ปรัชญาได้ทำงานกับรุ่นพี่ผู้หญิงคนที่เขาเคยแอบชอบอยู่เมื่อครั้งอยู่บริษัทเก่าถึงขนาดเก็บไปชักว่าวมาจนเมื่อยมือนับครั้งไม่ถ้วนไปหลายหนแล้ว โดยได้ทำงานในตำแหน่งช่างซ่อมบำรุง ทำหน้าที่ดูแลบริษัทที่เขาถนัด
ปรัชญาได้ทำงานกับรุ่นพี่ผู้หญิงคนที่เขาเคยแอบชอบอยู่เมื่อครั้งอยู่บริษัทเก่าถึงขนาดเก็บไปชักว่าวมาจนเมื่อยมือนับครั้งไม่ถ้วนไปหลายหนแล้ว โดยได้ทำงานในตำแหน่งช่างซ่อมบำรุง ทำหน้าที่ดูแลบริษัทที่เขาถนัด
ปรัชญาปล่อยมือออกจากส่วนที่เกาะกุมอยู่นั้นแทบจะทันทีแต่ยังไม่ทันที่จะแกัตัวใดๆ วรุณีย์ก็หันหลังกลับเข้าห้องทำงานไปเขาจึงได้แต่เดินตามเธอเข้าไปแต่โดยดี
ภายในห้องทำงานของวรุณีย์โต๊ะของเธอจะตั้งอยู่หน้าห้องของคุณทอมซึ่งเป็นเจ้านายใหญ่เมื่อได้รับการอธิบายถึงปัญหาแล้ว ปรัชญาก็เริ่มปฏิบัติหน้าที่ทันที
โดยเขาต้องมุดเข้าไปใต้โต๊ะของวรุณีย์ถอดรื้ออุปกรณ์ที่อยู่ใต้โต๊ะนั้นโดยมีวรุณีย์ย่อตัวลงนั่งยองๆดูการทำงานของเขาอยู่ด้วยพร้อมทั้งชวนคุย "มีชื่อเล่นให้เรียกมั้ย คนที่นี่เค้าชอบเรียกชื่อเล่นกันน่ะ มันดูเป็นกันเองดี"
น้ำเสียงของวรุณีย์เปลี่ยนไปในความรู้สึกของปรัชญาในน้ำเสียงแฝงแววอำนาจชนิดหนึ่ง อย่างที่คนฟังจะทราบได้ทันทีว่าเสียงนี้เป็นการไว้ตัวเป็นงานเป็นการอะไรทำนองนั้นเขาจึงต้องตอบเธอไป "มีครับ ชื่อเอกครับ"
พร้อมๆกับที่พูดเอกก็หันหน้าเหลียวกลับมาเพื่อจะมองหน้าคนฟังคำตอบ โดยตั้งใจหรือไม่ก็ไม่ทราบได้ ท่านั่งของวรุณีย์ทำให้เอกตาลุกโพลงอย่างลืมตัวท่านั่งแบบที่ผู้หญิงใส่กระโปรงสั้นทั่วๆไปนั่งแบบนี้
ส่วนใหญ่พวกคุณเธอจะระแวดระวังอย่างสุดขีดในการที่จะต้องบีบชิดโคนขาทั้งสองข้างเข้าหากันให้สนิทแนบที่สุด แต่นี่....ดูเหมือนวรุณีย์จะไม่ทันระวังหรืออย่างไรไม่ทราบโคนขาทั้งสองของ
เธอเปิดอ้าออกเล็กน้อยด้วยการตวัดกวาดเพียงแค่แว่บเดียวเพื่อกันพิรุธ จึงไม่ทำให้เอกได้เห็นอะไรมากนัก "อืมมม ชื่อเอกเหรอ...เรียกพี่ว่า พี่วาก็ได้นะ
เอกช่วยจัดการให้โทรศัพท์ทำงานได้ก่อนละกันพี่ไม่อยากเดินเข้าไปรับในห้องนายน่ะ" เอกพยักหน้ารับคำพร้อมกวาดสายตาไปยังส่วนแยกของขาทั้งสองข้างอีกครั้ง โดยอุปทานหรือไร
ดูเหมือนขาคู่นั้นจะถ่างแยกออกจากกันอีกเล็กน้อยให้เห็นได้ถนัดขึ้น แต่เอกก็ยังไม่กล้าที่จะมองตรงๆจึงหันกลับไปทำงาน จนผ่านไปประมาณสองสามนาที เอกจึงร้องบอกออกมาจากใต้โต๊ะนั้น
"พี่วาครับลองยกหูดูดิ้ครับมีสัญญาณหรือยัง??" แล้วเอกก็หันกลับออกมามองดูอีกที แทนที่พี่วาจะลุกขึ้นยืนแล้วยกหูโทรศัพท์เธอกลับยืดลำตัวขึ้นแล้วชะโงกเข้าหาตัวโต๊ะพร้อมทั้งเอื้อมมือออกไปหยิบหูโทรศัพท์ซึ่งอยู่ค่อนข้างห่างออกไปด้วยลักษณะที่นั่งยองๆอยู่นั้นเอง
เมื่อเธอยืดลำตัวขึ้นศูนย์ถ่วงจึงเสียไปเธอจึงต้องปล่อยเข่าซ้ายซึ่งวอยู่ต่ำอยู่แล้วนั้นลงยันพื้นไว้เป็นหลักโดยที่อีกข้ายังงอพับตั้งอยู่ที่เดิมจากจุดที่เอกมองลอดออกมาจากใต้โต๊ะนั้นเองเขาจึงมองไม่เห็นใบหน้าพี่วาที่สูงเลยขอบโต๊ะขึ้นไป
ส่วนบนสุดที่เขาเห็นได้ก็คือหน้าอกที่ตั้งเต้าทั้งสองที่ดันเสื้อออกมาอยู่ในขณะนี้ ทรงของมันดูกลมเป็นลูกขนาดค่อนข้างใหญ่น่าขยำน่าบีบนักและเหมือนนึกได้ เอกรีบลากสายตาลงมายังเป้าหมายเบื้องล่างทันที
โอววว.....พระเจ้า....แทนที่จะต้องเห็นเนื้อผ้าสีใดสีหนึ่งของกางเกงในผู้หญิงสิ่งที่เอกเห็นกลับเป็นปุยขนสีดำหย่อมหนึ่งและกลีบเนื้อที่เห็นเป็นรูปร่างอันค่อนข้างชัดเจนแต่ไม่ชัดมากนักเพราะมุมของแสงที่ไม่เอื้ออำนวย
แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่จะปลุกเร้าปีศาจราคะที่หลับไหลอยู่ของเขาให้ตื่นมาโลดเร่าอัดดันอยู่ในกางเกงได้แล้ว ขาข้างที่งอพับอยู่มีอาการขยับไหวอีกครั้งจนกระทั่งนิ่งสงบซึ่งมันทำให้เอกเกือบหมดความอดทน
เพราะมันเบนอ้ากว้างออกไปอีกมากจนเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม....โอวนี่เป็นการเชิญชวนอะไรหรือเปล่าเนี่ย เอกได้แต่คิดในใจแล้วก็ได้ยินเสียงพี่วาดังมาโดยที่พี่วาไม่ได้ก้มลงมามองเอกเลย "ไหนล่ะ ไม่เห็นมีเสียงเลยนี่" เอกรีบปลุกปลอบขวัญตอบกลับไป "
เดี๋ยวครับพี่วา พี่วาถือหูโทรศัพท์ไว้อย่างนั้นก่อนนะครับ ถ้ามีสัญญาณเมื่อไหร่อก็บอกผมด้วยละกัน" แน่นอนมันจะมีเสียงไปได้อย่างไรเล่า
ก็ในเมื่อสายสัญญาณทั้งสองเส้นถูกปลดออกมาแล้วและถืออยู่ในมือของเอก เขาต่อสายกลับเข้าไปหนึ่งเส้น แล้วแกล้งร้องถามซึ่งคำตอบนั้นเขารู้อยู่แล้ว
เอกเหลียวหน้ากลับออกมาโขมยมองดูหีของเลขานายใหญ่อย่างเงียบๆจนพอใจเขาก็เอาสายโทรศัพท์อีกเส้นเขี่ยลงไปบนหมุดต่อสัญญาณ เสียงพี่ร้องออกมาอย่างยินดี "อ๊ะ....อ๊ะมีเสียงแล้วเอก มันดังแครกๆน่ะ แต่ยังไม่มีโทนของระบบเลย"
เอกจึงตัดสินใจยุติลงในระดับอันควรเขาเห็นว่าได้แค่นี้ก็บุญแล้ว คิดได้ดังนี้เอกก็ต่อสายกลับเข้าที่ ทันทีที่ขันน้อตเสร็จสิ้นแต่ยังไม่ได้ประกอบอุปกรณ์ให้เข้าที่
เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้นและได้ยินเสียงพี่วาตอบรับสายนั้น "Good afternoon I'm Varunee speaking.......Oh yes Khun Mark........"แล้วพี่วาก็ร่ายยาวในภาษาต่างด้าวนั้นอย่างช่ำชองชำนาญราวกับเป็นเจ้าของภาษา
แล้วพี่วาก็ลุกขึ้นยืนเอกจึงคิดจะคลานออกมาจากใต้โต๊ะนั้นเสียที แต่แล้วก็ต้องชะงัก เพราะพี่วาดันลากเก้าอี้มานั่งและพูดโทรศัพท์โดยปิดทางออกของเขาเหมือนกับจะลืมไปว่ายังมีเขามุดอยู่ใต้นั้นอีกทั้งคนครั้นจะสะกิดบอกก็กลัว.....
กลัวจะอดดูของดีอีก จึงจำใจซุกตัวอยู่อย่างนั้น พี่วาขยับเลื่อเก้าอี้ชิดเข้าหาอีกทีจนเข่าแทบจะชนหน้าของเอกแล้วเอกได้แต่เบิกตาโพลง
ชายกระโปรงสั้นที่รั้งร่นเข้าไปเพราะพี่วานั่งเปิดเผยให้เห็นช่วงต้นขาที่ขาวเนียนซ้ำยิ่งไปกว่านั้นร่องหลืบที่เร้นลับก็เผยให้เห็นชัดเจนขึ้นเพราะอยู่ห่างจากหน้าเขาไปไม่มากจะอุปทานไปเองรึไม่เอกก็ไม่แน่ใจ
แต่บัดนี้จมูกเขาสัมผัสได้กับกลิ่นบางอย่างที่คุ้นจมูกนักโชยมาเข้าจมูกเขา ทำให้เอกสูดดมอย่างเลอะเลือนงมงายปีศาจราคะผยองเต้นเร่าอยู่ในกางเกงอย่างงุ่นง่านผ่านไปสักครู่พี่วาก็วางหูโทรศัพท์ลงแต่ก็มีอีกสายถูกโอนเข้ามาทันที และพี่วาก็รับสายอีกครั้ง Good afternoon I'm Varunee speaking.......อ้าวทอมเหรอคะประชุมกับลูกค้าไม่ใช่เหรอคะ......หา...ว่าไงนะคะ
คุณแอบหนีลูกค้าขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อโทรหาวา ตายแล้วน่าตีจังเลย....อืมมม....วาก็เหมือนทอมน่ะแหละค่ะ.....คิดแล้วยังเสียวอยู่เลย....อะไรนะคะ.....ตอนนี้เลยเหรอ
ทอมคุณจะบ้าเหรอคะ....บ้าจังวาไม่เคยทำแบบนี้หรอก...โดยเฉพาะเวลากลางวันแสกๆแบบนี้....แล้วก็ในที่ทำงานด้วย....."เอกงงกับคำพูดเหล่านั้นแต่แล้วเขาก็พอจะเดาออกรางๆแล้ว ผู้โทรเข้ามาคือคุณทอมเจ้านายของพี่วา
ดูเหมือนจะคุยกันเรื่องกิจกามที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้และตอนนี้เจ้านายพี่วากำลังจะชวนเลขาแสนสวยหุ่นสะบึมคนนี้เล่นเซ็กส์โฟน เอกได้แต่นึกในใจ "ให้ตายเถอะวะ
แม่งจะเงี่ยนอะไรขนาดนั้นวะ.....แล้วตูจะได้ออกไปตอนไหนวะเนี่ย.."แล้วเอกก็เห็น....ขาของพี่วาถ่างออกมากขึ้นกว่าเดิมจนกระโปรงรั้งขึ้นไป
จนสุดแสงที่สาดตัดลงมาทำให้เขาเห็นแคมหีของเลขาสาวใหญ่ชัดเจนมากแล้วมือข้าหนึ่งของพี่วาก็ล้วงลงมาลูบคลำกลุ่มหมอยที่ไม่ดกไม่บางบนโคกหีของเธอเองอย่างแผ่วเบาพร้อมๆกับที่เธอพูดสายกับเจ้านายไปด้วย
กลิ่นควาโชยมาเข้าจมูกของเอกอีกระลอกเขาเห็นนิ้วมือของพี่วาลากผ่านไปตามร่องแคมนั้นอย่างช้าๆขึ้นๆลงๆกลับไปกลับมาขาฉีกแยกออกจากกันมาขึ้น "อูยยยย....ทอมขา
วาเสียวค่ะเดี๋ยวนะคะวาขอปิดม่านที่หน้าห้องก่อน" เอกคิดว่าพี่วาจะลุกไปปิดม่านที่หน้าห้องจึงคิดว่าตัวเองควรออกจากที่นี่ได้แล้วแต่เขาก็ไม่เห็นวี่แววว่าพี่วาจะลุกจากเก้าอี้เลยแต่เธอกลับเอามือที่ถือหูโทรศัพท์นั้นเอื้อมคลำลงมาที่ใต้โต๊ะจนเจอสวิทช์ตัวหนึ่งที่เอกก็ไม่ได้สังเกตุเห็นมาก่อนแล้วกดลงไป
เอกได้ยินเสียงครางเบาๆของมอเตอร์ไฟฟ้าดังจากที่ใดที่หนึ่งจึงฉุกคิดว่า คงจะเป็นม่านระบบไฟฟ้า...โอว...ไฮเทคฉิบหาย...การสนทนาในสายคงจะเข้าจุดสำคัญแล้วเพราะสังเกตุได้จากนิ้วมือของพี่วาเริ่มถูรูดหีตัวเองเร็วขึ้น
และแรงขึ้นเสียงพูดก็เริ่มกระเส่าแล้วนิ้วที่ถูไถก็เปลี่ยนอาการไป โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วนางแหวกถ่างแคมหีทั้งซ้ายขวาของตัวเองออกแล้วใช้นิ้วกลางกระดกเขี่ยลงไปบนเม็ดแตดที่ลุกชี้ชันของเธอและเปลี่ยนเป็นกระดกตี
อย่างรวดเร็วน้ำเมือกแห่งความกะระสันเอ่อล้นออกมาอย่างมากมายแล้วเพราะเอกได้ยินเสียงเจ๊าะแจ๊ะๆดังตามจังนิ้วนิ้วของพี่วาด้วยสักพักเอกก็เห็นปลายนิ้วกลางนั้ผลุบหายลงไปในรูหีของเธอแล้วชักเข้าชักออกสั้นๆถี่ๆ
พร้อมๆกับขาสวยได้รูปที่ยันพื้นห้องอยู่ทั้งสองข้างเกร็งเหยียดและถีบเก้าอี้ที่มีล้อเลื่อนนั้นให้ถดถอยไปด้านหลังแล้วยกเท้าขึ้นทีละข้าถีบยันกับขอบโต๊ะทำงานจากภาพที่เอกเห็นได้ราวๆ 80%