Your Wishlist

ดินแดนมหัศจรรย์ (ดินแดนมหัศจรรย์)

Author: xxx555

เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland

จำนวนตอน :

ดินแดนมหัศจรรย์

  • 09/08/2568

คราวนี้แวมไพร์สาวกลับรู้สึกเหมือนถูกตรึง

จนไม่อาจจะขยับเขยื้อนได้ 

อีกทั้งร่างก็ถูกยกให้ลอยขึ้นกลางอากาศ

 

 

"ท่าทางลูกไม้ของพวกเจ้า จะใช้ไม่ได้กับ 'เวทย์โลกเก่า' สิน่ะ"

 

 วิเวียนเอ่ยขึ้นก่อนจะก้าวเข้ามาหาช้าๆ ที่แท้

 เวทย์มนต์ที่เธอกำลังใช้อยู่นี้ 

ก็คือเวทย์หนึ่งในหมู่ 'เวทย์โลกเก่า' นี่เอง

 

'เวทย์โลกเก่า' ก็คือเวทย์ในยุคเริ่มแรกของ wonderland

 เป็นเวทย์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวก

ในชีวิตประจำวัน อย่าง เคลื่อนตำหนัก

 

 ก็มีประโยคเอาไว้ใช้เคลื่อนย้ายสิ่งของไปมา

 ซึ่งต่อมาก็มีคนนำมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้บ้างเป็นต้น

 แต่เมื่อเวลาผ่านเลยไป ได้มีการค้นพบพลังธาตุจักรวาล

 

 เวทย์ชนิดใหม่ที่มาการนำพลังธาตุมาใช้จึงถูกนำมาแทนนี่

 เนื่องจากเวทย์พวกนี้มีอานุภาพมากกว่า

 เวทย์โลกเก่า จึงค่อยๆเลือนหายไป

 

แต่เหมือนโชคเข้าข้าง เพราะเวทย์โลกเก่าเหล่านี้

วิเวียนได้บังเอิญมาพบเข้า แล้วได้ลองฝึกดูสนุกๆ

 และการฝึกสนุกๆของเธอในครั้งนั้น กลับส่งผลดีเกินคาด

 

 เพราะมันคือตัวแปลสำคัญที่ทำให้

เธอพลิกสถานการณ์ได้ในตอนนี้ 

เพราะในสถานการณ์ ณ เวลานี้

 เวทย์มนต์ชนิดเดียวที่สามารถใช้ได้

 ก็คือเวทย์ที่ไม่ต้องพึ่งพลังธาตุเช่นนี้นี่เอง

 

"ย๊ากกกกกกก" วิเวียนร้องลั่น ก่อนจะกระแทกมือไปข้างหน้า

 พริบตานั้นแรงกระแทกมหาศาลก็ซัดเข้าร่างของเวโรนิก้าเต็มๆ

 ร่างของแวมไพร์สาวพุ่งกระเด็นไปในอากาศ

 

 ลอยคว้างเลยผ่านยอดดาดฟ้า แล้วปลิวหายไปยังพื้นเบื้องล่าง

 

"สำเร็จไหม" วิเวียนเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินตามไปเพื่อดูผลงาน

 แต่เธอก็เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเท่านั้น เพราะฉับพลัน

 ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังเข้ามาในหัวเธอ

 

"วิเวียนช่วยด้วยยยยย !!"

 

"อาร์ตตตตต" วิเวียนร้องขึ้นอย่างตกใจ

 ที่แท้เสียงที่ส่งมาก็เป็นเสียงของนายอาร์ต

ที่ส่งผ่านเวทย์เชื่อมจิตมานี่ เอง 

พรีสสาวงุ่นงงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น 

 

นายอาร์ตตกอยู่ในอันตรายอย่างนั้นหรือ

 จะเป็นไปได้อย่างไรกัน

 ก็ในเมื่อตอนนี้เขาอยู่ในโบสถ์คาดินัลล์

ที่น่าจะปลอดภัยที่สุดในเมืองแล้ว นี่

 

แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาสงสัยแล้ว 

พรีสสาวร่ายเวทย์เชื่อมจิตทันที พริบตานั้น

 วงกลมสีแดงก็ปรากฏขึ้นเบื้องล่าง ว่าแล้วเธอก็ไม่รอช้า

 กระโจนเข้าไปกลางวงก่อนที่ร่างของเธอจะหายวับไป

 

ไม่กี่นาทีก่อนหน้า

 

"ตูมมมมมม" เสียงระเบิดที่ดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง

 ดึงดูดความสนใจของนายอาร์ตให้มองตามไปนอกหน้าต่าง

 ภาพที่เขาเห็นก็คือ ร่างน้ำขนาดยักษ์ของแวมไพร์ชอลลี่

 

 กำลังอาละวาดอย่างหนัก

 พร้อมกับมีประกายแสงระเบิดตูมตามอยู่รอบด้าน

 บ่งบอกให้เขาได้รับรู้ว่า

 

 ตอนนี้การปะทะนั้นหนักหน่วงเพียงใด

 จนตัวเขาอดนึกถึงวิเวียนไม่ได้ เพราะถึงแม้เธอจะเป็นคนเก่ง

 แต่ถ้าไปอยู่ในวงปะทะนี้ เธอจะปลอดภัยดีไหม

 

"คุณอาร์ต เดินต่อเถอะครับ"

 พรีสหนุ่มที่เดินนำอยู่หันมาเอ่ยเตือน

 นอกจากพรีสหนุ่มตรงหน้าคนนี้แล้ว

 

 

 ด้านหลังนายอาร์ตก็มีพรีสเดิมตามอีก 3 คน

 ทั้งหมดนี้เป็นองครักษ์ส่วนตัวของแองเจลล่า

 ที่ส่งมาคุ้มครองเขาเป็นพิเศษ

 

"ครับ" นายอาร์ตเอ่ยรับคำ 

ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตามไปทันที

 ในขณะที่พรีสหนุ่ม 3 คนที่อยู่ข้างหลัง

ไม่ได้เร่งฝีเท้าเดินตามมากนัก

 

 ทำให้ระยะระหว่างพวกเขากับ

นายอาร์ตค่อยๆขยายกว้างเรื่อยๆ

 จนเมื่อเห็นว่าระยะได้ห่างพอสมควรแล้ว

 1 ใน 3 ก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

 

"ทำไมต้องยุ่งยากพามันห้องโซนในด้วยว่ะ

 ก็ฆ่ามันซะตรงนี้เลยสิ !!"

 

"ไม่ได้" พรีสอีกคนเอ่ยแย้ง 

 

"ฆ่าตรงนี้มันประเจิดประเจ้อเกินไป

 เพราะถึงยังไงมันก็เป็นมนุษย์

 พรีสอย่างเราฆ่ามนุษย์ตายมันจะเสียชื่อ

 ที่ถูกต้องก็คือเราต้องหาที่ลับตาก่อนแล้วฆ่ามันซะ

 แล้วค่อยจัดฉากว่าเป็นฝีมือของพวกแวมไพร์"

 

"แต่ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ะ" พรีสคนเดิมยังเอ่ยต่อ 

"ถ้าเราฆ่ามันจะเป็นอะไรไปว่ะ มันใช่มนุษย์ที่ไหน

 แต่มันคือร่างอวตารของอาลูคาร์ดน่ะเว้ย"

 

"พวกเจ้าไม่ต้องพูดมากหรอกน่า"

 พรีสที่เหลืออีกคนเอ่ยตัดบท

 "นี่เป็นคำสั่งของท่านแองเจลล่า เราแค่ทำตามก็พอ !!"

 

เพียงเท่านี้ พรีสทั้ง 3 คนก็ไม่มีสิ่งจะสนทนาต่อ

 พวกเขาเร่งฝีเท้าขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อตาม 2 คนหน้าให้ทัน

 

 ในขณะที่นายอาร์ตที่เป็นหัวข้อในการสนทนาเมื่อครู่

ไม่ได้สังเกตเห็น แถมเขายังเดินตามพรีสคนหน้า

ต่อแต่โดยดีโดนที่ไม่ได้เอะใจอะไรเลย และไม่นานนัก

 

 เขาก็เดินทางมาถึงจุดหมาย มันเป็นบานประตูห้องห้องหนึ่ง

 โดยที่พรีสที่เดินนำเขามาได้เฉลยให้เขาทราบว่า

 

 นี่คือห้องนิรภัย เอาไว้ใช้คุ้มกันบุคคลระดับสูง

 ซึ่งรับประกันในเรื่องความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน

 

ว่าแล้วพรีสคนนั้นก็เปิดประตูห้องออก 

แล้วเชิญนายอาร์ตให้เดินเข้าไป 

ซึ่งนายอาร์ตก็เดินตามเข้าไปแต่โดยดี

 

 โดยที่เขาไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า

 ห้องนี้มันก็เป็นแค่ห้องพักหรูหราธรรมดาๆนี่เอง

 ไม่ได้มีระบบรักษาความปลอดภัย

ที่ดีกว่าห้องอื่นๆตรงไหนเลย ที่พรีส 4 คนเลือกห้องนี้

 

 ก็แค่เพราะห้องนี้อยู่ในจุดที่ลับตาคน

 ตรงตามที่พวกมันวางแผนไว้เท่านั้นเอง

 

เมื่อส่งนายอาร์ตเข้าไปแล้ว 

พรีสหนุ่มคนนั้นก็หันมายิ้มร้ายกับพรีส 3 คนที่เดินตามหลังมา

 

 ก่อนที่เจ้าพรีสคนนั้นจะค่อยเดินตามนายอาร์ตเข้าไป

 แล้วค่อยๆปิดประตูลงช้าๆ

 โดยที่มันจะเป็นผู้รับบทมือสังหารในภารกิจนี้แต่เพียงผู้เดียว

 

"คุณอาร์ตออกมาจากระเบียงและ

หน้าต่างดีกว่าไหมครับ มันอันตราย" 

เจ้าพรีสหนุ่มคนนั้นเอ่ยเตือน

 

"ครับ" นายอาร์ตหันมาตอบ 

พร้อมกับขยับเดินห่างออกมาแต่โดยดี 

โดยที่เขาไม่ได้รู้เลยว่านี่มันกลลวง

 

 

 

 เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าพรีสหนุ่มตีสองหน้า

 ได้มีจังหวะเดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อที่จะจัดการเขา 

และเมื่อได้จังหวะ มันก็ลงมือในทันที

 

"ย่าห์" เจ้าพรีสหนุ่มร่ายเวทย์ประจำตัวเบาๆ

 พริบตานั้นมือขวาของมันก็ลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิง

 มันยิ้มร้ายออกมาอย่างเหี้ยวเกรียม

 

 ก่อนจะขยับเข้าหานายอาร์ตจากด้านหลัง

 แต่ก็ซัดเปลวเพลิงนั้น เข้าใส่ร่างของเขาทันที

 แต่พริบตานั้นเรื่องไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น

 

 เปลวไฟที่ทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ร่างนายอาร์ต

 อยู่ดีๆก็มอดดับไปเสียเฉยๆ ทำเอาเจ้าพรีสหนุ่ม

 ถึงกลับตกตะลึงตาค้าง อย่างไม่เชื่อในสายตา

 

"มีอะไรหรือเปล่าครับ" นายอาร์ตหันมาถามด้วยความสงสัย

 ที่อยู่ๆพรีสคนนี้ก็ทำท่ายื่นมือยืนไม้แปลกๆ

 

 ทำเอาเจ้าพรีสหนุ่มต้องหัวเราะเปล่งๆแก้เก้อไปก่อน

 แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นดุร้าย เมื่อนายอาร์ตหันหลังกลับไป

 

ที่แท้ที่เจ้าพรีสหนุ่มใช้เวทย์มนต์ไม่ได้

 ก็เพราะอนุภาพของอนุภาคลูบินนอฟนี่เอง

 เพราะอนุภาคนี้มีคุณสมบัติในการปั่นป่วนกระแสธาตุ

 

 ไม่ให้นำมาใช้เป็นพลังเวทย์ได้ ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ในอาคารก็เช่น

 แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครมาเฉลยข้อสงสัยนี้แก้เจ้าพรีสหนุ่ม

 มันจึงต้องงุ่นงงกับเหตุการณ์นี้ต่อไป

 

แต่เจ้าพรีสหนุ่มทั้ง 4 คนนี้ก็ไม่ใช่พรีสธรรมดา

 เพราะพวกมันเป็นถึงองครักษ์ส่วนตัวของแองเจลล่า

 พวกมันจึงมีเอกลักษณ์ก็คือ มีดาบอัศวินพกติดตัวกันทุกคน

 

 เนื่องจากแองเจลล่าเป็นพวกคลั่งไคล้ผู้ที่ใช้ดาบเก่งกาจ

 เหล่าองครักษ์เหล่านี้ นอกจากฝึกเรื่องเวทย์ตามปกติแล้ว

 พวกมันยังต้องฝึกฝนการใช้ดาบอีกด้วย

 

 ดังนั้นเมื่อเจ้าพรีสหนุ่มคนนี้ใช้เวทย์สังหารนายอาร์ตไม่ได้

 มันก็ชักดาบออกจากฝัก ก่อนจะพุ่งเข้าฟันเขาในทันที

 

แต่พริบตานั้น อยู่ดีๆก็มีแส้เหล็กฟาดลงมาจากเพดาน

 ก่อนจะตวัดเข้าที่ลำคอของเจ้าพรีสหนุ่ม

 แล้วกระชากมันลอยขึ้นไปเหนือพื้น เจ้าพรีสหนุ่ม

 

 ถึงกลับดิ้นรนทุรนทุรายอย่างหนักเพื่อเอาชีวิตรอด

 สายตาก็มองไปยังเบื้องบนเพื่อดูว่าแส้เหล็กนี้ 

มันเกิดจากฝีมือของใคร

 

 

"แวมไพร์" เจ้าพรีสหนุ่มร้องอย่างไม่เชื่อสายตากับภาพที่เห็น

 เจ้าของแส้นี้ก็คือแวมไพร์ตนนึงที่รอบเข้ามาในห้องนี่เอง

 ลอบเข้ามาได้อย่างไร ลอบเข้ามานานเมื่อไหร่ 

 

ทำไมเขาถึงไม่รู้ตัว คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวเขา

 แต่ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจมันอีกแล้ว

 เขารวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายตวัดดาบเข้าใส่

 เพื่อหมายจะเอาชีวิตรอด

 

"ฮ่าๆๆๆ" เจ้าแวมไพร์หัวเราะอย่างขบขันกับการกระทำนั้น

 นั่นก็เพราะระยะดาบในมือของเจ้าพรีสหนุ่มคนนี้มันสั้นเกินไป

 จนไม่อาจจะถูกตัวมันได้เลยแม้แต่น้อย

 

 ก่อนที่เจ้าแวมไพร์จะยุติการกระทำที่ไร้สาระนั้น

 ด้วยการกระตุกแส้อย่างแรง

 เพียงเท่านี้คอของเจ้าพรีสหนุ่มก็หักสะบั้นขาดใจตายทันที

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป