ตอนที่ 53: เสี่ยงโชคกับก้อนหิน
 
มีข้อความเป็นพันข้อความในแชทกลุ่ม ซึ่งทำให้กู้หนิงรู้สึกทึ่ง พวกเขาเป็นคนช่างจ้อกันเหลือเกิน!
 
กู้หนิงไล่อ่านข้อความเหล่านั้น มีคนถามว่าเธอถึงเมือง G หรือยังในขณะที่อีกคนอยากรู้ว่ากู้หนิงไปเมือง G ทำไม
 
หนึ่งในนั้นบอกว่าเธอมาที่นี่เพื่อเยี่ยมญาติในขณะที่อีกคนบอกว่าเธอมาหาเพื่อนหรือนัดบอด กู้หนิงอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ
 
กู้หนิง: ฉันอยู่โรงแรมแล้ว ปลอดภัยดี
 
ฮ่าวหรัน: ว้าว บอสอยู่นี่ด้วย
 
ฉู่เพ่ยหาน: บอส อย่าลืมของฝากนะ! (อิโมจิของขวัญ)
 
มู่เค่อ: อย่าลืมของขวัญของพวกเรานะ! (อิโมจิของขวัญ)
 
ฉินซีหุน: อย่าลืมของขวัญของพวกเรานะ! (อิโมจิของขวัญ)
 
จางเทียนปิง: อย่าลืมของขวัญของพวกเรานะ! (อิโมจิของขวัญ)
 
หยูหมิงซี: อย่าลืมของขวัญของพวกเรานะ! (อิโมจิของขวัญ)
 
กู้หนิงหัวเราะเสียงดัง คนพวกนี้น่ารักกันจริงๆ เธอยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้ออะไรเป็นของฝากให้พวกเขา
 
กู้หนิง: “ฉันไม่ลืมหรอก ดึกแล้ว ฉันต้องไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ยุ่งมาก!”
 
ฉู่เพ่ยหาน: ก็ได้ ฉันยิ่งอยากรู้มากๆว่าตอนนี้เธอทำอะไรอยู่
 
ฮ่าวหรัน: ใช่ บอส เธอกำลังใช้ชีวิตหรูหราโดยไม่มีพวกเราใช่ไหม?
 
มู่เค่อ: ไร้สาระ ฮ่าวหรัน นายใช้ชีวิตหรูหราอยู่แล้ว (อิโมเตะ)
 
ฉินซุหุนและจางเทียนปิง: เห็นด้วย! (อิโมจิเตะ)
 
ฮ่าวหรัน: พวกนายรังแกฉัน! (อิโมจิร้องไห้)
 
ฮ่าวหรัน: บอส ดูแลฉันหน่อย (อิโมจิน่าสงสาร)
 
กู้หนิง: ออกไปซะ (อิโมจิเตะ)
 
ทุกคน: ฮ่าๆๆๆ (อิโมจิหัวเราะ)
 
ฮ่าวหรัน: พวกนาย! ฉันกำลังจะตาย (อิโมจิเลือดพุ่ง)
 
กู้หนิง: เอาล่ะ ฉันมีเรื่องใหญ่ที่ต้องจัดการและจะบอกพวกนายสักวัน ราตรีสวัสดิ์
 
หยูหมิงซี: ฝันดี กู้หนิง
 
ทุกคน: ฝันดี บอส
 
หลังจากแชทคุยในวีแชท กู้หนิงก็กลับมาอ่านหนังสือต่อ
 
การพนันหินหรือการเสี่ยงโชคกับหิน หมายถึงเมื่อก้อนหินที่ถูกขุดขึ้นจากเหมืองจะมีชั้นปกคลุมอยู่หนึ่งชั้นล้อมรอบ มันยากที่จะบอกคุณภาพของหยก จะต้องมีการเจียระไนเพื่อทราบถึงคุณภาพของหยก
 
มีคำพูดในวงการค้าขายอัญมณีว่า การเสี่ยงโชคกับก้อนหินก็เหมือนกับการเล่นพนันเดิมพันชีวิต ผู้ชนะจะได้รับเงินเพิ่มขึ้นสิบเท่าหรือหลายร้อยเท่าและกลายเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืน ในขณะที่ผู้แพ้อาจสูญเสียทุกอย่าง เปรียบเทียบกับการลงทุนในหุ้น อสังหาริมทรัพย์ หรืออื่นๆ เหล่านั้นมีความเสี่ยงเพียงระดับปานกลางเท่านั้น
 
การซื้อและขายหินหยกเป็นการค้าที่ลึกลับที่สุดในอุตสาหกรรมอัญมณี ความลึกลับของมันจัดอยู่หมวด“ การพนัน” ดังนั้นผู้ซื้อจึงมักจะเรียกมันว่าการพนันหยกหรือการพนันหิน
 
โดยทั่วไปไม่มีใครสามารถบอกได้ว่ามีอะไรในก้อนหินเกิดจากลักษณะทางกายภาพที่ปรากฏในตอนแรก แม้จะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในวันนี้ แต่ก็ไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถระบุได้อย่างรวดเร็วว่าหินก้อนนี้มีค่าหรือไม่มีค่าผ่านชั้นหินที่ห่อหุ้มไว้ ดังนั้นความเสี่ยงในการซื้อและขายหินจึงสูงมากและมันก็น่าตื่นเต้นเช่นกัน ดังนั้นมันจึงถูกเรียกว่า “การพนัน” และค่อนข้างทำกำไรถ้าใครชนะ ดังนั้นธุรกิจนี้ดำเนินมาตั้งแต่สมัยโบราณ
 
หยกที่ใช้ในการเสี่ยงโชคแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ โดยขึ้นอยู่กับประเภทสีและความโปร่งใส
 
อีกครั้งคุณภาพของหยกส่วนใหญ่อาศัยสามประการ: ประเภท, สีและความโปร่งใส
 
ประเภทบ่งบอกถึงความหลากหลายของหยกว่ามีกี่ประเภท ประเภทที่ดีที่สุดนั้นหายาก ดังนั้นประเภทของหยกมีความสำคัญอย่างยิ่ง
 
สีก็บ่งบอกถึงสีของหยกซึ่งมีหลายสีด้วยกัน แต่สีที่นิยมมากที่สุดเป็นสีเขียวสว่าง สีจากระดับสูงถึงต่ำคือสีเขียว คือ (สีเขียวของหยกจักรพรรดิ,สีเขียวสดใส, สีเขียวแอปเปิ้ล), สีแดง, สีเหลืองและสีม่วง
 
การผลิตหยกสีพิเศษค่อนข้างยาก สีของหยกจะต้องเข้ากับความโปร่งใสที่ดีและจะต้องมีรอยร้าวให้น้อยที่สุด
 
ความโปร่งใสคือความสามารถของหยกเพื่อให้แสงที่มองเห็นผ่านได้
 
หยกที่มีความโปร่งใสสูงจะมีค่ามาก หยกที่ดีที่สุดควรมีความโปร่งใสเหมือนแก้วและถูกเรียกว่า "ก้นแก้ว" ในอุตสาหกรรมหยก
 
หลังจากทำความเข้าใจกับการเลือกคัดหิน กู้หนิงก็หันไปที่คอมพิวเตอร์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ การพัฒนา ชื่อเสียงผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท
 
ไม่ว่าจะเป็นบรรทัดแรก บรรทัดที่สองหรือบรรทัดที่สามหรือไม่ได้อยู่ในบรรทัด กู้หนิงก็กวาดสายตาอ่านมันทั้งหมด
 
แต่เวลามีจำกัด ดังนั้นกู้หนิงจึงไม่ได้เช็คแบรนด์ต่างประเทศ กู้หนิงจะไม่ไปเร็วมากนัก เธอต้องการสั่งสมชื่อเสียง ดังนั้นเธอรู้ว่าควรจะเริ่มอย่างช้าๆ
 
วันต่อมา กู้หนิงตื่นเจ็ดโมงเช้า เธอสั่งอาหารเช้าเป็นอันดับแรกจากนั้นก็เข้าไปแปรงฟันและล้างหน้า
 
สามสิบนาทีต่อมาอาหารเช้าก็มาเสิร์ฟที่ห้อง กู้หนิงไม่รีบร้อน เพราะมันยังเช้าอยู่ ร้านค้ายังไม่เปิด
 
แปดโมงครึ่ง กู้หนิงก็โทรหาแผนกต้อนรับและเผื่อขอใช้รถรับส่งส่วนตัว
 
โรงแรมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อกู้หนิงลงมาชั้นหนึ่ง รถก็จอดรอเธออยู่ก่อนแล้ว
 
โบราณวัตถุและการพนันหินอยู่ด้วยกันเสมอ กู้หนิงบอกให้คนขับพาเธอไปตลาดขายของเก่า
 
ตลาดขายของเก่าอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เธอควรไปถึงที่นั่นหลังจากผ่านไปสี่สิบนาทีถ้ารถไม่ติด
 
ระหว่างทาง กู้หนิงก็หยิบเอามือถืออกมา เพื่อนของเธอต่างสนทนากันในกลุ่มแชทอีกครั้ง แต่หัวข้อสนทนาไม่เกี่ยวกับกู้หนิง เธอเพียงมองดูและเก็บมือถือคืนดังเดิม
 
เมื่อเธอมาถึงตลาดขายของเก่า ก็เกือบเก้าโมง ตลาดขายของเก่าค่อนข้างดูคึกคัก กู้หนิงรู้ว่าตัวเธอคงใช้เวลาอยู่ในตลาดนาน เธอไม่อยากให้คนขับรถเธอ ดังนั้นเธอจึงบอกคนขับรถให้กลับไปก่อน และเธอจะโทรเรียกเมื่อเธอต้องการจะกลับ
 
เมื่อกู้หนิงเดินเข้าไปในตลาด เธอตื่นเต้นและประหม่า
 
ตลาดขายของเก่าในเมือง G มีขนาดใหญ่กว่าเมือง F มาก ของต่างๆก็มีมากเช่นเดียวกัน ตอนนี้พลังตาทิพย์ของกู้หนิงนั้นบางเบา ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะดูหินก่อน เธอต้องการที่จะดูดซับพลังงาน
 
ของเก่าและการพนันหินอยู่แยกกันสองฝั่งถนน กู้หนิงเดิมตามป้ายไปยังถนนที่มีการพนันหิน
 
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่ก็ยิ่งเต้นเต้นเท่านั้น พลังและเงินจำนวนมากกำลังรอเธออยู่เบื้องหน้า
 
ตลาดเสี่ยงโชคพนันหินในเมือง G มีขนาดไม่ใหญ่ มีเพียงประมาณสิบร้านแต่ก็มีคนอยู่เต็มทุกร้าน
 
กู้หนิงเดินเข้าร้านแรกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ร้านมีขนาดสี่สิบตารางเมตร มีก้อนหินก้อนใหญ่และก้อนเล็กวางเรียงรายบนพื้นและชั้นวาง
 
นั่นเป็นหินดิบๆที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน หินเหล่านี้ถูกเลือกจัดสรรโดยเจ้าของร้านและติดป้ายบอกราคาไว้
 
 54: ได้หยกมาแล้ว
 
ก้อนหินบนพื้นเป็นเกรดต่ำส่วนบนชั้นเป็นเกรดสูงขึ้นมา ก้อนหินดิบพวกนี้จะขายเป็นชิ้นหรือใช้น้ำหนักเป็นเกณฑ์
 
ราคาของก้อนหินดิบไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาด จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญถ้าเนื้อผิวดีและมีสีเขียวเรทราคาจะสูง มันจะถูกระบุว่าเป็นเกรดที่สูงกว่าทั่วไปและมีราคาแพงกว่า
 
แน่นอนว่าเกรดสูงก็ไม่อาจเทียบกับเรทสีเขียวได้ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะระบุก้อนหินว่าชิ้นไหนดีไม่ดี ไม่มีใครรู้ว่ามีมรกตอยู่ในก้อนหินหรือไม่
 
เพราะฉะนั้นถึงจะเป็นก้อนหินเกรดต่ำก็มีความเป็นไปได้ว่าจะมีหยกอยู่ในนั้นทั้งหมดขึ้นอยู่กับโชคของคนผู้นั้นด้วย
 
มีคนหลายคนในร้านและไม่มีใครออกมาต้อนรับกู้หนิง กู้หนิงกลับชอบแบบนี้ เธอไม่ค่อยชอบให้พนักงานขายคอยยืนตามเธอและคอยพูดข้างหูเธอ
 
ทันใดกู้หนิงก็ใช้ตาทิพย์กวาดดูก้อนหินเหล่านั้น เธอตรวจดูบนชั้นก่อนเป็นอันดับแรก พวกมันควรจะอยู่ในระดับสูงสีเขียว แต่น่าผิดหวัง พวกมันเป็นเพียงเกรดธรรมดาๆสีขาวเท่านั้น
 
ถึงแม้จะมีหยกในก้อนหินเหล่านั้น แต่ก็เป็นหยกคุณภาพไม่ดี มันไม่คุ้มพอจะผ่ามันออกมาด้วยซ้ำ กู้หนิงไม่อยากเสียเวลากับมัน
 
จากนั้นกูหนิงก็หันไปดูก้อนหินที่วางอยู่บนพื้น ดูเหมือนว่าจะพึ่งแค่ตาทิพย์ไม่พอเสียแล้ว กู้หนิงยังต้องการโชคอีกด้วย!
 
เธอเดินออกมาจากร้านแรกอย่างผิดหวังจากนั้นก็เข้าไปอีกร้าน ผลก็เหมือนเดิม ก้อนหินก็เป็นก้อนสีขาวเหมือนกันหรือมีหยกคุณภาพแย่อยู่ในนั้น
 
พลังของกู้หนิงนั้นยังมีไม่มาก เวลาผ่านไปไม่นานเธอก็เหนื่อยอ่อนแรง เธอภาวนาในใจว่าขอให้เจอหยกชิ้นงามเร็วๆ ไม่อย่างนั้นพลังของเธอจะถูกใช้จนหมด ไม่มีพลังเธอก็ไม่สามารถใช้ตาทิพย์ได้
 
ดูเหมือนว่าพระเจ้าได้ยินคำภาวนากู้หนิง เมื่อกู้หนิงกำลังจะหยุดใช้ตาทิพย์ เธอเจอก้อนหินดิบสองก้อนที่มีหยกอยู่ข้างในท่ามกลางก้อนหินก้อนอื่นๆ
 
ก้อนแรกมีขนาดเกือบลูกฟุตบอล ในขณะที่อีกอันใหญ่กว่าลูกแอปเปิ้ลนิดเดียว ทั้งสองก้อนต่างมีคุณภาพดีทั้งคู่
 
กู้หนิงตื่นเต้นแต่ยังสงบนิ่ง เธอเดินเข้าไปเหมือนลูกค้าคนอื่นๆ กู้หนิงหยิบก้อนหินสองก้อนใส่ในรถเข็น
 
เพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจ กู้หนิงหยิบก้อนอื่นมาด้วย พวกมันมีขนาดเล็กกว่าลูกฟุตบอล
 
“เอ่อ ทั้งหมดนี่เท่าไหร่คะ?” กู้หนิงเลื่อนรถเข็นมาตรงหน้าเค้าเตอร์
 
เจ้าของร้านแปลกใจที่เห็นกู้หนิงที่เป็นเด็กสาววัยรุ่น แต่ในเมื่อเธอเป็นลูกค้าเขาจึงปฏิบัติต่อเธออย่างใจดี
 
มีป้ายติดที่ก้อนหิน ดังนั้นเจ้าของร้านจึงไม่ถามว่าเธอหยิบมาจากตรงไหน ก้อนหินเหล่านี้เกรดต่ำ ราคาจึงสองร้อยหยวนต่อน้ำหนักหนึ่งปอนด์
 
ก้อนหินที่กู้หนิงหยิบมามีทั้งหมดห้าก้อน แต่ล่ะก้อนมีขนาดไม่ใหญ่ ทั้งหมดหนักสี่สิบปอนด์และมีราคาทั้งหมดแปดพันหยวน
 
แปดพันหยวนถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับสิ่งที่อยู่ข้างใน ถ้ามันเป็นเพียงหินธรรมดา แปดพันหยวนก็ยังถือว่ามากเกินไป
 
กู้หนิงจ่ายเงิน เจ้าของร้านเอ่ยถามว่า “คุณหนูต้องการผ่าหินออกหรือเปล่าครับ?”
 
“ค่ะ ขอบคุณ” กู้หนิงตอบ กู้หนิงมาที่นี่เพื่อเงิน เธอต้องการผ่าก้อนกินนี้ออกโดยเร็วและรีบขายหยกให้ไวที่สุด
 
“หลาวจาง มาผ่าหินนี้ออกหน่อยสิ” เจ้าของร้านเรียกคนที่อยู่ข้างใน
 
“มาแล้วครับ” ผู้ชายอายุประมาณห้าสิบปีเดินออกมาจากห้อง เขาเดินมาที่เค้าเตอร์ เมื่อเห็นกู้หนิงเขาประหลาดใจที่ลูกคาเป็นเด็กสาววัยรุ่น
 
หลาวจางเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ “คุณหนู คุณหนูต้องการให้ผ่าก้อนหินใช่ไหมครับ?”
 
“ค่ะ” กู้หนิงตอบ
 
“กรุณาตามผมมา” หลางจางเชิญกู้หนิงไปยังพื้นที่ไว้สำหรับผ่าก้อนหิน
 
ในขณะเดียวกันลูกค้าในร้านก็พากันมองไปรอบ ๆ
 
ถึงแม้ความเป็นไปได้ที่จะเอาหยกออกมาจากก้อนหินได้นั้นน้อยมากๆ แต่มันก็ยังตื่นเต้นสำหรับนักแสวงโชคจากก้อนหิน บรรดาเหล่านักพนันก็ยังมีความหวัง
 
ทุกคนที่ชอบเล่นการพนันหินมีความรู้สึกเหมือนกัน และทุกคนก็ประหลาดใจที่เจ้าของก้อนหินเป็นเด็กสาวคนหนึ่งเพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าวัยกลางคนหรือไม่ก็สูงอายุ มีลูกค้ารุ่นหนุ่มสาวค่อนข้างน้อยโดยเฉพาะเด็กสาวๆ
 
กู้หนิงวางก้อนหินที่ใช้ไม่ได้ก่อนให้พนักงาน เขาถามเธอว่า “คุณหนู คุณจะตัดแบบไหน ให้ขัดหรือให้ผ่า?”
 
“ผ่าค่ะ” กู้หนิงตอบ
 
“ผ่าไปตรงๆหรือค่อยๆผ่าเป็นชั้นๆ?” พนักงานถามอีกครั้ง ถึงแม้เขาจะพอบอกได้ว่าก้อนหินนี้จะไม่มีอะไรอยู่ภายใน แต่เขาก็จำเป็นต้องถามความต้องการของลูกค้า
 
“ผ่าตรงๆไปเลยค่ะ” มันก็เป็นก้อนหินเปล่าๆก้อหนึ่ง กู้หนิงไม่สนใจ
 
การผ่าหินไปตรงๆไม่ได้หมายความว่าจะผ่าแบบมั่วซั่ว พนักงานยังคงเลือกมุมในการผ่า
 
เครื่องเริ่มทำงาน หลังจากผ่ารอบแรก ก็เห็นเพียงก้อนหินสีขาวข้างใน หลังจากผ่าอีกครั้งก็ยังไม่มีอะไรอีก รอบที่สามก้อนหินถูกผ่าออกไปครึ่งหนึ่งแล้วก็ยังไม่มีอะไรข้างใน
 
แต่หากมีหยกอยู่ข้างในจริงๆ พวกเขาก็จะพากันอิจฉาริษยา มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์
 
กู้หนิงหยิบอีกก้อนขึ้นมาอย่างใจเย็น มันคงเป็นหินธรรมดาไม่มีอะไร ผู้คนเริ่มเบื่อ บางคนก็เดินจากไป ครั้งที่สาม กู้หนิงหยิบก้อนใหญ่ที่มีหยกออกมา
 
“ให้หนูขีดเส้นก่อนค่ะ” กู้หนิงเอ่ย จากนั้นก็วาดเส้นลงบนก้อนหิน เธอไม่ได้วาดเส้นอย่างแม่นยำ แต่โดยทั่วไปแล้วเหมือนกัน
 
เครื่องตัดทำงานอีกครั้ง หลังจากผ่ารอบแรก เปลือกขั้นแรกก็หลุดออกเผยให้เห็นสีเขียวด้านใน
 
ทันใดนั้นกู้หนิงก็สัมผัสได้ถึงพลังที่แข่งแกร่ง เธอตื่นเต้นและแทบทนรอไม่ไหวที่จะดูดซับพลัง พลังถูกเธอดูดซับ เธอรู้สึกเย็นและโปร่งโล่งสบาย สายตาเธอคมชัดดีกว่าเดิมและความกระปรี่ประเปร่าในตัวเธอ ในขณะเดียวกัน พนักงานก็ส่งเสียงดังขึ้นอย่างตื่นเต้น
 
“หยก! มีหยกอยู่ข้างใน!” เสียงของเขาดึงดูดความสนใจของคนทั้งร้าน
 
คนที่อยู่ด้านหน้าตาค้าง มันน่าเหลือเชื่อ! คนที่เพิ่งจากไปก็หันกลับมาทันทีและคนที่เพิ่งเข้ามาในร้านก็พากันเดินมาดู
 
“อะไรนะ? มีหยกอยู่ข้างใน?”
 
“ใช่ มีหยกอยู่ข้างใน!”
 
คนที่มุงดูต่างพากันตื่นเต้นมากกว่ากู้หนิงที่เป็นเจ้าของ เพราะการพนันหินเป็นอะไรที่มีความเสี่ยงสูงมากและก้อนหินสีเขียวก็หาพบได้ยาก
 
พวกเขารู้ว่ากู้หนิงเป็นเจ้าของ พวกเขาต่างก็มองไปที่กู้หนิงด้วยความอิจฉา แต่กู้หนิงก็สงบนิ่งตามปกติ