Your Wishlist

ดินแดนมหัศจรรย์ (ดินแดนมหัศจรรย์)

Author: xxx555

เสียงคำรามของท้องฟ้าที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่วยปลุกคืนที่เงียบสงัดให้ตื่นจากภวังค์ราวกับราตรีที่ยาวนานได้ผ่านพ้นไป จะว่าไปแล้วก็เหมือนดังความสุข ที่มักอยู่กับเราแค่ไม่นาน ใช่ เหมือนกับ wonderland

จำนวนตอน :

ดินแดนมหัศจรรย์

  • 04/08/2568

"อย่ามาพูดมาก เข้ามาเลยดีกว่า"

 

ทันทีที่เวโรนิก้าพูดจบ เจ้าสโตรเฮดก็พุ่งเข้าใส่ทันที

 ร่างกายที่สูงใหญ่แถมยังสวมเกราะหนา

 ไม่ได้สร้างความหวั่นเกรงให้แวมไพร์สาวแม้แต่น้อย

 

 แถมเธอกลับพุ่งทะยานเข้าใส่เช่นเดียวกัน

 ร่างทั้งคู่วิ่งเข้าหากันด้วยความเร็วสูง จนเมื่อเข้าระยะโจมตี

 สโตเฮดก็ปล่อยหมัดออกไปทันที

 

แต่แล้วเวโรนิก้ากลับใช้วิธีสไลด์หลบ

รอดหว่างขาของสโตนเฮดออกไปได้อย่างสวยงาม

 แต่ไม่ทันที่เจ้าสโตนเฮดจะได้ทำอะไรต่อ

 

 แวมไพร์สาวก็พลิ้วร่างหนีออกไปได้ไกลเสียแล้ว ............

 ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะตัวเวโรนิก้า

ตั้งใจหลบหนีตั้งแต่แรกอยู่แล้วนั่นเอง

 

และจุดหมายที่แวมไพร์สาวต้องการไปก็คือเขตแดนของแวมไพร์

 ซึ่งถ้าเธอหนีเข้าไปได้ พวกพาลาดินก็ไม่อาจจะตามได้ต่อ

 แต่การจะหนีกลับไปได้นั้น

 

 

 เธอยังต้องผ่านสองจุดใหญ่ๆนั่นก็คือ

แนวภูเขาหินกับทุ่งโล่งกว้าง

 เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอจึงเร่งฝีเท้าเข้าไปอีก

 จนเริ่มเห็นที่หมายอยู่ตรงหน้า

 

แต่ไม่ทันที่เธอจะเข้าถึงแนวภูเขาหิน

 กระสุนเวทย์น้ำแข็งก็ยิงกราดใส่เธออีกชุด

 จนเธอต้องพลิ้วกายหลบตรงข้างทาง ......

 

 เป็นไอซ์เอจนั่นเองที่มาดักรอเธออยู่

 เพราะมันเองก็คาดการไว้แล้วว่าเธอจะมุ่งมาที่นี่

 จึงมาดักรอโจมตีตรงทางเข้าภูเขาหินพอดี .......

 

 แต่แวมไพร์สาวยังมีโชคอยู่บ้างตรงที่ได้โขดหินใหญ่น้อยคอยกำบัง

 

"เปลี่ยนโหมดกระสุนระเบิด" 

เมื่อกระสุนยิงกราดใช้ไม่ได้ผล

 ไอซ์เอจจึงเปลี่ยนระบบกระสุนใหม่

 

 เขาเอ่ยคำสั่งกับปืนคู่ใจซึ่งมันก็ขานรับโดยการเรืองแสงขึ้นมา

 และเมื่อการเปลี่ยนโหมดเสร็จสิ้น

 ไอซ์เอจก็ประทับยิงทันที

 

"วื๊ดดดดด" เสียงรวมพลังของปืนหินธาตุดังลั่นตามด้วย "บรึมมมมมม"

 

 กระสุนเวทย์ลูกยักษ์ยิงออกไปทันที

 ก่อนที่มันจะกระทบเข้ากับโขดหินที่แวมไพร์สาวหลบอยู่

 เจ้าโขดหินยักษ์กลายสภาพเป็นก้อนน้ำแข็งในทันที

 

 ก่อนที่มันจะระเบิดออกอย่างรุนแรง

 จนสะเก็ดน้ำแข็งกระจายออกเป็นวงกว้าง .......

 แต่ยังดีที่แวมไพร์สาวระวังตัวอยู่แล้ว

 

 เธอจึงกระโดดหลบไปยังโขดหินที่อยู่ด้านข้างได้ทันท่วงที

 มีเพียงบาดแผลที่ได้รับจากสะเก็ดน้ำแข็งเล็กน้อยเท่านั้น

 

"ยังมีต่อ" เจ้าพาลาดินแห่งน้ำตะโกนลั่น

ก่อนจะยิงกระสุนเข้าใส่ทันที

 ทำให้แวมไพร์สาวต้องกระโดดหลบไปมาอย่างทุลักทุเล

 

 แต่หลังจากที่ต้องหลบกระสุนอยู่ครู่ใหญ่

 แวมไพร์สาวก็สังเหตุอะไรได้บางอย่าง

 ปืนนี้แม้จะมีอานุภาพสูง 

 

แต่ก็มีระยะดีเลย์ก่อนยิงและหลังยิงอยู่เล็กน้อย

 ซึ่งถ้าเธอจับจังหวะดีๆก็สามารถหลบได้ ไม่แค่นั้น

 แนวหินใหญ่น้อยที่เรียงรายนี้ถ้าใช้บังดีๆ

 

 ก็สามารถพาเธอเข้าถึงตัวเจ้าพาลาดินได้เช่นกัน

 เมื่อเป็นเช่นนี้เธอจึงเริ่มลงมือตอบโต้ทันที

 

แวมไพร์สาวตั้งสมาธิใช้การฟังเสียง

การทำงานของปืนเพื่ออ่านจังหวะ

 ก่อนจะพุ่งตัวไปยังโขดหินที่อยู่ตรงหน้า

 

 ทำให้เธอสามารถหลบกระสุนเวทย์ได้ทัน

 แถมยังร่นระยะระหว่างเธอกับเจ้าพาลาดินตรงหน้าได้อีกด้วย

 

 และเมื่อการหลบครั้งแรกได้ผล

 แวมไพร์สาวก็พุ่งหลบไปตามโขดหิน 

จนเธอเข้าใกล้เป้าหมายไปทุกที

 

"บ้าเอ๊ยยยยย" พาลาดินแห่งน้ำร้องอย่างเดือดดาด

ก่อนจะยิงเข้าใส่แวมไพร์สาวตรงหน้า

 แต่สุดท้ายกระสุนของเขาก็ทำลาย

 

ได้แค่โขดหินที่ตั้งเรียงรายเท่านั้น

 แวมไพร์สาวรุกคืบเข้าใกล้เขาไปทุกขณะ

โดยไม่อาจจะหยุดยั้งได้ 

หลายครั้งที่เขาหันไปทำลายโขดหินล่วงหน้า

 

 แต่ผลของมันก็แค่ทำให้แวมไพร์สาวเปลี่ยนทาง

ที่จะเข้าใกล้เขาเท่านั้นเอง และในที่สุด

 แวมไพร์สาวก็หลุดแนวโขดหินพุ่งเข้าใส่เขาทันที

 

 

แต่นั่นมันก็เข้าแผนร้ายของเจ้าพาลาดินอย่างจัง

 

 

เพราะทันทีที่แวมไพร์สาวเขาถึงตัวเขา

 มีดบินเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ร่างเธอทันทีจนร่างของเธอล้มลง

 พร้อมกับร่างของไซโคลนที่แอบซุ่มอยู่จะออกมา

 

 ทั้งหมดนี้เป็นแผนของเจ้าพาลาดินทั้งคู่นั่นเอง

 

 ไอซ์เอจเป็นตัวล่อเพื่อให้เวโรนิก้าเข้ามาใกล้

 ก่อนจะให้ไซโคลนที่ซุ่มอยู่เป็นคนจัดการ

 ด้วยวิธีนี้ทำให้พวกเขาสามารถจับเธอได้เป็นๆ

 

"ฮ่าๆๆๆ คิดจริงๆหรือว่าข้าจะยอมให้เจ้าเข้าถึงตัวได้น่ะ หา......."

 

 พาลาดินแห่งน้ำหัวเราะร่า

ก่อนจะเดินเหยียบไปที่แขนของแวมไพร์สาว

 ก่อนจะใช้สายตาสำรวจไปตามเรือนร่างของแวมไพร์สาว

 

 ซึ่งมันทำให้เขาสังเกตุได้ถึงความผิดปกติอะไรบางอย่าง

 นางแวมไพร์ตนนี้ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย

 

"ก็ไม่คิดน่ะสิ" เวโรนิก้าเค้นยิ้มออกมาเล็กน้อย 

ก่อนจะร่ายเวทย์ทันที "ประกายแสงหิงห้อย"

 

เวทยนี้เป็นเวทย์ไฟเลเวล 6 แต่ถึงจะอยู่ในเลเวล 6

 เวทย์นี้ก็ไม่ได้มีพลังทำลายอะไร

 เพียงแต่เมื่อใช้แล้วผู้ร่ายจะร่างกายเรืองแสง

 

เจิดจ้าดั่งดวงอาทิตย์ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ตาพร่าไปชั่วขณะ

 และเพื่อจะใช้เวทย์นี้ให้ได้ผล

 เวโรนิก้าจึงจงใจแกล้งเจ็บเพื่อล่อให้พาลาดินเข้ามาใกล้

 

 แม้จะผิดคาดเล็กน้อยที่มีพาลาดินอีกคน

 

"อ๊ากกกกก" เจ้าพาลาดินทั้งสองร้องขึ้นมาหนึ่งคำ

ก่อนจะดีดตัวถอยห่างตามสัญชาติญาณ

 ทำให้เปิดโอกาสให้แวมไพร์สาวพุ่งทะยานหนีไปในภูเขาหิน

 

 ซึ่งกว่าสายตาของเจ้าพาลาดินทั้งคู่จะกลับมาปกติ

 แวมไพร์สาวก็พุ่งทะยานหนีไปไกลเสียแล้ว

 อีกทั้งด้วยแนวหินที่สลับซับซ้อน

 จึงยากที่จะหาตัวเธอได้เจอ

 

"ข้าตามเอง" แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ปัญหาของไซโคลน

 เพราะแวมไพร์สาวนั้นเคลื่อนไหวด้วยพลังเวทย์ลม 

ทุกครั้งที่เคลื่อนตัว

 

 

 เธอจะทิ้งร่องกระแสลมเอาไว้

ซึ่งมีแต่ผู้ใช้เวทย์ลมเท่านั้นที่สัมผัสได้

 

 และเขาก็เคยใช้ร่องกระแสลมนี้ในการตามตัวเธอได้มาแล้ว

 และทันทีที่พาลาดินแห่งลมอ่านกระแสพบ

 เขาก็พุ่งทะยานเข้าไล่ล่าในภูเขาหินทันที

 

และด้วยพลังเวทย์ที่เลเวลสูงกว่า 

ไม่นานเขาก็ไล่ตามแวมไพร์สาวได้ทัน

 และเมื่อเห็นเป้าหมายตรงหน้า 

ไซโคลนก็ระดมซัดอาวุธลับเข้าใส่ทันที

 

 แต่แนวหินที่ตั้งเรียงรายนั้น

ก็ช่วยเป็นเกราะกำบังให้แวมไพร์สาว

 จนเธอสามารถรอดพ้นคมอาวุธลับนั้นได้ทั้งหมด

 

"ท่าทางท่านพาลาดินจะเจาะหินพวกนี้ไม่เข้าสิน่ะ" 

เวโรนิก้าเอ่ยเย้ยหยัน

 

"อย่างนั้นเหรอ" ไซโคลนเอ่ยตอบ

พร้อมกับปลดกลไกลบางอย่างที่ปลอกแขน

 ทำให้ใบมีดเล่มใหญ่ 8 เล่มไหลออกมาจากปลอกแขนทั้งสองข้าง

 

 ต่อจากนั้นเจ้าพาลาดินแห่งลม

ก็นำด้ามใบมีดมาต่อกันจนได้ดาวกระจายยักษ์ 4 แฉก 2 เล่ม

 

"เอาไปเลยยยยย !!"

 ไซโคลนร้องลั่นพร้อมกับเหวี่ยงดาวกระจายทั้งสองทันที

 ดาวกระจายที่เกิดจากใบมีดที่อาบพลังธาตุลม 4 เล่ม

 

 เมื่อนำมารวมกันทำให้ความคมเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าเช่นกัน

 ทำให้สามารถตัดภูเขาหินได้อย่างง่ายดาย

 เท่ากับว่าตอนนี้ไม่มีสิ่งใดสามารถป้องกันเวโรนิก้าได้อีกแล้ว

 

แต่ถึงอย่างนั้นแวมไพร์สาวก็ยังพอพริ้วหลบได้

 เพราะดาวกระจายนี้มีกระแสลมหมุนวนอยู่โดยรอบ

 ทำให้นี่จึงตัวบอกตำแหน่งดาวกระจายให้เวโรนิก้าทราบได้เป็นอย่างดี

 

 แต่การเคลื่อนที่ของดาวกระจายจะเคลื่อนเป็นวงกลม

 ทำให้ดาวกระจายกลับไปอยู่ในมือไซโคลนได้เสมอ

 

 และด้วยเพลงซัดที่พลิกแพลงได้หลากหลาย

 แวมไพร์จึงหลบได้ยากขึ้นทุกที 

จนตัวเธอเริ่มได้บาดแผลเข้าบ้างแล้ว

 

"รู้ไหมข้าหมันไส้ท่าทางชอบวางกล้ามของเจ้าเบิร์นนัก"

 

 

 ไซโคลนพูดพลางก่อนจะเปลี่ยนการควบคุม

ดาวกระจายจากมือมาเป็นพลังเวทย์

 

 "และถ้ามันอยากได้เจ้าแบบเป็นๆนัก

 ข้าก็จะตัดหัวเจ้ากลับไปให้มันแทนไงล่ะ"

 

หลังจากพูดจบ ไซโคลนก็ซัดดวงกระจายทันที

 แต่คราวนี้แตกต่างออกไป 

เพราะเมื่อดาวกระจายโดนบังคับด้วยพลังเวทย์

 

 การหมุนของมันจะยิ่งเร็วขึ้น 

อีกทั้งความเร็วก็จะมากขึ้นไปอีก

 ทำให้แม้แวมไพร์สาวจะหลบดาวกระจายเล่มแรกได้

 

 แต่เล่มที่สองที่ตามมาก็ยากที่จะหลบพ้น

 ทำให้คราวนี้เธอโดนบาดที่สีข้างได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

 

และเมื่อเธอได้รับบาดเจ็บเช่นนี้

ไซโคลนก็ใช้พลังเวทย์บังคับให้ดาวกระจายย้อนกลับมา

 ดาวกระจายเล่มแรกพุ่งเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว

 

 จนเธอต้องฝืนกระโดดหลบอีกรอบ

 คราวนี้แม้หลบได้แต่บาดแผลของเธอ

ก็เปิดออกจนเลือดไหลออกมา ทำให้ดาวกระจายเล่มที่สอง

 เธอจึงไม่อาจฝืนกระโดดหลบได้อีกแล้ว

 

แต่เมื่อหลบไม่ได้ ทำให้เธอเหลืออยู่ทางเดียว

 แวมไพร์สาวตั้งสมาธิจนแน่วแน่

พร้อมกับพุ่งมือเข้าใส่ดาวกระจายนั้น

 ก่อนจะคว้าเอาด้ามจับ

 

 ทำให้สามารถหยุดดาวกระจายได้อย่างเฉียดฉิว

 เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเสี้ยววินาที

 แน่นอนว่าเจ้าพาลาดินแห่งลมนั่นยังไม่รู้ตัว

กลับหน้าหลัก ตอนก่อนหน้า ตอนถัดไป