตของคุณกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย และตอนนี้เขาบอกว่าเขาไม่สามารถแม้แต่จะท่องสูตรคูณได้ ถ้าเขายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขายังจะทำอะไรได้อีก”
“เจิ้นเซิง การสอบเข้ามหาวิทยาลัยคงไม่ใช้สูตรคูณ…”
“ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในประเทศนี้ตลอดชีวิตที่เหลือ เขาไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาอังกฤษงั้นเรอะ!”
“…”
“ความใจอ่อนของผู้หญิง” หลิงเจิ้นเซิงบี้ก้นบุหรี่ลงที่เขี่ยบุหรี่ แล้วหันหลังกลับเดินเข้าไปในห้องหนังสือ
มู่เสวี่ยหลิงกัดริมฝีปาก ไม่ได้พูดอะไร หลิงเซียวนั่งเงียบๆ บนโซฟาและเช็ดน้ำตาของเขา หลิงเซิงได้ขึ้นไปชั้นบนแล้ว
หลิงอิงก็กำลังเช็ดน้ำตาของเธอเช่นกัน เธอเคยหยุดเรียนไปหนึ่งปีเพราะสุขภาพไม่ดี ปีหน้าเธอถึงจะสามารถสอบเข้าม.ต้นได้
เมื่อหลิงจื่อลงมาเอาน้ำดื่มที่ชั้นล่าง เธอเห็นทั้งครอบครัวร้องไห้ โดยเฉพาะหลิงเซียว เขายังโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของมู่เสวี่ยหลิงและร้องไห้อย่างขมขื่น
ร่างกายของหลิงจือสั่นสะท้าน ผู้ชายที่โตแล้วดันร้องไห้แบบนี้ นี่เขาไม่รู้สึกว่ามันน่าอายจริงๆ เหรอ
เธอหยิบแก้วน้ำแล้วขึ้นไปชั้นบน เธอพูดไม่ออกจริงๆ
“ท่านจื่อ ท่านเองก็จะเป็นอย่างนั้น ถ้าหากยังไม่ตั้งใจเรียน ท่านไม่รู้หรอกว่าหลิงเจิ้นเซิงมีความทะเยอทะยานแค่ไหน เขาสนใจตำแหน่งของเขาจริงๆ นะขอรับ”
“ก็พอมองออก” หลิงจื่อจิบน้ำ จากนั้นเธอก็เลิกคิ้วและยิ้มอย่างลึกลับ “ดังนั้น...ถังหยวน...คืนนี้เจ้าไปหาของกินอร่อยๆ กิน”
เรื่องเรียนเหรอ ช่างหัวมันสิ!