หยกเสียวซ่านจนทนไม่ไหว ครางแบบไม่ตั้งใจออกมาหลายรอบ แล้วดึงตัวเราให้ยืนเข่า ป้อนนมเข้าปากให้ดูดเลีย ส่วนมือเธอกำมังกรเรารูดขึ้นลงไปมา เราใช้นิ้วเราช่วยลูบไล้ สามเหลี่ยมทองคำให้กับเธอ เธอเสียวสุดทน
                        หยกเสียวซ่านจนทนไม่ไหว ครางแบบไม่ตั้งใจออกมาหลายรอบ แล้วดึงตัวเราให้ยืนเข่า ป้อนนมเข้าปากให้ดูดเลีย ส่วนมือเธอกำมังกรเรารูดขึ้นลงไปมา เราใช้นิ้วเราช่วยลูบไล้ สามเหลี่ยมทองคำให้กับเธอ เธอเสียวสุดทน
"หยกถามตั้งสามคำถาม ตอบหยก คำถามเดียวเอง
สงสัยจะให้หยกคิดหาคำตอบเอาเองเอง อิ อิ อิ"
"แล้วหยกจะตอบว่าอย่างไรดีจ๊ะ"
"ถ้าคำตอบของหยกก็คือ รัก หวง ห่วง คิดถึง ไม่อยากให้เธอจากไป
อาลัยอาวรณ์ โหยหา น้ำตาจะร่วง น้ำคาตกอยู่ข้างใน ใจจะขาด
อนาถใจตัวเอง เกรงจะสูญเสีย อยากคลอเคลียเธอจัง ฯลฯ"
"หยกไปสรรหาคำตอบมาจากไหนยาวเฟื้อยเลย
มันเหมือนจะใช่ แต่มันไม่ใช่นะหยก"
"หยกก็ดูจากใจตัวเองสิค่ะ เวลาที่หยก ยกอาให้มายไปเชยชม
หยกรู้สึกแบบนี้ก็เลยตอบแบบนี้ค่ะอา"
คำตอบของน้องหยกทำให้เราต้องดึงเธอมากอด
แล้วลูบไล้ที่ผมเธออย่างแผ่วเบา น้ำตาเธอหยดแหมะๆๆๆ
มาถูกแขนที่เรากอด ในขณะที่ใบหน้าเธอยิ้มแบบมีความสุข
พาให้เราน้ำตารินได้เหมือนกัน ความเงียบกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ปานประหนึ่งว่าเราสองคนกำลังดื่มด่ำ
กับอารมณ์รักล้นใจอะไรทำนองนั้น
หลังจากวันนั้น วันเวลาก็ค่อยๆผ่านไป
คำนัดหนึ่งสัปดาห์ของเราก็มาถึง แต่น้องมายหายไป
ไม่มีน้องมายในวันนั้น ส่วนน้องหยกปิดปากเงียบกริบ
เมื่อเวลาเราถามถึงน้องมาย น้องหยกรู้อยู่ลึกๆว่า
เราคิดถึงน้องมายไม่มากก็น้อย จนสองสัปดาห์ผ่านไป
เรามีโอกาสเจอน้องมายตอนไปรับน้องหยกที่โรงเรียน
เธอเดินมาหาเราที่รถแล้วสวัสดีเรา ขึ้นมานั่งรถเบาะหน้าคู่กับเรา
โดยที่ไม่มีน้องหยกติดตามมา เหมือนน้องหยกจะตั้งใจให้เวลาเราสองคน
สะสางเรื่องราวต่างๆที่มีในใจ ให้หมดไป ทันทีที่น้องมายนั่ง
เราระดมยิงคำถามใส่เธอเป็นชุดใหญ่ แบบคนอัดอั้นโหยหาเธอ
"น้องมายสบายดีหรือป่าว ทำไม่ไม่ไปหาหาบ้างเลย
อาคิดถึงมายมากเลยรู้ไหม หรือน้องหยกรังแกมาย บอกมาเดี๋ยวอา
จะจัดการให้ วันนี้ไปเที่ยวบ้านกะอานะ ฯลฯ
"มายสบายดีค่ะอา วันนั้นที่มายออกจากบ้านไปพบแม่ ไปเจอ กับ อา"ต่อ"
เค้าเป็นผู้ร่วมงานของแม่ เขาขับรถพาแม่กับมายไปทำธุระ
และเที่ยวหลายแห่ง เขารักมายค่ะและมายก็ชอบเค้า
เค้ามีอะไรบางอย่างที่เหมือน อามีให้หยก แต่อาไม่มีให้มาย
มายอยู่ใกล้เขาแล้วมีความสุขค่ะ ทุกวันนี้เขามาหามาย หาแม่
พาไปทานข้าวทุกวันเลย มายบอกหยกไปหมดแล้ว นึกว่าอารู้แล้ว
มายขอโทษค่ะอา เมื่อมายเรียนจบ มายกับแม่จะย้ายไปอยู่เชียงใหม่
เมืองหลวงไม่เหมาะกับเรา บ้านพี่ต่อเขาอยู่เชียงใหม่ค่ะอา
มายต้องไปแล้วค่ะ มายยังรักอากับหยกเหมือนเดิมนะค่ะ
และขอให้ อาโชคดีค่ะ"
เราคุยกันในขณะที่จับมือกันวางอยู่ที่ตรงเกียร์รถ เอียงตัวมองหน้ากัน
พอได้ยินเธอพูด น้ำตาเราไม่รู้ซึมออกมาได้อย่างไร
พาให้น้องมายนำตาร่วงไปด้วย แต่ในที่สุดเราก็ต้องบอกลาเธอแบบถาวร
"อารู้แล้ว....อารู้แล้ว....
ขอให้มายมีความสุขกับคนที่มายรักมากๆนะ......อารู้แล้ว....."
ก่อนจากไปเราสองคนต่างบีบมือกัน ก่อนจะโอบกอด บอกลา
เป็นครั้งสุดท้าย แก้มต่อแก้มชนกันสนิทแนบ น้ำตาแห่งอาลัยหลั่งริน
แบบไม่มีเสียงร้อง ชั่วอึดใจเธอก็เปิดประตูรถโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ได้แต่เห็นเธอวิ่งไปหามุมที่ปลอดสายตาคน ร้องให้ปล่อยโฮใหญ่ออกมา
เราเองอยู่ในรถก็ร้องเหมือนกัน
เมื่อเวลาผ่านไปจนเห็นน้องมายอาการดีขึ้นแล้วเดินหายไป
เราเองก็อดกลั้นอารมณ์อยู่พักใหญ่ ส่วนน้องหยกฉลาดเหมือนเดิม
เธอทิ้งเวลาให้เราสองคน จนแน่ใจว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้นแล้ว เธอจึงเดิน
มาขึ้นรถหยกมือสวัสดีเราตามปรกติ แต่ไม่มีเสียงพูดสักคำ
เธอปิดประตูนั่งนิ่งด้วยอาการสงบ
น้ำตาแห่งความสงสารอาไหลหลั่งอยู่เงียบๆ เราเองก็มีอา การสอึก
สะอื้นให้เธอเห็นอยู่เล็กน้อย จนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง
น้องหยกจึงพูดว่า
"อาเรากลับบ้านกันนะค่ะ"
"อาขอโทษนะหยก"
เมื่อเราได้สติจากเสียงเรียกน้องหยก
เราจึงขับรถกลับบ้านด้วยบรรยากาศที่เงียบวังเวง นี่เองที่เค้าพูดกันว่า
"นักรบเสียเลือด นักรักเสียน้ำตา"
"วันนี้เราแวะทานอาหารที่หน้าปากซอยเลยดีไหมค่ะอา"
"ได้จ๊ะหยก"
เมื่อถึงร้านอาหารน้องหยกสั่งอาหารที่เราเคยชอบให้
เธอรู้อยู่เต็มอกว่าเราทานอาหารมื้อนั้นไม่ลง
นั่งเขี่ยข้าวเล่นจนน้องหยกทานเสร็จ ที่เหลือจึงต้องใส่ห่อกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านเรายังไปนั่งซึมต่อ
จนน้องหยกทำกิจประจำวันเสร็จทุกเรื่องราว
เธอจึงมานั่งโอบกอดเราเอาหน้า ซบอกเรา
มันช่างน่าประหลาดใจยิ่งนัก
กอดของน้องหยกทำให้เราหายจากอาการซึมเศร้าเป็นปลิดทิ้ง
เรากลับกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันตาเห็น โอบกอดเธออยู่ครู่นึง
เพื่อซึมซับความอบอุ่นนั้น แล้วจึงกระซิบข้างหูเธอ
"หยกมีข้าวให้อาทานไหม อาหิวจังเลย"
น้องหยกได้ยินเสียงเราพูดแค่นั้น เธอยิ้มแป้นรีบตอบเรา
"มีค่ะ มีค่ะ อา เดี๋ยวหยกไปจัดการให้ หยก
เอากลับมาจากร้านเยอะแยะเลยค่ะ"
หยกกระวีกระวาดจัดแจงอาหารให้เราพร้อมรอยยิ้มสดใส
ดีใจจนออกนอกหน้า เราจึงตอบแทนเธอด้วยการ ทาน ทาน ทาน
ให้เธอนั่งดูอยู่ข้างโต๊ะ จนทุกอย่างหมดเกลี้ยง
เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนจะบอกกับใจตัวเองว่า "อาไม่ตายแล้ว"
เราจึงพูดกับเธอว่า
"เดี๋ยวอาช่วยล้างจาน เสร็จแล้วเราไปร้องเพลงคาราโอเกะกันนะ"
"ดีค่ะ...ดีค่ะ หยกกำลังอยากร้องอยู่พอดี
ทานเบียร์ที่เหลือวันนั้นหน่อยดีไหมค่ะ"
"ไม่จ๊ะ.....อาไม่ชอบทานเบียร์
ว่างๆเรามาช่วยกันขุดหลุมหลังบ้านฝังมันไปเลย
วันหน้าเผื่อเอาไว้เป็นหลักฐานให้ลูกหลานดู
ว่าแม่หยกหรือน้าหยกเคยร่วมมือกับเพื่อน
มอมเบียร์อาแล้วปล้นหัวใจอาไป 5 5 5 5"
"เอาอย่างนั้นเลยหรือค่ะอา คิ คิ คิ
แต่รู้สึกประวัตศาสตร์มันจะเพี้ยนนะค่ะอา
คนโดนมอมเบียร์ไฉนจึงมาล้างฉี่ให้หยกได้น้อ.....คิ คิ คิ"
"เออน่าๆ....เราก็ใส่ไข่ไปหน่อยซิ อาให้หยกเติมชูรส 5 5 5 5"
เราเริ่มกลับมามีความสุขอีกครั้ง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุยเล่นกันไป
ฮัมเพลงกันไป เสียงหัวเราะกลับคืนมาในเวลาอันรวดเร็ว
ด้วยพลังการกอดของน้องหยกโดยแท้
พอทานอาหารเสร็จเราช่วยหยกล้างจานแล้ว
ก็คุยกันตามประสาอากับหลานสุดที่รัก มีช่วงหนึ่งน้องหยกถามเราว่า
"หยกคุยกับอาเรื่องมายได้ไหมค่ะ"
"ได้ซิจ๊ะหยก"
"อารู้สึกอย่างไรกับมายที่หักอกอา"
"อาก็เสียใจเท่าที่หยกเห็นไงจ๊ะ"
"แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นหยก อาจะเสียใจแบบนี้ไหม"
"เรื่องนี้อาตอบได้แบบไม่ต้องคิดเลยหยก
มายเค้าเทียบกับหยกไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
มายก็เหมือนรถใหม่ป้ายแดงของอาที่ถูกชนท้าย แล้วทำให้อาเสียใจ
อารักมายเพราะเขาให้ความใคร่ความสุขอา มันก็คือรักเพราะใคร่
หรือได้ใคร่จึงรัก ถ้ารถคันนี้ซ่อมได้ อาก็อยากซ่อม แต่หยกคือชีวิต
ถ้าหยกเป็นอะไรไป อาคงอยู่ไม่ได้แน่ เพียงแค่หยกกอดอาครั้งเดียว
อาก็สามรถมีกำลังใจที่จะลืมรถใหม่ป้ายแดงคันนั้นแล้ว
อาขอบใจหยกจริงๆนะ"
หยกหันมากอดเราน้ำตาคลอหน่วยแล้วหัวเราะแหะๆ
"อาพูดทำให้หยกอินจังเลยค่ะ แฮะๆๆๆ
หยกว่าเราไปช่วยกันขุดหลุมข้างรั้วบ้าน ฝังเบียร์กันไหมค่ะอา
หยกจะช่วย เมื่อก่อนหยกเห็นอากอดมาย มันรู้สึกหวงมากเลยค่ะ
แต่พอคิดว่าเป็นความสุขของอา หยกกลับสบายใจ
แบบเราได้ให้อะไรกับคนที่เรารักแล้วเค้าชอบ เราก็เลยมีความสุข
ลืมเรื่องหึงหวงไปเลยค่ะ"
"ตกลงจ๊ะหยก เราไปช่วยกันขุดหลุมฝังเบียร์กัน"
เราออกจากบ้านพร้อมเปิดไปข้างรั้ว
เอาเครื่องมือไปขุดดินตอนเกือบสองทุ่ม
เผอิญรัวบ้านเราเป็นกำแพงตันๆสูงเกือบสามเมตร
จึงไม่จำเป็นต้องแคร์ใคร เราคุยกันไปทำงานไปจนเสร็จ
เห็นหยกมีความสุขมาก แต่เรากับคิดถึงน้องมายตลอดเวลา
เพราะไปทำเรื่องที่เกี่ยวกับเธอ แม้จะรู้สึกว่าเธอเป็นรถใหม่ป้ายแดงจริงๆ
ไม่ได้โกหกน้องหยกแต่อย่างใดก็ตาม
"ไปหยกเรากลับเข้าบ้านไปอาบน้ำกัน แต่บอกก่อนนะ
เวลาหยกเป็นย่าเป็นยายแล้ว มาขุดหลักฐานให้หลานดู
ห้ามเล่าหมดเปลือกว่าอาล้างฉี่ให้สาวๆนะ อาเสียคนแน่ๆ 5 5 5 5
แต่ใส่ชูรสแบบอื่นๆได้ แบบให้อาดูเป็นพระเอกหน่อย แบบนั้นอ่ะ 5 5 5 5"
"โอโฮ......เล่นสั่งเสียหยกแบบนี้
ประวัติศาสตร์สำคัญก็ถูกฝังไปด้วยซิค่ะ คิ คิ คิ"
เราสองคนคุยกันแบบมีความสุข เป็นรสชาติของอากับหลานแท้ๆ
ที่กอดคอหยอกล้อกันเล่นกัน
ไม่มีอารมณ์ชู้สาวแบบเราให้กับน้องมายเลย
แม้รักกับใคร่จะใช้คำพูดแบบเดียวกัน เหมือนกัน แต่รสชาติย่อมต่างกัน
การที่เราร่วมเสพสุขในความใคร่กับน้องหยก
เป็นเพียงสัญญาตามหลักเหตุและผลที่เราได้คุยกันเท่านั้น
ในยามที่เรามีอารมณ์เพศ เราจึงสามารถกดความรู้สึกอยู่ได้
ไม่มีการปักธงอย่างแน่นอน