‘ปัง’ ลู่เหลียงชวนเตะประตูอย่างแรงและเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น
 
ซูหน่วนหยางลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารทันทีและหันกลับไปมอง
 
เธอเห็นรอยลิปสติกที่เด่นสะดุดตาในชั่วพริบตา
 
เขาเรียกสิ่งนี้ว่าทำงานล่วงเวลาอย่างนั้นเหรอ?
 
ซูหน่วนหยางรู้สึกเหน็บหนาวในใจ ใบหน้าของเธอซีดเผือดไร้สีเลือด เธอพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ลู่เหลียงชวน คุณ…”
 
“ซูหน่วนหยาง ผมกลับมาแล้วนี่ไง คุณควรหุบปากได้แล้ว” เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเย็นชาของเขา
 
ใบหน้าของลู่เหลียงชวนดูเหนื่อยล้า ทว่ายังหล่อเหลาและเคร่งขรึมเหมือนเดิม แต่ยังคงแผ่รัศมีที่น่าสะพรึงกลัวออกมา เขาก้าวขายาวๆ เดินไปหาซูหน่วนหยางทีละก้าว
 
“ต่อไปผมจะกลับบ้านตรงเวลา แต่คุณอย่าพูดต่อหน้าผมอีกเลย แค่ได้ยินเสียงคุณ ผมก็รู้สึกขยะแขยงแล้ว” เขาจ้องเธอด้วยดวงตาแหลมคมดุจมีดที่เฉือนเนื้อและเลือดของเธออย่างช้าๆ "และอย่าปรากฏตัวต่อหน้าผมอีก แค่เห็นคุณ ผมก็คลื่นไส้จนอยากอ้วก” 
 
เลือดบนหน้าของซูหน่วนหยางเหมือนถูกสูบออกจนหมดในชั่วพริบตา
 
เขามัวแต่ยุ่งอยู่กับหลินอ้ายหลานข้างนอก แม้แต่รอยลิปสติกก็ไม่คิดจะลบมันออก พอก้าวเท้าเข้าบ้านก็พูดเสียดสีเธอแล้ว แบบนี้ไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ? 
 
หัวใจของผู้ชายคนนี้ทำด้วยหินหรือเปล่า?
 
ลู่เหลียงชวนละสายตาจากเธออย่างเฉยเมย เดินผ่านเธอไปอย่างไม่แยแส และขึ้นไปชั้นบนโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
 
สำหรับอาหารเย็นบนโต๊ะนั้น เขาไม่ได้แม้แต่จะปรายตามองให้เสียเวลาด้วยซ้ำ
 
มือสองข้างที่ตกลงอยู่ข้างลำตัวของซูหน่วนหยางก็ยังไม่สามารถกำเข้าหากันได้   จิตใจของเธอว่างเปล่า และในที่สุดเธอก็โพล่งประโยคที่กล้าหาญออกมา
 
“ลู่เหลียงชวน หย่ากันเถอะ” 
 
ฝีเท้าของลู่เหลียงชวนหยุดทันที ศีรษะของเขาหันข้างเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววดุดันน่ากลัว แต่ดวงตายังคงเย็นชาเฉียบคม
 
“ซูหน่วนหยาง คิดจะเล่นแง่อะไรอีก?”  
 
ซูหน่วนหยางกำมือแน่น เล็บของเธอจิกผ่านผิวหนังบนฝ่ามือ ทำให้เกิดความเจ็บจี๊ดจนถึงกระดูก
 
“ลู่เหลียงชวน ฉัน...ตกลงจะหย่ากับคุณ” เธอเงยหน้าขึ้น จ้องไปที่เขาด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว เธอเม้มปากแน่น กลืนน้ำลายหนึ่งอึก และพูดประโยคครึ่งหลังอย่างยากลำบาก “ตราบใดที่คุณ ...นอนกับฉันคืนนี้”
 
หลังจากสามปีของการแต่งงาน ผู้ชายคนนี้ไม่เคยแตะต้องแม้แต่ปลายผมของเธอเลยด้วยซ้ำ
 
ลู่เหลียงชวนหรี่ตาลง หันปลายเท้ากลับมา และเดินไปหาเธออย่างช้าๆ ด้วยรัศมีอันทรงพลัง
 
หัวใจของซูหน่วนหยางเต้นระรัวในทันที ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว เธอละสายตามองไปทางอื่น พยายามจะหนี แต่ในวินาทีต่อมา ลู่เหลียงชวนก็จับคางของเธออย่างแรง บังคับให้เธอหันหน้ามาทางเขา ทำให้เธอต้องมองดวงตาที่เฉียบคมของเขา
 
“ซูหน่วนหยาง ที่พูดมาจริงหรือเปล่า?”  
 
หย่ากับเธอ แต่มีบางอย่างที่เขาทำไม่ได้
 
ข้อตกลงการแต่งงานที่น่ารังเกียจนั้นจำกัดเสรีภาพของเขาเป็นเวลาสามปี
 
ดวงตาของซูหน่วนหยางเต็มไปด้วยความขมขื่น ปรากฏว่าผู้ชายคนนี้เต็มใจที่จะสัมผัสเธอแล้ว และกลายเป็นเธอเองที่ทนไม่ไหว 
 
ดวงตาของเธอหลุบมองต่ำ มองไปที่รอยลิปสติกที่บาดตาบนเสื้อของเขา และหัวใจของเธอก็เจ็บปวดจนชาไปทั่วร่างอีกครั้ง
 
ริมฝีปากซีดค่อยๆ ปรากฏรอยยิ้มซีดเซียวและเยือกเย็น เธอยกขนตาที่สั่นเทาขึ้นอย่างยากลำบากเพื่อสบตากับเขา
 
“ใช่ ถ้าคืนนี้คุณนอนกับฉัน พรุ่งนี้ฉันจะหย่ากับคุณ” 
 
เธอพอแล้วสำหรับการแต่งงานที่ไม่แยแสและมีแต่ความขมขื่นนี้
 
ตอนนี้เธอแค่ต้องการใกล้ชิดกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นตัดความหลงใหลและความรู้สึกที่ไร้สาระของเธอออกไป และสุดท้าย...จากไปตลอดกาล
 
ลู่เหลียงชวนจ้องมองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความลึกและความมืดที่เข้าใจยาก และนิ้วที่บีบคางของซูหน่วนหยางก็ค่อยๆ ออกแรงบีบมากขึ้น ราวกับว่าเขาต้องการบีบคางเล็กๆ นี้ให้แหลกคามือ
 
“ซูหน่วนหยาง ไม่นึกเลยว่าคนอย่างคุณนอกจากไร้ค่าแล้วก็ยังดูถูกตัวเอง ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง แต่ผมไม่อยากแตะต้องผู้หญิงที่น่ารังเกียจอย่างคุณจริงๆ”  
 
ดวงตาของซูหน่วนหยางเบิกกว้างขึ้นทันที เธอจ้องไปที่ผู้ชายเย็นชาตรงหน้าด้วยอาการมึนงงและเจ็บปวด
 
ผมไม่อยากแตะต้องตัวคุณ...
 
ในใจของเขา เธอน่ารังเกียจยิ่งกว่าขยะอีกหรือ?