ผมชื่อก้องครับ แม่ผมเคยเล่าว่าตอนผมเด็กๆ แม่ไปดูหมอมา หมอดูบอกว่าผมมีดวงแบบนักรักตัวยง มีเสน่ห์สาวติดเพียบ นารีอุปถัมภ์ ฯลฯ ผมไม่รู้เรื่องหรอกครับว่าเค้าพูดอะไรกัน มารู้ก็เมื่อผมเรียนอยู่ ม. 1
ผมชื่อก้องครับ แม่ผมเคยเล่าว่าตอนผมเด็กๆ แม่ไปดูหมอมา หมอดูบอกว่าผมมีดวงแบบนักรักตัวยง มีเสน่ห์สาวติดเพียบ นารีอุปถัมภ์ ฯลฯ ผมไม่รู้เรื่องหรอกครับว่าเค้าพูดอะไรกัน มารู้ก็เมื่อผมเรียนอยู่ ม. 1
อาทิตย์ถัดมา ผมนัดโอ๋ไปดูผลสอบกัน โอ๋ยังคงเป็นโอ๋เหมือนเดิม
ชวนผมคุยนั่นนี่โน่นตลอดเวลา บางทีโอ๋ก็มาคล้องแขนผมมั่ง
จับมือผมมั่ง บางทีก็เอาหัวมาพาดไหล่ ราวกับผมเป็นแฟนเธอ
"เป็นไรอ่ะ โอ๋ แกทำตัวเหมือนไม่มีกระดูกสันหลัง เอนมาพิงเรื่อยเลย"
"น่า..... ขอยืมเป็นแฟนวันนึง..."
"เฮ้ย เป็นแฟนแล้วให้แฟนทำไรด้วยหรือเปล่า
แล้วไม่ห่วงว่าแฟนเราจะมาเห็นมั่งเหรอ...."
"ไอ้บ้ากาม ชั้นไม่ห่วงเธอหรอก แต่เธออ่ะ ต้องห่วงชั้น
มีโจทย์เก่าเพียบ เดี๋ยวมันมาลากชั้นไปกินอีก"
ทั้งโอ๋และผมเป็นไปตามคาดหมายคือติดวิศวะทั้งคู่
เราดีใจกันจนลืมตัว ผมหอมแก้มไอ้โอ๋มัน ไอ้โอ๋ก็ไม่ถือสา ผมดีใจมากๆ
ที่จะมีโอ๋เป็นเพื่อนเข้าเรียนคณะเดียวกัน
ดูผลแล้วเราพี่คณะก็เดินมาพาพวกเราไปที่ซุ้มคณะ แล้วก็บูมให้พวกเรา
"แล้วแกจะไปไหน ฉลองมั๊ย"
"ถ้าสองต่อสอง ฉลอง แต่ถ้าไปกินเฉยๆ ไม่ต้องฉลอง"
"ไอ้บ้ากาม.... งั้น...วันนี้ยังแล้วกัน เดี๋ยวชั้นไปกินกะเพื่อนๆ"
"โอ๋... มีเราแล้ว.....โอ๋ยังสนุกเรื่องแบบนั้นอีกหรือเปล่า"
จู่ๆ ก็หึงไอ้โอ๋ขึ้นมา
ที่ถามคือไม่อยากให้มันไปมั่วสุมแบบที่ผมเคยเจอมาอีก
"ไม่รู้ว่ะ...แล้วแต่สถานการณ์ แต่บอกให้
ไอ้กิ๊กกะไอ้มิ้นมันเลิกเรื่องแบบนี้แล้ว โดยเฉพาะไอ้มิ้นนะ
มันกลัวไปเลยอ่ะ โดนแกกะไอ้เคนข่มขืนมัน มันไม่เอาอีกเลย
ส่วนไอ้กิ๊ก แฟนมันเริ่มเป็นตัวเป็นตน มันเลิกหละ"
"แล้วโอ๋ อ่ะ จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนมั่งหรือเปล่า"
ผมถามทำไมวะเนี่ย ราวกับผมจะเป็นแฟนไอ้โอ๋มัน
แต่ช่วงนี้ทำใจไม่ค่อยได้หลังจากพี่แอลลากเอาไอ้เอสมาควงต่อหน้าผม
มันเหมือนโดนหยามๆยังไงไม่รู้
และผมก็ไม่อยากให้โอ๋ไปไหนกะใครอีกเหมือนกัน
"ยังไม่คิดเลย เอานะ ไว้คุยกันเดี๋ยวโอ๋นัดเพื่อนไว้นะ
ไปก่อน...บ๊ายบาย"
วันนี้มันควรจะสนุกหรือเปล่า ทำไมผมเซ็งงี้วะ
ผมเดินออกมาริมถนนกำลังจะขึ้นรถเมล์กลับคอนโด
ระหว่างนั่งรอรถที่โคตรจะนาน
"น้องคะ.... ชื่อก้องหรือเปล่าคะ"
ผมเงยหน้าขึ้นมาดูตามเสียงสดใสนั้น ผู้หญิงคนนึงใส่เสื้อสีน้ำเงิน
กระโปรงสั้นสีขาว หน้าตาน่ารัก
แต่มันเป็นหน้าตาที่ผมเคยเจอมานานมากๆๆๆๆๆแล้ว
และไม่คิดจะได้เจอเธออีก....
"พี่แนน......."
ผมดีใจจนลืมตัว จนโดดเข้าไปกอดพี่แนน พี่แนนไม่ทันตั้งตัว
มือเธอหอบของพะรุงพะรังเชียวเลยไม่สามารถโต้ตอบผมได้
แต่พอพี่แนนเห็นผมกอดนานไปแล้วก็เอามือที่ถือถุงสัก 6 ใบ
มาผลักผมออกไป
"โห ยังจำพี่ได้เหรอ....เหมือนเดิมเลยก้อง
ตัวใหญ่ขึ้นนะ มาทำไรคะเนี่ย"
"พี่แนนน ผมไม่เคยลืมครับพี่ ผมคิดถึงพี่ตลอดแหละ"
พี่แนนเกือบจะหายไปจากความทรงจำของผมแล้ว
พี่แนนเป็นเพื่อนพี่แก๋มไง
ที่พี่แก๋มจัดการปาร์ตี้มรณะให้ผมได้เปิดซิงพี่แนน
และพี่โมตั้งแต่สมัยผมอยู ม 4 โน่น เกือบ 3 ปีแล้ว
ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอพี่เค้า
เพราะพี่แก๋มเองก็ไม่ค่อยได้เจอและไม่เล่าอะไรเกี่ยวกะพี่แนนอีก
ผมชวนพี่แนนคุยจนรถเมล์ของผมผ่านไปแล้วหลายคัน
"ผมจะกลับบ้านครับพี่ แล้วพี่จะไปไหน"
"กลับบ้านเหมือนกัน"
"เดี๋ยวผมไปส่งครับ"
"เฮ้ย...ไม่ต้อง บ้านพี่อยู่ พหล 24 เดี๋ยวพี่ไปเอง
ว่าจะไปแท๊กซี่ล่ะ ของมันแยะจัง"
ผมไม่รอช้า เอามือโบกแท๊กซี่ให้พี่แนน แล้วผมก็โดดขึ้นรถไปด้วย
โดยพี่แนนยังไม่ทันพูดไร
"ผมไม่มีไรทำครับ อยากคุยกะพี่นานๆ เอางี้นะพี่ เดี๋ยวส่งพี่แล้ว
เรามาเซนทรัลลาดพร้าวหาไรกินกันนะพี่"
ในรถเราก็คุยกันไปมากมาย พี่แนนเล่าให้ฟังว่า
เลิกกะแฟนที่เป็นวิศวะไปแล้ว แต่จะว่าไปไม่ใช่พี่แนนเลิก
แต่เป็นเพราะพี่วิศวะเลิก เพราะพี่แนนขี้งอน เค้าขี้เกียจง้อ
แล้วไอ้พี่วิศวะก็เอ็นท์ใหม่ไปเรียนหมอ
ตอนนี้พี่แนนเลยอยู่ในสถานะโสด
พี่แนนรุ่นราวคราวเดียวกะพี่แก๋ม แต่ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นมากๆ
พี่แนนตอนนี้เรียนรัฐศาสตร์อยู่
มหาลัยที่ผมจะเข้าไปเรียนเนี่ยหละ พี่แนนถามถึงพี่แก๋ม
พี่สองคนเค้าไม่ได้เจอกัน ไม่คุยกันอีกเลย
สี่สาวแก๊งค์ออฟโฟร์ล่มสลายจากปาร์ตี้มหาภัยครั้งนั้น
ทุกคนโกรธพี่แก๋ม (แต่ไม่โกรธผมแฮะ)
เรื่องราวผ่านไปหลายปีพี่แก๋มเองก็เปลี่ยนเบอร์ไปอีกหลายเบอร์
ทั้งหมดเลยขาดการติดต่อกัน
"พี่แก๋มยังมาคุยกะผมมั่งครับ ถ้าพี่แนนไม่โกรธพี่แก๋มแล้ว
เย็นนี้ผมชวนพี่แก๋มมากินข้าวด้วยนะพี่..."
"เออ เอาดิ ไม่เจอมันตั้งกะจบ ม 6 หละ"
บ่ายสองแล้ว รถมาถึงหน้าบ้านพี่แนน ผมจ่ายค่าแท๊กซี่ให้พี่แนน
ในขณะที่พี่แนนง่วนหากุญแจเข้าบ้าน
ถุงกระดาษที่เธอใส่ของมาเกิดขาด
กระดาษมากมายร่วงกราวลงพื้น
ผมรีบวิ่งตามเก็บให้ มันคือการบ้านของพี่แนน
ด้วยความรีบร้อนและเป็นห่วงการบ้านพี่แนน เลยลืมระวังตัว
กระโปรงที่สั้นถ้าใส่แล้วไม่ระวัง...ก็เป็นโอกาสของผม
พี่แนนวันนี้ข้างในสีขาว เพราะกระโปรงของพี่เค้าสีขาว
จินตนาการอันรวดเร็วของผมทะลุมิติย้อนกลับไปคืนที่
พี่แนนไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้ ก่อนผมบุกบั่นเข้าถึงตัวพี่แนน
และเจอตัวขาวสะอาดของพี่แนนมาแล้ว
"โอ๊ย ๆ เดี๋ยว อยู่นั่นอีกแผ่น ก้องช่วยเก็บเร็ว หายไปพี่ตายแน่"
หลังจากผมวิ่งออกกำลังเก็บกระดาษจนครบ
พี่แนนก็ชวนผมเข้าบ้านไปกินน้ำ
"ขอบคุณมากก้อง พี่ตายแน่ถ้าหายไป
ว่าจะเข้าเล่ม ส่งจันทร์นี้แล้ว เนี่ย....เดี๋ยวต้องไปเรียงใหม่ เฮ้อ...
เข้ามากินน้ำก่อน แดดร้อนมาก"
"ผมช่วยถือครับ.."
ที่บ้านวันนี้ไม่มีใครเลย
บ้านพี่แนนไปทอดผ้าป่ากันหมดกลับพรุ่งนี้เย็นๆ ผมยิ้มในใจ
ตอนนี้เท่ากะผมอยู่กะพี่แนนสองคนสินะ (ผมทำท่าจะเหี้ยอีก)
พอพี่แนนเอาน้ำมาให้ผมเรียบร้อย
ก็เอากระดาษที่เก็บมาเรียงหน้าใหม่
รวมทั้งแยกหน้าที่เลอะเทอะเพื่อพิมพ์ใหม่
ผมช่วยเรียงกระดาษ มันใกล้ชิดพี่แนนมากๆอีกครั้ง
จนผมได้กลิ่นพี่แนน อยากรำลึกถึงวันนั้นอีกจัง...
"แล้วก้องล่ะมีแฟนไปยัง" พี่แนนถามขึ้นมา อืมมม์...ตอบว่าไงดีน้า...
"คนไหนล่ะพี่ 55555"
"บ้า แฟนมีคนเดียวดิ โห แสดงว่าแยะจัด
ยัยแก๋มเป็นแฟนเธอด้วยหรือเปล่า"
"โอ๊ย ไม่หรอกพี่ ก็ไปมากินข้าวกันเรื่อยๆ ไม่มีอย่างอื่นครับ"
(โกหกแล้วทำให้ไม่มีใครเสียหาย ก็จงทำไป)
เรียงหน้ากระดาษว่าจะง่ายก็ง่าย
แต่สำหรับผมกะพี่แนน มันยากจัง มือเราไขว้กันไปไขว้กันมา
จนเราหยิบกระดาษแผ่นเดียวกัน
ผมหยิบช้ากว่ามือเลยจับเข้าไปที่มือพี่แนน
พี่แนนหยุดหันหน้ามามอง
"โห...มือพี่นุ่มเหมือนเดิมเลยอ่ะ"
"บ้า เอามือออก"
ผมไม่ใช่เด็กดีที่จะทำตาม
ผมเอาอีกมือมาดึงกระดาษออกจากมือพี่แนน
แล้วจับมือทั้งสองของพี่แนน แล้วนั่งลง
ผมสัมผัสมือพี่แนนอย่างเชื่องช้า แต่พี่แนนไม่ได้เรียกร้องอะไร
ไม่โวยวาย ไม่สะบัดมือ ยอมให้ผมจับ
"พี่แนนครับ ผมขอโทษพี่นะ ครั้งนั้น.... ผมคุมตัวเองไม่ได้
แต่ผมก็ชอบพี่นะครับ"
"อืมม์ พี่ลืมไปหละ จริงๆก้องคงเป็นแบบพี่ที่ยั้งไม่อยู่
ยัยแก๋มเนี่ยตัวแสบสุด"
"แต่ไงผมดีใจเสมอนะพี่ ที่ผมเป็นคนแรกของพี่"
พี่แนนหยุด มองตาผมอย่างกับจะอ่านจิตใจของผม
พี่แนน..เอกรัฐศาสตร์การทูต เธอคงรู้วิธีอ่านใจคน
"อืมมม์... จนถึงวันนี้....ก้องก็ยังเป็นคนเดียวของพี่อยู่เหมือนเดิม"
อันนี้ช้อคมาก... เพราะจากที่พี่แก๋มเล่าคือ
พี่แนนน่าจะไปไกลกะแฟนพี่เค้าแล้ว
ผมไม่สืบสาวราวเรื่อง แต่คำพูดของพี่แนนนี้
ชวนให้ผมรำลึกถึงความหลังกะพี่แนนอย่างมาก
มือผมยังไม่ปล่อยจากมือพี่แนน ปล่อยให้มันสื่อสารกะพี่แนน
ถ้าพี่แนนรู้ได้ถึงจิตใจผมจริง...คงถีบผมออกนอกบ้านในตอนนี้แน่นอน
"พี่... ผมขอกอดพี่นะ..."
ผมเอนตัวจากเก้าอี้ผมเข้าหาพี่แนน
และกอดพี่แนนโดยที่ไม่รอพี่แนนตอบอะไรทั้งนั้น
พี่แนนไม่ได้กอดตอบผมแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ผมกอดพี่แนนแน่นมาก คิดถึงพี่คนนี้จริงๆ
ผมรู้ว่าพี่แนนน่าจะมีเยื่อใยกะผมมั่ง
แต่เธอคงโกรธและงอนที่ผมหักด้ามพร้าด้วยเข่า
และข่มขืนเธอในตอนนั้น อย่างว่าแหละ
ตอนนั้นผมยังเด็กและทำไปด้วยฤทธิ์ของยา